
ผลการแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่มีคู่ไหนจะเสมอกันบ่อยเท่ากับคู่ เชลซี-แมนฯยูไนเต็ด และนัดล่าสุดนี้ตอกย้ำอีกครั้ง
วันที่ 22 ตุลาคม 2565 ศึกพรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมตช์ ประจำสัปดาห์ สิงห์บลูเชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของผีแดง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 มิ.ย.นี้ ใครมีสิทธิรับวงเงินค่าซื้อสินค้า 900 บาท
- ตรวจหวย ตรวจผลรางวัล ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 มิ.ย. 66 (อัพเดต)
- “เหล้า-เบียร์” เจ๊กอั้ก ! ร่างกฎหมายใหม่ คุมเข้ม-สุดโหด
แม้เชลซีจะเสมอเบรนต์ฟอร์ดมาในเกมล่าสุด แต่เชลซีในยุค แกรม พอตเตอร์ ยังไม่แพ้ใครตลอด 7 นัดที่ลงเล่น ส่วนยูไนเต็ดเองก็ไม่แพ้ใครใน 5 เกมหลังรวมทุกรายการ ขณะที่สองทีมนี้มักเสมอกัน ใน 9 นัดหลัง เสมอกันไปถึง 7 นัด
ประเด็นใหญ่ในช่วงนี้คงหนีไม่พ้น คริสเตียโน โรนัลโด ที่ถูกตัดชื่อออกจากทีมในเกมนี้ ส่วนตัวเจ็บของทั้งคู่ยังคงเป็นนักเตะหน้าเดิม ได้แก่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นหัวหอกตัวเป้า คริสเตียน เอริกเซ่น กลับมาเป็นตัวจริง ด้านเชลซีนำมาโดย ปิแอร์–เอเมอริก โอบาเมยอง เมสัน เมาต์ และราฮีม สเตอร์ลิง
เริ่มเกมมาในช่วง 10 นาทีแรกทั้งสองทีมยังคงหาจังหวะของตัวเองอยู่ โดยผลัดกันครองบอลและยังไม่มีจังหวะได้ลุ้นกันมากนัก ที่ใกล้เคียงสุดเป็นลูกยิงถากเสาออกไปของลุก ชอว์ ในนาทีที่ 9
หลังจากนั้นเป็นแมนยูไนเต็ดที่ได้ขึงใส่เจ้าบ้าน และอองโตนี ปั่นด้วยซ้ายในท่าเก่ง แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือเกปา อาร์ริซาบาลากา และอีกครั้งของแรชฟอร์ด ที่ได้ดวลเดี่ยวก็ไม่ผ่านเช่นกัน ทำให้ผ่าน 30 นาทีแรกของเกมยังคง 0-0
ผู้มาเยือนยังคงครองบอลบุกอย่างต่อเนื่อง แรชฟอร์ดตะบันเต็มข้ออีกครั้งในนาทีที่ 33 แต่เกปายังเซฟไว้ได้ โดยเกมของเชลซีเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด จนพอตเตอร์ ต้องปรับมายืนแผนหลัง 4 ส่งโควาซิช ลงมาแทนมาร์ค คูคูเรญ่า เพื่อเสริมแดนกลาง ตั้งแต่นาทีที่ 36
แมนฯยูไนเต็ดพลาดโอกาสขึ้นนำช่วงท้ายครึ่งแรกไปอย่างน่าเสียดาย อองโตนีหลุดไปยิง แต่เป็นเท้าขวา ทำให้บอลเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 45 ทำให้จบครึ่งเวลาแรกยังคงสกอร์ 0-0

ประตูของเกมนี้อยู่ในครึ่งหลัง และเป็นสองประตูท้ายเกมทั้งสองฝ่าย
เริ่มต้นครึ่งเวลา สิงห์บลูเจ้าถิ่นที่เปิดเกมใส่ยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนโควาซิชลงมานั้นเพิ่มมิติในแดนกลางของเชลซีได้อย่างชัดเจนจนทำเอายูไนเต็ดเป็นรองไปดื้อ ๆ
เอริก เตน ฮาก จึงอยู่เฉยไม่ได้เหมือนกัน ต้องส่งเฟร็ดลงมาแทนเจดอน ซานโช นาทีที่ 52 ซึ่งฟอร์มค่อนข้างน่าเป็นห่วง พลางขยับ เอริกเซน ให้ยืนสูงขึ้นเพื่อเพิ่มอิสระในการเล่นเกมรุก
นาทีที่ 60 ราฟาแอล วาราน บาดเจ็บทันทีในจังหวะพยายามสกัดบอล เจ้าตัวถึงกับหลั่งน้ำตา เอาเสื้อปิดหน้าร้องไห้จนเพื่อนร่วมทีมเข้ามาปลอบ คาดว่าวารานกดดันและหวั่นว่าจะไม่ได้ไปร่วมศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ใกล้เข้ามาแล้ว

ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เกมของทั้งคู่ทันกันมากขึ้น โดยผลัดกันบุกผลัดกันสวน ทำให้มีแค่จังหวะหวาดเสียวเท่านั้นและยังไม่มีประตู โดยเป็นเชลซีที่ดูบุกได้น้ำได้เนื้อกว่าผู้มาเยือน
กระทั่งเกมถึงจังหวะไฮไลต์ เมื่อสก็อตต์ แมคโทมิเนย์ ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนตัวลงมาไม่กี่นาทีไปทำฟาวล์ อาร์มานโด โบรยา ทำให้แมนฯยูไนเต็ดเสียลูกจุดโทษ จอร์จินโญ่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด นาทีที่ 87 เชลซีขึ้นนำ 1-0 และเกมทำท่าจะจบที่สกอร์นี้

ช่วงทดเวลาผู้มาเยือนยังไม่ยอมและเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง คาเซมิโร กองกลางชาวบราซิลโขกบอลเข้าไป แม้เกปาพยายามเซฟแล้ว แต่ผู้ตัดสินชี้ว่าโกลไลน์ให้สัญญาณว่าลูกผ่านเข้าประตูไปทั้งลูกแล้ว
ผีแดงจึงขึ้นจากหลุมอย่างปาฏิหาริย์ในนาทีที่ 90+4 และจบเกมเฉือนกันไม่ลง เสมอกันที่ 1-1
หลังเกม เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนฯยูไนเต็ด กล่าวชมลูกทีม ว่ามีสปิริตนักสู้ และสู้กลับเป็นนัดที่ 4 แล้วในช่วง 10 วันมานี้
“คุณได้เห็นสปิริตแล้ว และเห็นว่าพวกเขาจัดการกับการถูกนำอย่างไร ซึ่งมันดีมาก การที่เราครองเกมได้ ทำให้ผมดีใจ แต่พอมาเสียประตูช่วงท้ายเกม มันทำให้ยาก ดังนั้นถือว่าผลที่ออกมาก็แฟร์แล้ว ผมคงจะผิดหวังถ้าเรากลับไปโดยไม่มีแต้มติดมือ เราไม่สมควรจะโดนแบบนั้น หลังจากสัปดาห์ที่ต้องเล่นหนัก” เทน ฮาก กล่าว
เมื่อถามถึงอาการของวาราน นักเตะกองหลังคนสำคัญของทีม เทน ฮากกล่าวว่า “ยังยากที่จะบอก ต้องรอดู 24 ชั่วโมง แล้วจึงพอจะทราบว่าเป็นอย่างไร”
ด้าน เกรแฮม พอตเตอร์ ผู้จัดการทีมเชลซี เห็นว่า การแบ่งแต้มกันคนละหนึ่งถือว่า สมควรอยู่ แม้จะเสียดายที่แต้มหล่นหายไปช่วงทดเจ็บ
“มันไม่ได้ถึงกับขาดความพยายาม ลูกทีมทำทุกสิ่งแล้ว และพอทำประตูได้ช่วงท้ายเกม ก็อาจจะผิดหวังที่เสียคะแนนไป แต่เมื่อดูทั้งเกมแล้ว การได้หนึ่งแต้มถือว่าสมควรอยู่ และต้องยอมรับให้ได้ เพื่อจะปัดฝุ่นแล้วพร้อมลงเล่นอีกครั้งในวันอังคารนี้” พอตเตอร์กล่าว

สำหรับผลคู่อื่นของคืนวันเสาร์
ลิเวอร์พูล พลิกพ่ายในนัดเยือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เจ้าบ้านเฉือนชนะ 1-0 จากการทำประตูของ ไตโว อโวนิยี นาที 55 ทำให้ทีมเจ้าป่าขยับหนีอันดับบ๊วยขึ้นมาได้ ส่วนหงส์แดงรั้งอันดับ 7
ด้าน เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านถล่ม คริสตัล พาเลซ ไป 3-0 เป็นผลงาน 3 นักเตะ เริ่มจาก คัลเวิร์ต-เลวิน นาที 11 กอร์ดอน นาที 63 และ แมคนีล นาที 84
แมนเชสเตอร์ ซิตี นัดที่แล้วแพ้ลิเวอร์พูล นัดนี้แก้ตัว สยบไบรท์ตัน ไป 3-1 เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ทำสองประตู จากลูกยิง นาที 21 และลูกจุดโทษ นาที 41 ส่วนทีมเยือนไล่ตามมาเป็น 2-1 จาก เลอันโดร ตรอสซาร์ด นาที 53
แต่เเรือใบยิงเพิ่ม โดย เควิน เดอ บรอยน์ นาที 75 จบเกม ซิตี ยังรั้งที่สอง แต้มห่างอาร์เซนอล 1 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด
……