แก้จมูกที่เกาหลี ข้อดี-ข้อเสีย ราคาแพงมั้ย เลือกแบบไหนให้ได้ทรงธรรมชาติ

ศัลยกรรมเกาหลีเป็นที่ได้รับการยอมรับ ด้วยเทคโนโลยีและความชำนาญของศัลยแพทย์ ว่าสามารถออกแบบและแก้เคสจมูกผิดรูปให้ออกมาสวย โดยไม่ต้องกลับไปแก้ซ้ำ ซึ่งมีรายละเอียดขั้นตอนที่ซับซ้อน ใครที่กำลังสนใจอยากแก้จมูก ที่เกาหลีควรศึกษาข้อดีและข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ โดยคำนึงถึงปัจจัยให้ครบรอบด้าน

ลักษณะจมูกที่ควรแก้ทรง

• ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
• บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
• กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี

เมื่อเสริมจมูกมาช่วงแรกแน่นอนว่าทรงจมูกมักดูดีกว่าก่อนทำ แต่พอผ่านไปสักระยะในเคสที่เสริมด้วยซิลิโคนที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับใบหน้า หรือไม่เหมาะกับเนื้อบริเวณจมูก ทำให้นานไปจมูกก็อาจจะเกิดการเสียทรงได้ โดยจมูกที่มีความผิดปกติที่ควรได้รับการแก้ไขมักจะมีลักษณะดังต่อไปนี้

1. จมูกเบี้ยว คด

จะมีช่วงสันจมูกเอียงไปด้านในด้านหนึ่งอย่างเห็นได้ชัดเจน มีความไม่สมมาตร อาจมีการเอียงเฉพาะบริเวณสัน หรือเบี้ยวที่ปลายด้วย ซึ่งปัญหาจมูกเบี้ยว คด มักเกิดจากการวางวัสดุที่ใช้ในการเสริมผิดตำแหน่ง หรือซิลิโคนมีความยาวที่ไม่รับกับเนื้อบริเวณจมูก และอีกสาเหตุที่พบได้บ่อยคือเป็นที่ฐานจมูกหรือโครงหน้าเดิมเอียงอยู่แล้วก็ได้เช่นกัน

2. ปลายจมูกเชิดรั้งขึ้น

ปลายจมูกเชิดรั้งขึ้นนั้นมีสาเหตุเกิดจากการอักเสบของซิลิโคนเสริมจมูก เมื่อเอาซิลิโคนออกไป ปลายจมูกก็ยังคงเชิดอยู่ มักเกิดขึ้นกันคนที่เสริมจมูกมาหลายรอบ เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ควรรีบแก้ไขเพราะเสี่ยงเกิดจมูกทะลุ

3. จมูกบาง ปลายทะลุ

เคสนี้มักเกิดจากการใช้ซิลิโคนเสริมจมูกที่ขนาดยาวเกินไป ไม่พอดีกับโครงสร้างจมูก หรือเสริมด้วยวัสดุซิลิโคนรูปตัว L ทำให้เกิดการตึงรั้งที่เนื้อบริเวณปลายจมูก จึงทำให้ช่วงปลายจมูกมีความใสเนื่องจากเนื้อบางลง มีอาการแดง เกิดรอยบุ๋ม หรืออาจมีสิวขึ้นด้วย บางเคสปลายจมูกจะงุ้มลงอย่างชัดเจน และหากปล่อยไว้นานเกินไปทำให้อักเสบติดเชื้อได้

4 เหตุผลที่หลายคนบินไปแก้จมูกที่เกาหลี

1. ศัลยแพทย์เกาหลีเชี่ยวชาญแก้ไขจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty)

