พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของจ่าฝูง ปืนใหญ่ อาร์เซนอล
เกมนี้ เอริก เทน ฮาก กุนซือผีแดงเลือกส่ง อันโตนี ปีกค่าตัว 100 ล้านยูโร ประเดิมสนามเป็นตัวจริงทันที ในขณะที่ กาเซมิโร และคริสเตียโน โรนัลโด นั่งสำรองก่อน
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
ส่วน อาร์เซนอล ผู้เล่นคนสำคัญอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด และ อารอน แรมส์เดล หายจากอาการบาดเจ็บได้ทันและมีชื่อเป็นตัวจริง
เกมนี้ถือว่าอยู่ในช่วงที่ดีของทั้งสองทีม โดยแมนฯ ยูไนเต็ด ชนะติดต่อกันมา 3 นัดแล้ว ขณะที่จ่าฝูงอาร์เซนอลชนะ 5 นัดรวด ตั้งแต่เปิดซีซัน ผลนัดนี้ไม่ว่าจะจบอย่างไร อาร์เซนอลจึงยังคงเป็นจ่าฝูง เนื่องจากแมนฯ ซิตี้ พลาดคว้าชัย ทำได้เพียงเสมอแอสตันวิลลา
เริ่มเกมได้ไม่นานเป็นยูไนเต็ดที่ได้ป้วนเปี้ยนหน้าปากประตูอาร์เซนอลก่อน ส่วนปืนใหญ่ก็ได้ฟรีคีกทางขวา กรอบเขตโทษ เรียกได้ว่าเริ่มต้นกันค่อนข้างดุเดือดในช่วง 5 นาทีแรก
โอกาสแรกป็นของเจ้าบ้านแมนฯ ยูไนเต็ด ปีกตัวใหม่อย่าง อันโตนี ตอกส้นให้ ดิโอโก ดาโลต์ ได้เปิด และคริสเตียน เอริกเซน ยิงหลุดกรอบไปนิดเดียว
จากนั้นในนาทีที่ 11 จาดอน ซานโช มีโอกาสซัดเสาแรกทางซ้าย แต่ก็ติดเซฟ อารอน แรมส์เดล
แมนฯ ยูไนเต็ดที่พับสนามบุกกลับเป็นฝั่งโดนก่อน เอริกเซน ถูก มาร์ติน โอเดการ์ด ผลักจนเสียบอลกลางสนาม ลูกไปถึง กาเบรียล มาร์ติเนลลี หลุดเข้าไปยิงในนาทีที่ 12 แต่ผู้ตัดสินดู VAR แล้วตัดสินว่า โอเดการ์ด ทำฟาวล์ เอริกเซน ในจังหวะนั้น จึงไม่ให้เป็นประตู
แมนฯ ยูไนเต็ด รอดตัวไป เกมยัง 0-0 ในจังหวะนี้
จากนั้นเกมค่อนข้างเปิด ต่างฝ่ายต่างพร้อมสวน อาร์เซนอลที่ได้จังหวะหวาดเสียวหลายครั้ง ที่ใกล้เคียงที่สุดเป็น โอเดการ์ด เปิดบอลให้ มาร์ติเนลลี โขกเน้น ๆ แต่ ดาบิด ดาบิด เดเคอา เหินปัดมือเดียวเอาไว้ได้
แม้จะโดนบุกอยู่ร่วม 10 นาที แต่แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ผู้ตัดสินปล่อยได้เปรียบกลางสนาม
อันโตนี ปีกตัวใหม่ที่ประเดิมประตูแรกในพรีเมียร์ลีก และเป็นการเปิดตัวในฝันให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด จากการจ่ายของมาร์คัส แรชฟอร์ด แปบอลแบบไม่ต้องจับให้อันโนนียิงเข้าไปซุกก้นตาข่าย นาทีที่ 35 ทำเอาบรรยากาศในโรงละครแห่งความฝันคึกคักขึ้นมาทันที
