ททท.ชี้ตลาดรัสเซียเริ่มขยับ Aeroflot-S7 หวนเปิดบินตรงสู่ไทย

Aeroflot

นักท่องเที่ยวตลาดรัสเซีย-ประเทศใกล้เคียงเริ่มฟื้นตัว ททท. ตั้งเป้าไตรมาส 4/65 ได้นักท่องเที่ยวรัสเซีย 2.6 แสนคน เร่งเจรจาสายการบินเพิ่มปริมาณที่นั่งบนเที่ยวบินเส้นทาง “รัสเซีย-ไทย” ทั้งรูปแบบบินตรง-เช่าเหมาลำ เผย “Aeroflot-S7” 2 สายการบินหลักกลับมาเปิดเที่ยวบินสู่ไทยแล้ว ล่าสุดผนึก “เอเย่นต์ทัวร์-แอร์ไลน์” รุกหนัก พร้อมเดินสายร่วมกิจกรรมโรดโชว์-เทรดโชว์โปรโมตเต็มที่

นางสาวขนิษฐา พันธุ์วรวัฒน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานมอสโกเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าจากข้อมูลสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่เดินทางเข้าประเทศไทยก็ยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้น

โดยในเดือนตุลาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 28,499 ราย ถือเป็นอันดับ 2 ของประเทศในทวีปยุโรป รองจากสหราชอาณาจักร (UK)

หากรวมตั้งแต่ 1 มกราคม-30 กันยายน 2565 พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวตลาดรัสเซียสะสมอยู่ที่ 102,809 คน โดย ททท. ตั้งเป้าว่าในไตรมาสที่ 4/2565 จำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียจะอยู่ที่ 260,000 คน และไตรมาสที่ 1/2566 ซึ่งยังอยู่ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวของรัสเซียไทยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียอยู่ที่ 200,000 คน

“แอร์ไลน์” แห่เพิ่มไฟลต์บิน

นางสาวขนิษฐากล่าวว่า ปัจจัยบวกที่ส่งเสริมนักท่องเที่ยวจากรัสเซียเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 4/2565 ถึง 1/2566 นี้ เกิดจากสายการบินกลับมาเปิดเที่ยวบินตรง เส้นทางรัสเซีย-ภูเก็ต และรัสเซีย-กรุงเทพฯ โดยเริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่รัสเซียเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งปกตินักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจะออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อหนีความหนาวในประเทศ

ประกอบกับสายการบินจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน ที่บินมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย

นอกจากนี้ จากการประกาศยกเลิกมาตรการที่เกี่ยวกับ Covid-19 รวมทั้งขยายระยะเวลา Free Visa จาก 30 วัน เป็น 45 วัน ทำให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียสามารถพำนักที่ประเทศไทยได้นานขึ้น มีความคุ้มค่าในการเดินทางมากขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มที่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียจะใช้เวลาพำนักที่ประเทศไทยนานขึ้นด้วยเช่นกัน

“Aeroflot-S7” ฟื้นบินเข้าไทย

นางสาวขนิษฐากล่าวต่อไปว่า นอกจากการประชาสัมพันธ์และความร่วมมือกับผู้ประกอบการทัวร์แล้ว ททท. สำนักงานมอสโกยังผลักดันการเปิดเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ (Charter Flight) และเที่ยวบินประจำ ทั้งจากสายการบินรัสเซียและสายการบินในประเทศไทย เพื่อเพิ่มปริมาณที่นั่งบนเที่ยวบินเส้นทางระหว่างรัสเซีย-ไทย

โดยในเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา สายการบิน Aeroflot และสายการบิน S7 ประกาศขายบัตรโดยสารเส้นทางสู่ประเทศไทย โดยสายการบิน Aeroflot ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของรัสเซียเริ่มบินตรงเข้าประเทศไทยเส้นทางมอสโก-ภูเก็ต ความถี่วันละ 2 เที่ยวบิน และเส้นทางมอสโก-กรุงเทพฯ ความถี่วันละ 1 เที่ยวบิน ซึ่งเริ่มทำการบินตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน สายการบิน S7 Airline ก็ขายบัตรโดยสารเส้นทางจากฝั่งไซบีเรียเมืองเอียร์คุตก์ (Irkutsk)-กรุงเทพฯ เริ่มทำการบินตั้งแต่ 2 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมาสัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน และตั้งแต่ 18 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป เตรียมเพิ่มความถี่เป็นวันละ 1 เที่ยวบิน

ทั้งนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ air journal ระบุว่า ก่อนเกิดความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน สายการบิน S7 เคยทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยจาก 6 จุดบินสู่กรุงเทพฯ และ 2 จุดบินสู่ภูเก็ต

ดันเปิดเที่ยวบิน “เช่าเหมาลำ”

นอกจากนี้ สายการบิน Ikar Airline โดย PEGAS Touristik ยังได้ประกาศขายแพ็กเกจเส้นทางมอสโก-ภูเก็ต โดยเริ่มวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน และมีแผนจะบินเพิ่มจากฝั่งไซบีเรียเมืองฮาบารอฟสค์, เอียร์คุตก์, โนโวซีบีสค์ และครัสโนยาสค์ ในเดือนพฤศจิกายนนี้

ขณะที่สายการบิน Ural Airlines ยังเปิดขายบัตรโดยสารเส้นทางวลาดิวอสต็อก (Vladivostok)-เวียงจันทน์ สปป.ลาว เพิ่มทางเลือกในการต่อเครื่องมายังประเทศไทยของนักท่องเที่ยวรัสเชีย

