วิล สมิธ อดีตแรปเปอร์ สู่บทบาทคว้าออสการ์ใน คิง ริชาร์ด

วิล สมิธ อดีตแรปเปอร์ สู่บทบาทคว้าออสการ์ใน คิง ริชาร์ด
Photo by Patrick T. FALLON / AFP

วิล สมิธ จากอดีตแรปเปอร์สู่บทบาท ริชาร์ด วิลเลียมส์ พ่อของตำนานวงการเทนนิส พี่น้องวีนัสและเซเรน่า วิลเลียมส์ บทที่ทำให้เขาคว้านำชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์

วันที่ 29 มีนาคม 2565 เดอะนิวยอร์กไทม์ส รายงานว่า วิล สมิธ เริ่มต้นอาชีพการแสดงในปี 2533 ในรายการพิเศษหลังเลิกเรียนและกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงและโปรดิวเซอร์แอ็คชั่นที่มีความสามารถและประสบความสำเร็จมากที่สุดในฮอลลีวูด ในที่สุดดขาก็ประสบความสำเร็จในสิ่งหนึ่งที่หลบเลี่ยงเขามาโดยตลอด นั่นคือ เขาได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง “คิง ริชาร์ด”

การประกาศรางวัลเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเดินเข้าไปตบหน้า คริส ร็อก กลางเวทีออสการ์ต่อหน้าคนทั้งงานและผู้ชมจากทั่วโลก เนื่องจากการล้อเลียนทรงผมภรรยาของเขา ที่ต้องโกนหัวเนื่องจากเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม จนกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญในงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94 นี้

ออสการ์ กับ สมิธ

เอ็นพีอาร์ เผยว่า สมิธ ได้รับการยกย่องจากการแสดงของเขาใน คิง ริชาร์ด ในบทโค้ชไฟแรงและมีข้อบกพร่อง “ริชาร์ด วิลเลียมส์” พ่อผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของตำนานแห่งวงการเทนนิส “วีนัสและเซเรน่า วิลเลียมส์” สะท้อนให้เห็นภาพนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมที่ชนะรางวัลภาพยนตร์ภาพยนตร์ที่สำคัญในปีนี้ รวมถึงรางวัล Critics Choice Awards และ the Screen Actors Guild Awards.

ก่อนหน้านี้ สมิธ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในปี 2550 สำหรับ “The Pursuit of Happyness” และในปี 2545 สำหรับ “Ali” แต่เขาแพ้ให้กับนักแสดงผิวดำทั้ง 2 ครั้ง คนแรกคือเดนเซล วอชิงตัน และฟอเรสต์ วิตเทเกอร์

อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 สมิธได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการ #OscarsSoWhite หลังจากที่การเสนอชื่อมีเฉพาะนักแสดงผิวขาว สำหรับรางวัลในปี 2558 ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ไปอย่างกว้างขวาง ซึ่งทางสถาบันออสการ์ทำอีกครั้งในปีถัดมา โดยมองข้ามการแสดงที่ทุ่มเทของสมิธ ในเรื่อง “Concussion”

อดีตแรปเปอร์

บทบาทที่ทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์ คือการเล่นเป็นตัวละครที่มีอยู่จริงอย่างริชาร์ด ถือเป็นการท้าทายนักแสดงอย่างเด่นชัด แต่เขาก็ทำออกมาให้ไม่จืดชืด ซึ่งถือเป็นจุดสุดยอดของการแสดงทั้งหมดทั้งในจอและนอกจอ วิล สมิธ มีพัฒนาการต่อหน้าผู้ที่ได้รับชมเขาตลอดระยะเวลาสามทศวรรษกว่า

เดิมทีเขาไม่ได้ถูกจับตามองในฐานะนักแสดงเต็มตัว สมัยที่เขาถ่ายทำซีซั่นแรกของซิตคอม The Fresh Prince of Bel-Air ในปี 2533 เขาเป็นแรปเปอร์ชื่อดัง อายุ 21 ปี ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการแสดงเลย

เขาแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในสองสามตอนแรก เขาสามารถพูดตามบทนักแสดงคนอื่น ๆ ได้ในฉากของเขา โดยเจ้าตัวออกมายอมรับภายหลังว่าเป็นเพราะความกังวลในฐานะมือใหม่ ทำให้เขาจำบททั้งหมดได้

ในที่สุด เขาก็พิสูจน์ตัวเองในฐานะนักแสดงแอ็กชั่น หลังจากนั้นก็เป็นนักแสดงดรามาที่เข้มข้นที่มีทั้งดีขึ้นและแย่ลง

ตัวละคร ริชาร์ด วิลเลี่ยม ไม่ใช่การสร้างขึ้นมาใหม่จากนักแสดง แต่เป็นการดึงองค์ประกอบหลาายอย่าง เพื่อประกอบสร้างเป็นแก่นในการแสดงของวิล สมิธ

แต่แท้จริงแล้ว อะไรกันแน่ที่ทำให้การแสดงของวิล สมิธ เข้าถึงแก่น

การรับบท คิง ริชาร์ด

บทบาทคิง ริชาร์ด มาในเวลาที่เหมาะสมสำหรับสมิธ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา สมิธ ได้ถ่ายทอดความอ่อนเยาว์ ความธรรมชาติที่น่ารักและน่าขันของเขาลงโซเชียลมีเดีย เผยแพร่บันทึกความทรงจำ และทบทวนช่วงเวลาสมันใช้ฉายา Fresh Prince เพื่อเตือนความทรงจำว่าทำไมโลกถึงตกหลุมรักเขาในตอนแรก

สำเนียงของเขาทำให้เสียสมาธิน้อยกว่าในหนังเรื่อง Concussion เล็กน้อย และเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะได้เห็นเขาแสดงบุคลิกที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดในการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำให้การแสดงอยู่เหนือคำบรรยายของบทได้

แต่ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการกลับมาครั้งใหญ่ ผู้คนหวังว่าจะได้เห็นเขาถอยออกจากการให้ความสำคัญกับตัวเอง และกลับไปอยู่ในจุดที่เขาทำการแสดงออกมาได้อย่างเฉิดฉาย ซึ่งมันใช้ได้ผลอย่างดี