ข้อดีของวิธีนี้คือ เป็นการกรีดแผลที่ฐานจมูกเพื่อเปิดให้เห็นโครงสร้างจมูก ซึ่งเทคนิคนี้จะทำให้แพทย์สามารถปรับทรงและแก้ไขได้แม่นยำมากกว่าการทำจมูกด้วยเทคนิคแบบปิด เหมาะกับคนไข้ที่ต้องการแก้ปัญหาจมูกเบี้ยวเอียง ปลายบาง จมูกอักเสบ ปลายจมูกเชิดขึ้นผิดรูป สามารถปรับโครงสร้างจมูกแก้ไขจุดบกพร่องได้ดีกว่าเทคนิคผ่าตัดแบบปิด

2. มีการใช้เนื้อเยื่อไขมันจากร่างกายมาแก้ไขจมูก

นอกจากซิลิโคนที่เป็นวัสดุในการเสริมจมูกแล้ว วัสดุที่ได้จากตัวของคนไข้เองก็เป็นสิ่งที่สามารถนำมาใช้ในการเสริมจมูกได้เช่นกัน โดยส่วนที่ศัลยแพทย์เลือกใช้มาแทนวัสดุที่เป็นซิลิโคน คือเนื้อเยื่อก้นกบ โดยการนำมาเสริมบริเวณสันจมูก เหมาะกับคนที่จมูกเคยอักเสบจากซิลิโคน หรืออาการบวมแดงจากฟิลเลอร์ ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ทรงจมูกดูละมุนไม่แข็งเป็นแท่ง ทำให้หน้าดูอ่อนหวานและเด็กลง

3. แก้จมูกโดยใช้กระดูกจากซี่โครงตัวเอง

เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่เหมาะกับการแก้ปัญหาจมูกสั้น ปลายเชิด หรือจมูกที่มีปัญหาการอักเสบจากฟิลเลอร์และซิลิโคน รวมถึงคนที่ไม่ต้องการใช้วัสดุสังเคราะห์ในการเสริมจมูก โดยวิธีนี้ศัลยแพทย์จะเลือกใช้กระดูกอ่อนซี่โครงที่ 5 – 7 ของคนไข้มาเรียงต่อกันเพื่อเสริมสันจมูกรวมถึงปลายจมูกด้วยทำให้ได้ปลายจมูกที่ยาวขึ้น โด่งขึ้น ซี่โครงตัวเองจะมีความแข็งมากกว่ากระดูกอ่อนหลังหู ทำให้ปลายจมูกดูพุ่งกว่าวัสดุอื่น

4. แก้จมูกโดยใช้เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนหลังหู

เนื้อเยื่อกระดูกอ่อนบริเวณหลังหูเป็นวัสดุจากตัวคนไข้อีกอย่างหนึ่งที่ศัลยแพทย์นิยมเลือกนำมาใช้ในการเสริมรองช่วงปลายจมูกเพื่อให้ปลายจมูกยาวขึ้น เป็นวัสดุที่นิยมเพราะมีความอ่อนแข็งพอดี ทำให้ปลายจมูกยังดูกลมเป็นธรรมชาติ ส่วนสันจมูกจะใช้ซิลิโคนในการเสริม โดยการวางซิลิโคนจะวางไม่ถึงปลายจมูก  จะช่วยแก้ปัญหาจมูกปลายบางใส ปลายจมูกทะลุ และช่วยลดความเสี่ยงจากการอักเสบได้ดี

โดยบริเวณหลังหูที่นำกระดูกอ่อนมาใช้ไม่มีผลทำให้หูผิดรูปแต่อย่างใด

แก้จมูกที่เกาหลี ดีกว่าที่ไทยมั้ย?

