“เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน” ตำนานนักฟุตบอลสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ เสียชีวิตแล้วในวัย 86 ปี สโมสร ทีมชาติ และแฟนบอลแห่อาลัย
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2023 บีบีซีสปอร์ตส (BBC SPORTS) รายงานว่า “เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน” ตำนานนักฟุตบอลสโมสร “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” และทีมชาติอังกฤษ เสียชีวิตแล้วในวัย 86 ปี
ก่อนหน้านี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2020 มีการประกาศว่า เซอร์ บ็อบบี้ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อม
และในวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ครอบครัวของ เซอร์ บ็อบบี้ ได้แถลงว่า “เขาจากไปอย่างสงบท่ามกลางครอบครัว ในช่วงเช้าตรู่ของวันเสาร์”
พวกเราต้องการส่งต่อความขอบคุณให้กับทุกคนที่มีส่วนร่วมในการดูแล และสำหรับผู้คนมากมายที่รักและสนับสนุนเขา
“เราขอให้ทุกคนเคารพความเป็นส่วนตัวของครอบครัวในเวลานี้ เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง” ครอบครัวของ เซอร์ บ็อบบี้ กล่าว
คำอาลัยจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สำหรับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แถลงแสดงความเสียใจว่า เซอร์ บ็อบบี้ เป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่รักมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสรของเรา
เซอร์ บ็อบบี้ เป็นฮีโร่ของผู้คนนับล้าน ไม่ใช่แค่ในแมนเชสเตอร์หรือสหราชอาณาจักร แต่ทุกที่ทั่วโลกที่มีการเล่นฟุตบอล
เขาได้รับการชื่นชมอย่างมากในเรื่องน้ำใจนักกีฬาและความซื่อสัตย์ พอ ๆ กับคุณสมบัติที่โดดเด่นของเขาในฐานะนักฟุตบอล เซอร์ บ็อบบี้ จะถูกจดจำในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ตลอดไป
บันทึกความสำเร็จ อุปนิสัย และสิ่งที่เขาทำซึ่งไม่มีใครเทียบได้จะถูกจารึกไว้ตลอดไปในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทั้งฟุตบอลอังกฤษ และมรดกของเขาจะยังคงอยู่ผ่านมูลนิธิเซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน
“สโมสรขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเลดี้ นอร์มา ภรรยาของเขา ลูกสาวและหลานของเขา และทุกคนที่รักเขา”
ตำนานแห่งเกาะอังกฤษ
เซอร์ บ็อบบี้ เกิดที่เมืองแอชชิงตัน นอร์ธัมเบอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 1937 และเข้าร่วมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฐานะเยาวชน เมื่อปี 1953 ก่อนจะก้าวเป็นนักเตะอาชีพในปีถัดมา จนกระทั่งได้ลงสนามนัดแรกให้ทีมชุดใหญ่ ในเกมพบกับ ชาร์ลตัน แอธเลติก เมื่อเดือนตุลาคม 1956 ด้วยวัย 18 ปี
ในเดือนกุมภาพันธ์ 1958 เซอร์ บ็อบบี้ เป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินของทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ประสบอุบัติเหตุที่เมืองมิวนิก เยอรมนี ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 23 ราย อุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อชีวิตและจิตใจของเซอร์ บ็อบบี้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ด้านความสำเร็จในนามทีมชาติ เซอร์ บ็อบบี้ ติดทีมชาติอังกฤษไป 106 นัด และยิงไป 49 ประตู ซึ่งถือเป็นสถิติของประเทศขณะนั้น
ที่สำคัญ เซอร์ บ็อบบี้ ยังได้รับรางวัล “บัลลงดอร์” ในปี 1966 หลังจากลงเล่นทุกนาทีในการพาทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกและสมัยเดียว โดยเอาชนะเยอรมนีตะวันตกไป 4-2 ประตูในนัดชิง
ตลอดอาชีพค้าแข้งในทีมชุดใหญ่ยาวนานกว่า 17 ปีกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซอร์ บ็อบบี้ คว้าแชมป์ลีก 3 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 1 สมัย และเอฟเอ คัพ 1 สมัย
โดยร่วมทีมกับ “เดนิส ลอว์” และ “จอร์จ เบสต์” พายูไนเต็ดคว้าแชมป์ถ้วยยุโรปได้ครั้งแรกในปี 1968
เซอร์ บ็อบบี้ ยิงให้ยูไนเต็ดไป 249 ประตูจาก 758 เกม ตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล ก่อนที่จะอำลาสโมสรในเดือนพฤษภาคม ปี 1973 จนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งเป็นอัศวิน หรือ เซอร์ ในปี 1994
โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เปลี่ยนชื่ออัฒจันทร์ฝั่งใต้ของโอลด์ แทรฟฟอร์ด ให้เป็นชื่อ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน เพื่อเป็นเกียรติแก่เขาในปี 2016
ทั้งนี้ สโมสรจะมีการวางพวงมาลาที่รูปปั้นยูไนเต็ด ทรินิตี้ ซึ่งประกอบด้วยรูปปั้นของ จอร์จ เบสต์, เดนนิส ลอว์ และ เซอร์บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ณ สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด