นลิศา เตชะศิริประภา / ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
“เจ้าเป็นคนกำเริบ ไม่รู้จักกาลเทศะ วาจาพิกลพิการ ฟังไม่รู้ความ จิตใจหยาบกระด้าง ไม่มีเมตตาข้าทาสบริวาร ไม่เอาการเอางาน ขี้คร้านตัวเป็นขน ดีแต่แต่งตัวนั่งชะม้อยชายตาหน้าขาว น่ารำคาญ”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ประโยคเด็ดของพี่หมื่น หรือ หมื่นสุนทรเทวา รัวด่าแม่การะเกด แบบไม่หยุดหายใจ ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “พี่หมื่นแร็พฟีเวอร์” ถูกนำมาสร้างเป็นมีมสร้างสีสันบนโลกออนไลน์
“บุพเพสันนิวาส” ละครป๊อปอาร์ตที่สร้างออกมาได้อย่างลงตัว หยิบยกคนในปัจจุบันเข้าไปผสมผสานชะโงกดูประวัติศาสตร์ครั้งอดีตได้ถูกจริตคนในสังคม
นอกจากพระเอก-นางเอกที่รับบทโดย โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ และ เบลล่า-ราณี แคมเปน แล้ว ก็ยังมีตัวละครอื่นที่เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนให้ละครเรื่องนี้ดำเนินต่อไปได้…
“ออกญาโหราธิบดี” อีกหนึ่งตัวละครที่สำคัญที่มีตัวตนจริงในประวัติศาตร์ เป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งในวงการแต่งหนังสือในสมัยพระนารายณ์มหาราช เป็นผู้นิพนธ์ “หนังสือจินดามณี” ในปี พ.ศ.2215 ซึ่งเป็นหนังสือแบบเรียนเล่มแรกของไทย ที่รับบทโดยพระเอกรุ่นใหญ่มากความสามารถอย่าง “นิรุตติ์ ศิริจรรยา” หรือ “อาหนิง” ในวัยย่าง 71 ปี นักแสดงอาชีพที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมามากกว่า 40 ปี
ความสุขุม เก่ง ใจดี ของท่านออกญาฯในละครเป็นเช่นไร ตัวตนจริงๆ ของอาหนิงนั้นก็เป็นเฉกเช่นนั้น เขาบอกกับเราว่า ไลฟ์สไตล์ของตัวเองไม่มีอะไรน่าสนใจ เป็นวิถีชีวิตปกติ ทุกวันยังทำงาน ว่างก็กลับบ้านจันทบุรี มีความสุขกับธรรมชาติ (อ่าน >> Smart, Tall and Handsome “หนิง-นิรุตติ์” ออกญาโหราธิบดีในยุคดิจิทัล)
นอกจากจะเป็นนักแสดงมากความสามารถที่ถูกยกให้เป็น “พระเอกตลอดกาล” แล้ว เขายังเคยเป็นมนุษย์เงินเดือนที่อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนอย่างนักข่าว เป็นผู้ประกาศข่าวอ่านข่าวอยู่ช่อง 5 ด้วย…ทุกวันนี้เขาเป็นนักจัดรายการวิทยุคลื่น 96.5 เมกะเฮิรตซ์ พูดคุยทุกเรื่องทั้งเศรษฐกิจ สังคม ยกเว้นการเมือง
ชื่นชม “แม่การะเกด” ทำกระแสแรง
เมื่อพูดถึงละครอิงประวัติศาสตร์ “บุพเพสันนิวาส” แล้วนั้น เขากล่าวกับเราด้วยน้ำเสียงปลื้มใจ
“ผมดีใจที่คนสนใจและเริ่มรู้คุณค่ากับสิ่งที่จะหายไปจากสังคมไทย” และว่า เป็นละครที่ดูสนุก ไม่เคยมีใครทำแนวแบบนี้ ทำให้คนดูมีอารมณ์คล้อยตาม ซึ่งต้องชื่นชมนางเอกเพราะถ้าไม่มีนางเอกคนนี้ ละครเรื่องนี้ก็จะไม่มีกระแสแรงมากถึงขนาดนี้
“นางเอกเป็นตัวชักนำคนในยุคปัจจุบันหรือในโลกดิจิทัลให้ไปยืนที่ระเบียงแล้วชะโงกลงไปดูคนสมัยพระนารายณ์ว่าเขาอยู่กันยังไง เขากินกันยังไง พูดกันยังไง แล้วก็นำเอาภาษาใหม่เข้าไปพูดไปผสม”
‘อาหนิง’ คือ อาหนิง ไม่ใช่ออกญาโหราธิบดี…
เขาระบุอย่างชัดเจนถึงบทบาทของออกญาโหราธิบดีในละครกับตัวตนของเขาเองนั้นว่า “มันต้องแตกต่างกันอยู่แล้ว เพราะผมไม่มีคาแร็คเตอร์ของออกญาฯ ผมเป็นตัวผม แต่ผมถูกใส่เข้าไปเพื่อทำให้เหมือน เพื่อให้เลียนแบบ ซึ่งจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าเหมือนหรือเปล่า แต่ผมพยายามเข้าใจบทให้มากที่สุด เข้าใจในเรื่องราว รวมถึงทำความเข้าใจบทออกญาฯกับนักแสดงคนอื่นๆ เขาด้วย เพราะถ้าเราเข้าใจไปคนเดียว ตัวละครออกญาโหราธิบดีมันก็จะเข้ากับคนอื่นไม่ได้ ละครมันก็ไม่สามารถไปได้”
ผู้กำกับคือผู้ปิดทองหลังพระ
“ผมต้องเป็นทุกอย่างที่รับบทมาแล้ว ผู้กำกับต้องมาเป็นตัวแสดงตัวนั้นด้วยเพราะถ้าหากเรานอกลู่นอกทางไป เขาจะได้ดึงเรากลับมา ไม่มีใครเก่ง ผู้กำกับการแสดงเก่งที่สุดต้องเป็นทุกตัวละคร ทั้งอีจวง อีผิน อีปริก…เป็นผู้ที่ปิดทองหลังพระที่ใครไม่ค่อยได้พูดถึง ทุกๆ เรื่องที่ภาพยนตร์หรือละครมันไม่ใช่แค่นักแสดง ทุกอย่างที่มันมารวมกันได้คือการตกผลึกของผู้กำกับการแสดงนี่ต่างหาก และคนที่ช่วยเขาเขียนบทด้วย” เขากล่าวต่อ
สำหรับละครบุพเพสันนิวาส ที่ร่ายมนตร์ “กฤษณะกาลี” กับคนไทยทั้งประเทศนั้น เป็นฝีมือของผู้กำกับอย่างใหม่-ภวัต พนังคศิริ และได้คนดูแลเนื้อหาด้านประวัติศาตร์อย่างอาจารย์วิโรจน์ ศรีสิทธิ์เสรีอมร
ไม่น่าจะทำภาคสอง…ไม่เคยเห็นอะไรดีกว่าอันแรก
ส่วนกระแสการสร้างละครบุพเพสันนิวาสภาคสองนั้น เขามองว่า ไม่น่าจะมี เพราะว่าเขาไม่เคยเห็นอะไรที่สอง สาม สี่ แล้วมันจะดีเท่ากับอันแรก ให้อันที่หนึ่งมันเป็นอย่างนี้แล้วให้มันตายไป อย่าให้มีอะไรมาว่าสองมาสู้หนึ่งไม่ได้
คำบอกเล่าของเขาที่ไม่ว่าจะได้รับแสดงเป็นบทอะไร หรือตัวละครตัวไหน จะเป็นพระเอก นางเอก หรือแค่ตัวประกอบกตาม ต่างก็เป็นจิ๊กซอว์ให้กับละครเรื่องนั้นๆ ให้สามารถดำเนิต่อไปได้อย่างสมบูรณ์
และคำว่านักแสดงอาชีพ กับอาชีพนักแสดง..ที่ฟังดูแล้วจะเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ มาถึงตรงนี้ “อาหนิง-นิรุตติ์ ศิริจรรยา” ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขานั้นคือ “นักแสดงอาชีพ” ตัวจริง