ไม่เพียงเท่านี้ สายการบินเช่าเหมาลำจากสาธารณรัฐคาซัคสถานได้เพิ่มเที่ยวบิน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่บินจากรัสเชียมาในเที่ยวบินเดียวกัน ได้แก่ 1.เส้นทางเยคาเตรินเบิร์ก (Yekaterinburg) ประเทศรัสเซีย-ตารัซ (Taraz) ประเทศคาซัคสถาน-ภูเก็ต ทำการบินสัปดาห์ละ 2 วัน (พุธ เสาร์ ออกจากประเทศต้นทาง)

และ 2.เส้นทางโนโวซีบีสค์ (Novosibirsk) ประเทศรัสเซีย-ตารัซ (Taraz) ประเทศคาซัคสถาน-ภูเก็ต เริ่มบินวันที่ 27 ตุลาคม 2565 สัปดาห์ละ 2 วัน (พฤหัสฯ อาทิตย์ ออกจากประเทศต้นทาง)

“รัสเซีย” บูมเที่ยวในประเทศ

อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังเป็นตลาดที่มีปัจจัยลบที่อาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวไม่ออกเดินทาง หรือไม่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเช่นกัน อาทิ ปัจจุบันรัฐบาลรัสเชียส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางภายในประเทศ โดยออกมาตรการส่งเสริม Cashback ซึ่งด้วยราคาและความสะดวกในการซื้อตั๋วและจองที่พัก ทำให้ชาวรัสเซียเลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ

และจากผลสำรวจของหลายหน่วยงาน พบว่าชาวรัสเชียจำนวนมากตัดสินใจที่จะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ชื่นชอบกิจกรรมฤดูหนาว อาทิ สกี ไอซ์สเกต สโนว์บอร์ด เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ราคาบัตรโดยสารเครื่องบินและราคาแพ็กเกจทัวร์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก บวกกับเที่ยวบินที่เข้าประเทศไทยยังมีจำนวนน้อยและไม่หลากหลาย เมื่อเทียบกับความต้องการเดินทางและขนาดของประเทศ

ทั้งนี้ หากเทียบกับสถานการณ์ปกติซึ่งมีเที่ยวบินเข้าประเทศไทยมากกว่า 32 เมือง แต่ปัจจุบันสายการบินประกาศกลับมาบินเฉพาะเมืองหลักเท่านั้น ได้แก่ มอสโก, เอียร์คุตก์ (Irkutsk), โนโวซีบีสค์ (Novosibirsk), เยคาเตรินเบิร์ก (Yekaterinburg), ฮาบารอฟสค์ (Khabarovsk) และครัสโนยาสค์ (Krasnoyarsk) เท่านั้น

“เงินเฟ้อ” ทุบตลาดเล็กลง

นางสาวขนิษฐากล่าวด้วยว่า จากความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและการเมืองทำให้ประชาชนเกิดความกังวลถึงความไม่แน่นอนในอนาคต แม้ว่าธนาคารกลางรัสเซียจะพยายามตรึงค่าเงินรูเบิลให้แข็งค่า แต่ในทางปฏิบัติการแลกเงินสกุลต่างประเทศก็ยังมีข้อจำกัด

ประกอบกับมาตราการคว่ำบาตรต่าง ๆ ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศราคาพุ่งสูงขึ้นมาก โดยธนาคารกลางรัสเซียคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อรัสเซียจะสูงถึง 14.3% ซึ่งปัจจัยด้านเศรษฐกิจนี้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายในตลาดรัสเซียมีขนาดลดลง เนื่องจากการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศมีราคาสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่ผ่านมา

“นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียยังประสบกับข้อจำกัดในการใช้จ่ายเงินที่ประเทศไทย ทำให้นักท่องเที่ยวจะต้องถือเงินสดเพื่อการใช้จ่ายเท่านั้น” นางสาวขนิษฐากล่าว

เร่ง “โรดโชว์” กระตุ้นการขาย

ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานมอสโก กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับสำนักงานมอสโกนั้นยังคงเดินหน้ารุกการตลาดต่อเนื่อง

โดยโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้งสื่อ Online และ Offine เพื่อเผยแพร่ข้อมูลการเปิดประเทศของประเทศไทย การขยาย Free Visa จาก 30 วันเป็น 45 วัน รวมถึงสร้างการรับรู้แคมเปญใหม่ “Always Warm” เพื่อแสดงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียของไทย

พร้อมกันนี้ ททท.ยังทำงานร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่ ทั้ง Tour Operators, Travel Agents สายการบิน สื่อมวลชน Influencers และ Bloggers โปรโมตประเทศไทยตลอดฤดูหนาวนี้ และจัดกิจกรรม Amazing Thailand Roadshow to CIS Countries 2022 ใน 3 เมืองคือ

เมืองอัลมาตี สาธารณรัฐคาซัคสถาน, กรุงทาชเคนต์ สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน และกรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการในพื้นที่

นอกจากนี้ ททท.ยังมีแผนจะเข้าร่วมงานส่งเสริมการขาย ในงาน Moscow International Travel&Tourism Exhibition (MITT 2023) ในเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของสหพันธรัฐรัสเซีย จัดขึ้น ณ กรุงมอสโก และแผนการจัดงาน Amazing Thailand Roadshow 2023 ไปยังเมืองต่าง ๆ ทางเขตไซบีเรีย สหพันธรัฐรัสเซีย

รวมทั้งเชิญอินฟลูเอนเซอร์และบล็อกเกอร์ร่วมทริปสื่อมวลชน เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย สร้างการรับรู้และกระตุ้นการเดินทาง และเชิญผู้ประกอบการร่วม Agent Fam Trip เพื่ออัพเดตแหล่งท่องเที่ยวและสินค้าทางการท่องเที่ยวสำหรับจัดแพ็กเกจการขายต่อไปด้วย