นกแอร์ไม่ขอเป็น “โลว์คอสท์” ปรับสู่ “สายการบินพรีเมี่ยม” เปิดเล้าจน์ที่ดอนเมือง

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 - 09:01 น.

หนีสงครามราคา! นกแอร์ไม่ขอเป็น “โลว์คอสท์” ปรับตัวเองสู่ “สายการบินพรีเมี่ยม” เปิดเล้าจน์นกแอร์ที่ดอนเมือง

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟสบุ๊กสายการบินนกแอร์เผยแพร่ข้อความโดยระบุว่า สายการบินได้เปิดให้บริการห้องรับรองพิเศษ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง

โดยบริการห้องรับรองพิเศษดังกล่าวได้ตกแต่งสื่อถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทย ผู้โดยสารยังสามารถจะได้พบกับอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องรับรอง พร้อมมีแผนในอนาคตนำเมนูจากร้านเด็ดทั่วไทยให้บริการที่ห้องรับรองดังกล่าว

สำหรับห้องรับรองพิเศษสายการบินนกแอร์ เปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้ (20 พฤศจิกายน 2565) เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 05:00-21:00 น. ของทุกวัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ หลังที่ 2 (Terminal 2) บริเวณทางเชื่อม Gate 41-46 และ Gate 50-56

ผู้โดยสารที่มีสิทธิ์เข้าใช้บริการห้องรับรองสายการบินนกเเอร์

ผู้โดยสารที่ถือบัตรที่นั่งประเภท Nok Max
ผู้โดยสารที่ถือบัตรสมาชิก Nok Fanclub สถานภาพประเภท Nok Smile Plus
ผู้โดยสารที่ซื้อบริการเสริม ห้องรับรองพร้อมกับตั๋วโดยสาร
ผู้โดยสารที่ทำการ Walk-in เพื่อขอซื้อบริการห้องรับรอง

อัตราค่าบริการห้องรับรอง

สำหรับผู้โดยสาร Nok max จะรวมอยู่ในราคาตั๋วโดยสารของผู้โดยสารเเล้ว
สำหรับผู้โดยสารที่ซื้อบริการเสริมห้องรับรองหรือสำรองก่อนการเดินทาง : ผู้ใหญ่ ราคา 450 บาทต่อคน, เด็ก ราคา 300 บาทต่อคน
ผู้โดยสาร walk-in : ผู้ใหญ่ ราคา 500 บาทต่อคน, เด็ก ราคา 350 บาทต่อคน (สำหรับผู้โดยสารที่มีอายุ 2-12 ปีเท่านั้น)

**สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี สามารถใช้ห้องรับรองได้ฟรี (เดินทางพร้อมผู้โดยสารที่มีสิทธิ์เข้าใช้บริการห้องรับรองเท่านั้น)

หนีสงครามราคา

ก่อนหน้านี้ ดร.วุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า สายการบินนกแอร์จะทำการวางตำแหน่งของแบรนด์ใหม่ (Repositioning) จากสายการบินต้นทุนต่ำ (Lost Cost Airline) สู่สายการบินระดับพรีเมี่ยม (Premium Airline)

นอกจากนี้ สายการบินยังพิจารณาการให้บริการเครื่องดื่มสตาร์บัคส์แก่ผู้โดยสารที่ได้สำรองที่นั่ง Nok Premium Seat ปรับปรุงระบบการจองบัตรโดยสาร รวมถึงศึกษาการให้บริการระบบความบันเทิงผ่านการเชื่อมต่อไวไฟบนเครื่องบิน

การปรับตำแหน่งของแบรนด์ใหม่ครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ นกแอร์เคยให้สัมภาษณ์แล้วครั้งหนึ่งในปี 2562 ว่า เพื่อเลี่ยงการแข่งขันในสงครามราคา สายการบินมีแผนจะปรับตัวเองสู่การเป็น “พรีเมี่ยมบัดเจ็ทแอร์ไลน์”

จริงอยู่ที่ความพยายามหนีห่างจากสงครามราคาในอุตสาหกรรมการบินไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การจะหลีกหนีจากเรื่องดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

เหตุเพราะบางช่วงเวลาสายการบินหน้าเดิม-หน้าใหม่ ทุ่มลดราคาสุดฤทธิ์เพื่อดึงดูดผู้โดยสาร อีกทั้งปัจจัยกำลังซื้อที่ผันแปรไปตามสภาพเศรษฐกิจ หากบรรยากาศการจับจ่ายย่ำแย่ สายการบินแต่ละแห่งก็ต้องออกแคมเปญกระตุ้นให้คนเดินทาง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายสายการบินกลับมาระมัดระวังด้านการจัดโปรโมชั่นมากขึ้น นางนันทพร โกมลสิทธิ์เวช ผู้อำนวยการฝ่ายการบินพาณิชย์ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กล่าวไว้เมื่อช่วงปลายปี 2564 ว่า ในปี 2565 นี้ สายการบินจะเลือกนำเสนอราคาที่ไม่โดดจากสายการบินอื่นมากเกินไป แต่จะไม่เสนอราคาที่แม้มีผู้โดยสารเต็มลำแต่ยังขาดทุน

สอดคล้องนายปิ่นยศ พิบูลสงคราม ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ สายการบินไทยเวียตเจ็ท ประเมินว่า ในช่วงปลายปี 2565 นี้ สายการบินต่าง ๆ จะพยายามบริหารราคาให้สอดคล้องกับต้นทุนและอุปสงค์มากที่สุด สงครามราคาจึงอาจลดน้อยลงไป

แผนการขยับหนีจากการสงครามราคาของนกแอร์ เริ่มจับต้องได้บ้างแล้ว แต่สุดท้ายตลาดจะให้การตอบรับ “นกแอร์” ในฐานะ “พรีเมี่ยมแอร์ไลน์” มากแค่ไหน ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์