แก้จมูกที่ไทย: ในปัจจุบันประเทศไทยเองก็มีศัลยแพทย์ที่เก่งไม่แพ้ที่เกาหลี แต่ก็ต้องยอมรับว่าในแง่ของราคาค่อนข้างใกล้เคียงกัน ซึ่งในไทยหากเป็นหมอที่มีชื่อเสียงจะจองคิวได้ยากมากๆ และมีค่าใช้จ่ายสูงไม่ต่างจากบินไปทำที่เกาหลี สำหรับคนที่ไม่มีเวลาไปพักฟื้นที่เกาหลีนานๆ ก็แนะนำผ่าตัดในไทย รวมถึงการผ่าตัดในเกาหลีก็มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้จมูกตามต้องการก็จำเป็นต้องเสียเงินไปแก้ที่เกาหลีอีก ซึ่งคนที่ต้องการแก้ไขจมูกจำเป็นต้องศึกษาข้อดีข้อเสียเช่นกัน

แก้จมูกที่เกาหลี: แน่นอนว่าชื่อเสียงด้านการแก้จมูกที่เกาหลีโด่งดังมาก เพราะแม้แต่ศัลยแพทย์ในไทยเองก็ยังบินไปเทรนเทคนิคการผ่าตัดแก้ไขจมูกที่เกาหลีใต้ คลินิกหลายแห่งในไทยก็มักจะโฆษณาว่าแก้ไขจมูกเทคนิคเกาหลีเพื่อให้ความเชื่อมั่นว่าเก่งด้านจมูก จึงไม่แปลกใจเลยที่คนไทยไม่น้อยที่มีกำลังทรัพย์ มีเวลาพักฟื้น จะตัดสินใจไปผ่าตัดที่ประเทศเกาหลีใต้ มีเอเจนซี่พาไป หรือแม้แต่วอคอินไปผ่าตัดเองก็ยังได้ หลายๆโรงพยาบาล คลินิกในเกาหลีก็เริ่มทำการตลาดในไทย มีล่ามไทยไว้บริการคนไข้ชาวไทย รวมถึงมีโปรแกรมฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังผ่าตัดไว้บริการคนไข้ต่างชาติอีกด้วย

ใครที่สนใจแก้จมูกที่เกาหลีอยากแนะนำว่าควรมีเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลีไว้คอยดูแล เพื่อช่วยลดขั้นตอนในการจองและการนัดคิวคลินิก อีกทั้งเอเจนซี่จะมีประสบการณ์ในการคัดเลือกรพ.จมูกเก่งๆให้คนไข้ รวมถึงมีบริการล่ามและคอยวางแผนการเดินทางให้ให้ได้อย่างเหมาะสม ง่ายและอุ่นใจตลอดทุกขั้นตอนนั่นเอง

แนะนำคลินิกแก้จมูกเกาหลี เน้นทรงธรรมชาติ

1. SU:I Plastic Surgery

คลินิกที่เชี่ยวชาญด้านการแก้จมูก รวมถึงตา ยกกระชับโดยเฉพาะ แพทย์เฉพาะทาง Dr.Ahn Tae Joo ถนัดการแก้ไขจมูกด้วยเนื้อเยื่อตัวเองอย่างเนื้อเยื่อไขมันให้ผลลัพธ์จมูกธรรมชาติ ไร้ซิลิโคนตั้งแต่สันถึงปลายจมูก

2. Hanabi Rhinoplasty Clinic

คลินิกเฉพาะทางด้านจมูก ศัลยแพทย์ด้าน ENT Specialist นอกจากจะเชี่ยวชาญด้านการเสริมจมูกเพื่อความงามแล้วยังสามารถแก้ไขปัญหาจมูกคดแต่กำเนิด รวมถึงเคสจมูกCleft ที่เคยได้รับผ่าตัดมาก่อนก็สามารถแก้ไขได้ดีเช่นกัน

3. Top Class Plastic Surgery

โดดเด่นเรื่องจมูกด้วยเนื้อเยื่อจากตัวเองอย่างกระดูกอ่อนซี่โครงตัวเองให้ทรงจมูกเหมือนตุ๊กตาทรงจมูกยอดนิยมที่เรียกว่าบาร์บี้ไลน์ ออกแบบโดยศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลโดยเฉพาะ

