โรงแรมดาราเทวี เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ รอบใหม่

โรงแรมดาราเทวี
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Dhara Dhevi Chiang Mai

เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดทรัพย์โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ รอบใหม่ กำหนดราคาเริ่มต้น 2,012 ล้าน

วันที่ 20 ธันวาคม 2565 สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2565 สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดี 2 ฉบับ ประกาศขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ ใน 2 คดี ได้แก่ ทรัพย์ในคดีหมายแดงที่ ผบ.2123/2561 ราคาประมูลเริ่มต้น 1,262.9 ล้านบาท และทรัพย์ในคดีเลขคดีแดงที่ ผบ.2124/2561 ราคาประมูลเริ่มต้น 749.72 หรือคิดเป็นราคาประมูลเริ่มต้นรวม 2,012.62 ล้านบาท

โดยผู้ประสงค์จะเข้าร่วมเสนอราคาต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน คือ เงินสด หรือแคชเชียร์เช็ค หรือใช้วิธีทำรายการผ่านระบบ EDC (Electronic Data Capture) ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี สำหรับทรัพย์ในคดีหมายแดงที่ ผบ.2123/2561 ต้องวางหลักทรัพย์จำนวน 140 ล้านบาท ส่วนทรัพย์ในคดีหมายแดงที่ ผบ.2124/2561 ต้องวางหลักทรัพย์ จำนวน 80 ล้านบาท หรือหากเข้าประมูลทรัพย์ทั้ง 2 คดี ต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันรวม 220 ล้านบาท

ทั้งนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีได้กำหนดวันขายทอดทรัพย์ รวม 6 นัด ได้แก่ นัดแรก วันที่ 27 ม.ค. 2566 นัดสอง วันที่ 17 ก.พ. 2566 นัดที่สาม วันที่ 10 มี.ค. 2566 นัดที่สี่ วันที่ 31 มี.ค. 2566 นัดที่ห้า วันที่ 21 เม.ย. 2566 และนัดที่หก วันที่ 12 พ.ค. 2566 ณ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่

อย่างไรก็ตาม หากการประมูลนัดแรก ไม่มีผู้ยื่นเสนอราคาประมูล เจ้าพนักงานบังคับคดีจะยกเลิกการประมูล และเปิดประมูลนัดที่สอง โดยจะลดราคาประมูลเริ่มต้นลงมา 10% ของราคาประมูลเริ่มต้น 2,012.62 ล้านบาท และหากการประมูลในนัดที่สอง ไม่มีผู้ยื่นเสนอราคาอีก ก็จะลดราคาลดลงมาอีก 10% แต่ทั้งนี้ การลดราคาประมูลเริ่มต้นดังกล่าว รวมแล้วจะลดได้ไม่เกิน 30% ของราคาประมูลเริ่มต้นที่กำหนดไว้ที่ 2,012.62 ล้านบาท

จับตากลุ่มทุนใหญ่

ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวเจ้าของธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การซื้อทรัพย์โรงแรมดาราเทวีเป็นเรื่องไม่ง่ายนักในแง่ของการทำกำไรทางธุรกิจ ซึ่งการที่นักลงทุนทั่วไป หรือนักลงทุนท้องถิ่นจะตัดสินใจซื้อนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะซื้อไปก็ขาดทุน แม้มีจุดขายที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณ แต่ในเชิงการตลาดอาจทำได้ยากที่จะตอบโจทย์ตลาดยุคนี้ หากกลุ่มทุนที่จะซื้อไม่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจโรงแรมและไม่ใช่ทุนขนาดใหญ่

ดังนั้น กลุ่มทุนที่จะซื้อทรัพย์ชิ้นนี้จะต้องเป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจโรงแรม ซึ่งกลุ่มทุนที่มีความเป็นไปได้ และมีศักยภาพมากที่สุด โดยเฉพาะบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เพราะมีธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากในจังหวัดเชียงใหม่ เพียงแต่อาจรอให้ราคาประมูลทรัพย์ต่ำลงกว่านี้

คาดว่าราคาขายทรัพย์ของโรงแรมดาราเทวีจะไปหยุดอยู่ที่ราว 1,200-1,500 ล้านบาท ซึ่งหาก AWC เข้าประมูลซื้อ จะเป็นการเติมเต็มจิ๊กซอว์ของกลุ่มทุน AWC ในการทำธุรกิจโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ได้อย่างครอบคลุม เนื่องจากโรงแรมดาราเทวีมีจุดขายมี magnet อยู่แล้ว และดาราเทวีเป็นมากกว่าโรงแรม 5 ดาว คือขึ้นชั้นระดับ 6 ดาว

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันมีกลุ่มทุนขาใหญ่ที่มีศักยภาพซื้อกิจการโรงแรม เช่น บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ ซี.พี.แลนด์ และบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด หรือ S ในเครือบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกาศรับซื้อพวกกิจการโรงแรมและรีสอร์ตเช่นเดียวกัน แต่ที่วิเคราะห์ว่า กลุ่มทุนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดและมีศักยภาพที่สุดที่จะสนใจซื้อกิจการของโรงแรมดาราเทวีใน จ.เชียงใหม่ คือ กลุ่ม AWC ของเสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดีเท่านั้น

เพราะปัจจุบันกลุ่ม AWC เป็นบริษัทในกลุ่มทีซีซี (TCC Group) มีธุรกิจครอบคลุมถนนช้างคลานย่านไนท์บาซาร์อย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่

อาทิ โรงแรมดุสิต ดีทู เชียงใหม่ (Dusit D2), ศูนย์การค้าเดอะพลาซ่า, กาแลไนท์บาซาร์, ศูนย์การค้าเชียงใหม่ไนท์บาซาร์, โรงแรม 5 ดาว เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ (เตรียมเปลี่ยนเป็นเชนแมริออท), ตลาดอนุสาร, โรงแรมซีเอช โฮเทล เชียงใหม่ (CH Hotel), ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจบนถนนศรีดอนไชย ซึ่งอยู่ใกล้ถนนช้างคลานย่านไนท์บาซาร์ อาทิ สุริวงศ์บุ๊ค เซ็นเตอร์, โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง ระดับ 5 ดาว อยู่ระหว่างการปรับปรุงใหม่ รวมถึงโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2565 ซึ่งถือเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ขนาด 260 ห้องพัก ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำปิง บนถนนเจริญประเทศ อยู่ใกล้กับไนท์บาซาร์