หลังจากเจ้าบ้านขึ้นนำ อาร์เซนอลก็โหมบุกอย่างหนักในช่วงท้ายครึ่งแรก แต่ก็ยังทำได้แค่หวาดเสียว เกมจึงจบครึ่งแรกไปที่สกอร์ 1-0
ครึ่งหลัง
อาร์เซนอลเปิดเกมบุกใส่ยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่อง ผีแดงทำได้แค่ตั้งรับและรอสวน ทีมเยือนได้จังหวะจะแจ้งติดกันสองครั้งจาก โอเดการ์ด และ บูกาโย ซากา นาทีที่ 52 แต่ก็ยังจบไม่ลง
นาทีที่ 58 เทนฮาก ตัดสินใจเปลี่ยน อันโตนี คนทำประตู ออกไปพัก และส่ง คริสเตียโน โรนัลโด ลงมายืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้าแทน
หลังจากบุกใส่อยู่นานตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง อาร์เซนอลมีเฮ จังหวะดาโลต์พยายามสกัดบอลจาก กาเบรียล เชซุส แต่บอลไปเข้าทางบูกาโย ซากา แปบอลเข้าไปโล่ง ๆ ในนาทีที่ 60 สกอร์ 1-1 อาร์เซนอลกลับคืนสู่เกม
แต่หลังจากนั้นไม่นาน แมนฯ ยูไนเต็ดก็เล่นงานไลน์แนวรับของอาร์เซนอล นาทีที่ 66 บรูโน แฟร์นานเดส จ่ายบอลให้มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดกับดักล้ำหน้า ทะลุกลางคู่เซ็นเตอร์เข้าไปยิง พาเจ้าถิ่นขึ้นนำอีกครั้ง
จากนั้นทำเอาอาร์เซนอลปั่นป่วนไปพักใหญ่และเกือบโดนประตูที่ 3 จากการจ่ายพลาดกันเองหน้าประตู แต่แรมส์เดล ยังแก้ตัวเซฟลูกชิพของ แฟร์นานเดสไว้ได้
เกมสวนกลับของแมนนูไนเต็ดทำงานอีกครั้ง แฟร์นานเดส จ่ายบอลให้คริสเตียน เอริกเซน วิ่งสอดทะลุแนวรับอาร์เซนอลขึ้นมา และส่งบอลต่อให้ แรชฟอร์ดยิงเข้าไปในนาทีที่ 75 เหมาคนเดียว 2 ประตู ทำให้แมนยูไนเต็ดทิ้งห่างผู้มาเยือนออกไปเป็น 3-1
ช่วงท้ายเกมอาร์เซนอลก็แผ่วลงไปอย่างเห็นได้ชัด แม้จะมีโอกาสบ้างแต่ก็ยังไม่ใกล้เคียงทำให้ไม่สามารถทวงประตูคืนจากแมนยูไนเต็ดได้
จบ 90 นาทีที่แมนยูไนเต็ดเปิดบ้านเอาชนะไปได้ 3-1
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 4 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ขึ้นปี 2022 เก็บ 3 แต้มสำคัญ มี 12 คะแนนจาก 6 นัดที่ลงเล่น ตามอาร์เซนอลจ่าฝูงอยู่ 3 แต้ม และทำให้อาร์เซนอลแพ้เป็นเกมแรกของฤดูกาล
ผลคู่อื่น นัดแข่งขันสุดสัปดาห์ที่ 3-4 ก.ย.
ไบรท์ตัน 5-2 เลสเตอร์
แอสตันวิลลา 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี
วูล์ฟส์ 1-0 เซาแธมป์ตัน
ท็อตแนม 2-1 ฟูแลม
น็อตติงแฮม 2-3 บอร์นมัธ
นิวคาสเซิล 0-0 คริสตัลพาเลศ
เชลซี 2-1 เวสต์แฮม
เบรนต์ฟอร์ด 5-2 ลีดส์ ยูไนเต็ด
เอฟเวอร์ตัน 0-0 ลิเวอร์พูล
…