4. ID Hospital

โรงพยาบาลศัลยกรรมครบวงจรประกอบด้วยศัลยแพทย์หลายคนแบ่งตามความเชี่ยวชาญแต่ละส่วน สามารถเลือกทรงจมูกที่ชอบและเลือกศัลยแพทย์ที่เหมาะสมกับเคสของท่านได้

5. View Plastic Surgery

อีกโรงพยาบาลครบวงจรที่ไม่ได้เด่นด้านโครงหน้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีคุณหมอเฉพาะด้านจมูกพร้อมบริการคนไข้ มีความเข้าใจพื้นฐานจมูกสาวเอเชียเป็นอย่างดี

6. Note Plastic Surgery

คลินิกศัลยกรรมน้องใหม่ ทีมแพทย์โด่งดังมาจากรายการเลทมีอินไทยแลนด์ ทำให้การทำจมูกที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของสาวไทยหลายๆท่านด้วยทรงจมูกสโลปนิดๆตามสไตล์สาวเกาหลี

แก้จมูกมีผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงอะไรบ้าง?

ผลข้างเคียงเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นหลังการผ่าตัด โดยจะหายไปเองใน 1 – 3  เดือนเมื่อจมูกเข้าที่ ซึ่งอาจมีอาการดังต่อไปนี้

–อาการบวมหลังผ่าตัด

-อาการคันที่แผลหลังแก้จมูก

-จมูกไม่สมมาตรในช่วงแรก ซึ่งจะค่อยๆดีขึ้นเมื่อหายจากการบวม

-บางเคสอาจมีการช้ำบริเวณใต้ตา

-การอักเสบติดเชื้อหลังการผ่าตัด ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะ 1 เดือนหลังผ่าตัด หากมีอาการผิดปกติเช่น มีหนอง แดง บวม ต้องพบแพทย์ทันที -บางครั้งอาการอักเสบติดเชื้อเกิดขึ้นได้เมื่อกลับถึงไทยแล้ว ด้วยสาเหตุใดๆก็ได้ คนไข้จำเป็นต้องรักษาในไทย ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นต่างๆ คนไข้ต้องรับผิดชอบตัวเอง หากเลือกจะทำการผ่าตัดที่เกาหลีแล้วก็ต้องยอมรับในความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ (แม้จะเกิดขึ้นได้น้อยก็ตาม)

แก้จมูกที่เกาหลีกี่วันถึงกลับไทยได้?

โดยปกติหลังจากแก้จมูกจะเกิดการบวมหรือช้ำ ซึ่งต้องอาศัยเวลาพักฟื้น 1 – 2 สัปดาห์จึงจะหายดี คนไข้ที่ต้องการแก้จมูกที่เกาหลีควรวางแผนอยู่เกาหลีเป็นเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่หากไม่มั่นใจกลัวเกิดการผิดพลาด แนะนำให้เลือกแก้จมูกผ่านเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลี เพราะสามารถช่วยคำนวณวันเวลา ดำเนินการจอง และวางแผนการเดินทางให้ได้แม่นยำกว่านั่นเอง

ราคาแก้จมูกที่เกาหลี

ค่าใช้จ่ายในการแก้จมูกขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละเคส โครงสร้างจมูกเดิม วัสดุ รวมทั้งเทคนิคที่ใช้ โดยปกติเคสแก้จมูกราคาจะสูงกว่าการเสริมจมูกใหม่ สำหรับการแก้จมูกที่เกาหลีจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ไม่ว่าจะเป็นการแก้ทรงทั่วไป แก้จมูกอักเสบ ปลายเชิด ปลายจมูกงุ้ม โดยราคาอยู่ที่ 200,000 – 450,000 บาท ขึ้นกับวัสดุและราคาแต่ละหมอก็แตกต่างกัน

อยากแก้จมูกที่เกาหลีต้องทำอย่างไร?

