สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคน มอบความรักและความซื่อสัตย์ให้เจ้าของหมดหัวใจ จนเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยงสี่ขา
วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานเรื่องราวของสุนัขที่ไวรัลอยู่ในโลกโซเชียล เรียกคอมเมนต์ของผู้คนที่ประทับใจและสงสารมันอย่างล้นหลาม ขณะที่คลิปมีผู้เข้าชมแล้วหลายล้านครั้ง
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
เหตุเกิดที่เมืองหลี่สุย มณฑลเจ้อเจียง ภาคตะวันออกของประเทศจีน ผู้หญิงแซ่หลี่ แชร์เรื่องราวสุดประทับใจผ่านทางแอปโต่วอิน ว่า “พี่เหลือง” (Big Yellow) เป็นสุนัขพันธุ์บ้านๆ เมื่อเจ้านายของมันเสียชีวิตไปเมื่อช่วงตรุษจีน ลูกชายของเจ้านายก็รับมันไปอยู่ด้วยที่บ้านในตัวเมือง
แต่ผ่านไปเพียงสัปดาห์เดียว พี่เหลือง อายุ 8 ปี กลับหนีออกมาและวิ่งกลับบ้านที่มันเคยอาศัยอยู่กับเจ้านาย เป็นระยะทางไกลถึง 40 กิโลเมตร ชาวบ้านต่างเห็นว่ามันวิ่งตรงดิ่งไปยังบ้านที่เคยอยู่ทันที
เหล่ามนุษย์ต่างคาดเดาไปว่า พี่เหลือง อาจจะไม่เข้าใจว่าการเสียชีวิตคืออะไรและทำไมเจ้านายสุดที่รักถึงไม่อยู่กับมันนานกว่านี้
หลังจากเรื่องของมันเผยแพร่ออกไปและกลายเป็นไวรัล ทำให้มีคนนำมาเปรียบเทียบกับภาพยนตร์เรื่อง Hachi (ฮาชิ หัวใจพูดได้) เวอร์ชั่นอเมริกัน ของ ริชาร์ด เกียร์
นอกจากสุนัขรูปร่างหน้าตาคล้ายแล้ว เนื้อหาของหนังยังสร้างมาจากเรื่องจริงที่ทั้งซึ้งและสะเทือนใจ เกี่ยวกับสุนัข ฮาจิโกะ แห่งสถานีชิบูย่า ประเทศญี่ปุ่น ที่มันมาเฝ้ารอเจ้านายที่สถานีทุกวัน โดยไม่รู้ว่าเจ้านายจากโลกไปแล้ว
หลี่ผู้โพสต์เรื่องราว กล่าวว่า หลังจากลูกชายเจ้าของ รับรู้สิ่งที่เจ้าพี่เหลืองสื่อสารแล้ว จึงปล่อยให้สุนัขอยู่ในหมู่บ้านเดิมต่อไป
ตอนนี้ พี่เหลืองมักเดินเตร็ดเตร่ไปตามเส้นทางที่เคยเดินเคียงข้างเจ้านายหรือรออยู่หน้าบ้าน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยนอนหมอบแทบเท้าเจ้านายอยู่หลายชั่วโมงระหว่างที่เจ้านายทักทายเพื่อนบ้าน
ทุกวันนี้ สุนัขแสนซื่อสัตย์ยังคงทำตัวดีและอยู่ในถิ่นของมัน
คลิปวิดีโอหนึ่งที่หญิงชื่อหลี่โพสต์แสดงให้เห็นพี่เหลืองเข้าไปในสนามบ้านของเธอ หลังจากที่เธอเรียกมันหลายครั้ง เมื่อหลี่ให้อาหารกิน แต่พี่เหลืองไม่งับจากมือและรอจนกว่าเธอจะวางอาหารที่พื้นแล้วค่อยกิน
หลี่กล่าวว่าไม่คิดว่าเรื่องราวของพี่เหลืองจะไวรัล ตนเพียงถ่ายคลิปเอาไว้เพราะเป็นคนรักสุนัขและเพื่อนบ้านมักจะนำอาหารมาให้พี่เหลืองกินเพื่อเป็นรางวัลตอบแทนความซื่อสัตย์ต่อเจ้านาย ส่วนลูกชายของเจ้านายมาหามันเป็นประจำ
เมื่อถามว่ากลัวคนจะขโมยสุนัขหรือไม่ หลี่ตอบว่าคนในหมู่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุช่วยกันดูแลพี่เหลืองและมีคนภายนอกมาหามันบ้าง หลายๆ บ้านมีสุนัขและปล่อยให้วิ่งไปทั่วหมู่บ้าน
หลายคนประทับใจเรื่องความซื่อสัตย์ของสุนัขและแชร์เรื่องราวของตนเอง ผู้ใช้โต่วอินคนหนึ่งเขียนว่าสุนัขสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง สิ่งที่สุนัขทุกตัวอยากทำ คือ รอคอยเจ้านายกลับมา
ส่วนอีกคนหนึ่งเขียนว่าพี่เหลืองทำให้ตนนึกถึงสุนัขของป้าที่ใจสลายเพราะป้าเสียชีวิต และมันไปเฝ้าป้าข้างโลงศพ 2-3 วันโดยไม่ยอมกินข้าวหรือน้ำเลย