‘ชวน’ ชงกาแฟ ทำไมกลายเป็นเรื่องใหญ่ ถึงขั้นแจ้งความ?

ภาพ “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา ชงกาแฟเอง จะทำให้เกิดเรื่องบานปลาย จนชาวเน็ตถูกดำเนินคดีหรือไม่ 

วันที่ 14 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (13 ม.ค.) ในทวิตเตอร์มีการรีทวีตภาพ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กำลังกดปุ่มชงกาแฟจากเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ โดยภาพที่ส่งต่อกันดังกล่าว ระบุว่า เป็นการทวีตโดย นางสาวศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมข้อความว่า “อย่าแปลกใจถ้าเจอท่านชวนยืนชงกาแฟอยู่ในครัวที่สภา…. ท่านมักจะเดินไปชงกาแฟทานเองเสมอ”

โดยหลังจากภาพที่มีข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรากฏว่าชาวทวิตเตอร์พากันตั้งคำถามทำนองว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องพิเศษอย่างไร เพราะทุกคนก็ต้องชงกาแฟดื่มเองเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

ต่อมามีชาวเน็ตคนหนึ่ง ไดคัทภาพพื้นหลังดังกล่าวออก เหลือแต่ภาพนายชวน เพื่อให้ชาวเน็ตคนอื่น ๆ นำไปตัดต่อภาพง่ายขึ้น เกิดเป็นมีมล้อเลียนนายชวนมากมาย

แต่ที่เป็นเรื่องใหญ่มากที่สุดคือการตัดต่อภาพนายชวน ถูกหญิงคนหนึ่งใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ศีรษะ พร้อมข้อความว่า มาสิ!!!

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบที่บัญชีทวิตเตอร์ @nansiripa วันนี้ (14 ม.ค.) กลับไม่พบภาพและข้อความดังกล่าว คาดว่าภาพดังกล่าวได้ถูกลบไปแล้ว

ต่อมา นายราเมศ รัตนเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา เผยว่า วันพรุ่งนี้ (15 ม.ค.) เวลา 13.30 ตนจะเดินทางไป กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ศูนย์ราชการ อาคาร B ชั้น 4 ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ตัดต่อภาพ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา จนได้รับความเสียหาย รวมถึงบุคคลที่โพสต์ข้อความใส่ร้าย หมิ่นประมาท ในทวิตเตอร์ และ เฟซบุ๊ก

หลังมีผู้ร้องเรียนแจ้งข้อมูลมาเป็นจำนวนมาก มีทั้งการนำภาพไปตัดต่อภาพ ใช้ปืนจ่อศีรษะของนายชวนที่สื่อถึงความรุนแรง และอาจส่งผลต่อความปลอดภัย และเป็นการละเมิดสิทธิประธานรัฐสภา

มติชน รายงานว่า หลังจากที่นายราเมศทวีตเรื่องนี้ มีผู้มาแสดงความเห็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งอยากให้ดำเนินคดีอย่างจริงจังเพื่อให้เข็ดหลาบ เพราะปัจจุบันแม้จะเป็นบัญชีที่ไม่เปิดเผยตัวตนก็สามารถตามตัวมาดำเนินคดีได้

ขณะที่บางคนวิจารณ์ว่า เป็นความพยายามที่จะใช้กฎหมายกับประชาชนมากเกินไปหรือไม่ ทำแล้วประชาชนก็จะมีความสุข กินดีอยู่ดี ไม่มีบ่อนไม่มียาเสพติดใช่หรือไม่ ซึ่งนายราเมศได้ตอบโต้กลับว่าเหตุผลที่ใช้สิทธิตามกฎหมาย เนื่องจาก “ภาพแบบนี้ทำกับพ่อคุณคุณจะรู้สึกอย่างไร” และมีอีกหลายภาพที่แย่กว่านี้อย่าพูดแค่ปลายเหตุการณ์

“กระทำต่อคนอื่นก่อน พอเขาใช้สิทธิตามกฎหมายก็เบี่ยงประเด็น คิดว่าจะด่าจะใส่ร้ายคนอื่นอย่างไรก็ได้หรือครับ สุดยอดเลย ส่วนงานช่วยเหลือประชาชนไม่ต้องกังวลครับ เพราะมันคนละเรื่องกัน และเป็นสิ่งที่ทำอยู่แล้ว เปลี่ยนความคิดใหม่นะครับ” นายราเมศ ระบุ