สำหรับคนที่อยากแก้จมูกที่เกาหลีสามารถเลือกไปเองหรือเลือกดำเนินการผ่านเอเจนซี่ก็ได้เช่นกัน เบื้องต้นต้องหาข้อมูลของศัลยแพทย์ เทคนิคที่ใช้ คลินิกเชื่อถือได้ ไปจนถึงวิธีการจอง การเดินทาง ที่พัก รวมถึงล่าม ซึ่งอาจจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก หรืออาจเกิดข้อผิดพลาดได้ในบางขึ้นตอน แต่หากเลือกผ่านเอเจนซี่ก็จะช่วยซัพพอร์ตขั้นตอนต่างๆได้ดีกว่า โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. เลือกเอเจนซี่ที่มีประสบการณ์

หากตัดสินใจไปผ่านเอเจนซี่แล้ว ถ้าเลือกผู้ให้บริการที่ดี มีประสบการณ์ตั้งแต่ต้นก็จะช่วยประหยัดเวลา ให้คำปรึกษา แนะนำที่รวดเร็ว ลดความกังวลไปได้เป็นอย่างมาก รวมถึงมีดีลโรงพยาบาลชั้นนำที่คนเกาหลีทำกันจริงๆ หากไม่รู้จะทำที่ไหนดี เอเจนซี่สามารถช่วยเลือกคลินิกและศัลยแพทย์ให้กับคนไข้ได้อย่างดีทีเดียว

2. ปรึกษาการศัลยกรรมผ่านช่องทางออนไลน์

เอเจนซี่ที่ดีจะพร้อมอำนวยความสะดวกคนไข้ตลอด มีการนัดปรึกษากับแพทย์ทางออนไลน์เพื่อทราบรายละเอียด แจ้งความต้องการในการแก้จมูก รวมทั้งแนะนำศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเหมาะกับเคสของตนเอง

3. วางแผนการเดินทางและวันผ่าตัด

หากจองผ่านเอเจนซี่คนไข้สามารถเลือกวันเดินทางได้ด้วยตนเอง โดยเอเจนซี่จะช่วยวางแผนระยะเวลาในการอยู่ที่เกาหลีซึ่งจะมีกำหนดการมาให้อย่างครบถ้วน เช่น การจองคิวคลินิก ไฟลต์ รวมถึงสามาถจองที่พักให้ได้อีกด้วย คนไข้เพียงแค่เช็กพาสปอร์ต เตรียมกระเป๋า และความพร้อมทั้งกายใจก็ไปได้ทันที

4. ติดต่อล่ามมืออาชีพ

เอเจนซี่ที่ดีจะมีล่ามที่เชี่ยวชาญให้บริการด้านศัลยกรรมโดยเฉพาะ ซึ่งจะอยู่กับคนไข้ตั้งแต่วันเข้าปรึกษาแพทย์ วันผ่าตัด ไปจนวัน follow up ที่ต้องพบแพทย์ด้วย ช่วยคลายความกังวลในเรื่องภาษา

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจไปแก้จมูกที่

เกาหลี ซึ่งหากใครที่มีความกังวล อยากลดขั้นตอนยุ่งยาก และอยากได้คำปรึกษา หรือข้อมูลอย่างละเอียดเพิ่มเติม แนะนำให้ไปกับเอเจนซี่จะดีที่สุด

Surgery Review หนึ่งเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลีที่ให้บริการมาเป็นเวลา 7ปี พร้อมดูแลใกล้ชิดตลอดทุกขั้นตอนศัยลกรรม ทำให้มั่นใจว่าจะได้รับความพึงพอใจในบริการอย่างแน่นอน

ปรึกษาเกี่ยวกับศัลยกรรมเกาหลี

ปรึกษาปัญหาศัลยกรรม

www.facebook.com/Srsurgeryreview/

Kate 099-469-5923

Line id: https://goo.gl/drW3hR

@srsurgery (มี @ ด้วย)