คมนาคมกางแผน “รถไฟ EV” เล็งทดสอบรถต้นแบบปี 66

ตัวอย่างรถไฟ EV on Train ในต่างประเทศ

“คมนาคม” กางแผนนำร่อง “รถไฟ EV” เล็งพัฒนารถไฟต้นแบบนำทดสอบในศูนย์ทดสอบและนำวิ่งบนเส้นทางในปี 66 ก่อนเข็นแผนระยะยาวถึงปี’76 3 หน่วยงานราง “กรมราง-รถไฟ-สถานบันวิจัย” ปูพรมปรับปรุงรถจักร 4 คัน นำร่องทดสอบปี’66 เช่นกัน

วันที่ 27 สิงหาคม 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมการผลักดันการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ กรณีรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ครั้งที่ 3 ได้เห็นชอยในการปรับปรุงแผนการนำรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่ติดตั้งในตัวรถไฟมาใช้ในประเทศให้เร็วขึ้นจากแผนเดิมปี 2568 เป็นปี 2566

ปี 66 ทดสอบ รถไฟ EV ต้นแบบ

โดยในปี 2564 จะดำเนินการศึกษาและออกแบบรถไฟ EV ที่เหมาะสมกับประเทศไทย จากนั้นในปี 2565 จะเป็นการเตรียมการและดำเนินการดัดแปลงรถไฟ EV จากรถจักรเก่า และในปี 2566 ดำเนินการทดสอบรถไฟ EV ในศูนย์ทดสอบและทดลองวิ่งในเส้นทาง

3 หน่วยงานนำร่องปรับปรุงรถจักรเก่าภายในปี 66

นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการจัดทำแผนการดำเนินงาน นำรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train มาใช้ในประเทศไทย โดยมีแผนครอบคลุมตั้งแต่ปี 2564 จนถึง ปี 2576 โดยมีโครงการระยะสั้น ที่ทางกรมการขนส่งทางราง ( ขร.) ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์กรมหาชน) และสถาบันการศึกษา จะร่วมมือกันปรับปรุงรถจักรเก่า GEK หรือ Alsthom เป็นระบบ Battery Locomotive จำนวน 4 คัน ให้แล้วเสร็จในปี 2566 และโครงการจัดหารถจักรสับเปลี่ยน (Battery Shunting Locomotive) จำนวน 20 คัน ที่จะนำมาใช้งานภายในปี 2567

โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รับทราบ และมีข้อสั่งการเพิ่มเติม ดังนี้

1.ให้ ขร. และ ร.ฟ.ท. จัดทำแผนการดำเนินการและขั้นตอนในการนำรถไฟ EV on Train มาใช้ในประเทศไทยให้มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม รวมทั้งจัดหาทุนในการดำเนินการ

2. ให้ ร.ฟ.ท. ร่วมกับสถาบันการศึกษาทำการศึกษาวิจัยการนำรถไฟ EV on Train มาใช้สำหรับลากจูงขบวนรถไฟที่จะเข้ามาใช้สถานีกลางบางซื่อในระยะเร่งด่วน

3. ให้หน่วยงานผู้ให้บริการระบบรางที่ใช้พลังงานไฟฟ้าศึกษาความต้องการและการบริหารจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อให้มีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยอาจพิจารณาการจัดสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อจ่ายพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการเดินรถ และส่วนที่เหลือสามารถนำมาจ่ายคืนไปยังระบบไฟฟ้า