BTS แจงฟ้องศาลปกครองแล้ว ทวงหนี้ กทม. ก้อนแรก 1.2 หมื่นล้าน 

 BTS แจงฟ้องศาลปกครองตั้งแต่ 15 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา ทวงหนี้ กทม.ก้อนแรก 1.2 หมื่นล้าน 

วันที่ 30 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากกลุ่มบีทีเอสขู่ฟ้องกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทวงหนี้ค่าเดินรถในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว 3 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ปลายปี 2563 ล่าสุดทางผู้บริหารบีทีเอสยอมรับว่าได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเรียบร้อยแล้ว โดย นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) กล่าวว่า ได้นำกรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ค้างค่าจ้างเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต และช่วงแบริ่ง – เคหะสมุทรปราการ เป็นจำนวนมูลหนี้รวม 1.2 หมื่นล้านบาท ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางแล้วเมื่แวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา และได้รับคำฟ้องเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564

โดยอยู่ระหว่างรอ กทม.และบจ.กรุงเทพธนาคม (KT) ทำคำชี้แจงตอบกลับมา โดยการฟ้องร้องครั้งนี้ยังไม่ได้รวมการจ้างก่อสร้างงานระบบ ที่มีมูลหนี้รวมอีก 20,000 ล้านบาท แต่คาดว่าจะฟ้องร้องในกรณีนี้แน่นอนในระยะถัดไป


ซึ่งการที่กทม.ค้างค่าจ้างเดินรถนี้ถือว่ากระทบกับบริษัทมาก เพราะบริษัทต้องไปหาแหล่งเงินกู้เพื่อมาจ่ายค่าเดินรถในส่วนนี้ไปเรื่อยๆ ส่วนจะคุยกับกทม.เพื่อปรับขึ้นค่าโดยสารหรือไม่ เป็นเรื่องของกทม. โดยตอนนี้ยังวิ่งให้บริการฟรีในช่วงต่อขยายดังกล่าวเรื่อยๆ 

ด้านแหล่งข่าวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ”ว่า ได้รับทราบกรณีที่ BTSC ยื่นฟ้องกับศาลปกครองแล้ว อยู่ระหว่างทำหนังสือแก้คำฟ้อง โดยจะขอขยายคำฟ้องออกไปอีก 15 วัน ซึ่งศาลรับเรื่องไว้ แต่ยังไม่ได้รับเป็นคดีความ ซึ่งการฟ้องร้องครั้งนี้เพื่อทวงหนี้ทั้งเดินรถและจ้างก่อสร้างงานระบบ วงเงินรวมประมาณ 3.2 หมื่นล้าน

ทางออกสำหรับปัญหานี้ กทม.กล่าวว่า ต้องรอให้การต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียวผ่านการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยผู้ที่จะพิจารณาถึงมาตรการและช่องทางอื่นๆ ต้องขึ้นอยู่กับพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากทม.เป็นหลัก 

“ที่ผ่านมา พล.ต.อ.อัศวิน ก็เคยนำประเด็นนี้เสนอที่ประชุมสภากทม. เพื่อขอวงเงินจากสภาเพื่อมาจ่ายหนี้ในส่วนนี้ แต่ถูกปฏิเสธไปแล้ว เพราะเห็นว่าต้องนำวงเงินงบประมาณไปใช้ด้านอื่นด้วย” แหล่งข่าวกล่าว