เอเย่นต์ทัวร์จีนบุกเที่ยวไทย จัดโปรพิเศษ 6 วัน 25,000 บาท

ทัวร์จีน

“ทัวร์จีน” คึกคัก! เอเย่นต์ในจีนแห่ขายแพ็กเกจเที่ยวไทย “ซี.ซี.ที. กรุ๊ป” ขาใหญ่ชี้โอกาสทองฟื้นเศรษฐกิจ ยันไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวจีน โหมทำตลาดแพ็กเกจทัวร์ราคา 3-5 พันหยวน จับกลุ่มคุณภาพใช้จ่ายสูง ททท.พร้อมสนับสนุนเอเย่นต์เต็มที่ ยกระดับมาตรฐานเที่ยวไทย

นายวิชิต ประกอบโกศล ประธาน บริษัท ซี.ซี.ที.กรุ๊ป จำกัด บริษัทนำเที่ยวอินบาวนด์ (ขาเข้า) ตลาดจีนรายใหญ่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากที่กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาชนจีน ออกประกาศอนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวทำการตลาดแบบหมู่คณะ หรือกรุ๊ปทัวร์ไปใน 20 ประเทศตามประกาศประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 พบว่าบริษัททัวร์จำนวนมากเริ่มกดปุ่มการขายทันที

โดยในส่วนของประเทศไทยนั้นได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักท่องเที่ยวชาวจีน มีทั้งบริษัททัวร์ที่เดิมเคยขายอยู่แล้วกลับมาทำการตลาดอีกครั้ง และบริษัทที่ยังไม่เคยทำตลาดเริ่มหันมาทำการตลาดและขายประเทศไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศคู่แข่งสำคัญของไทย เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลี รัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้กรุ๊ปทัวร์ออกเดินทาง

“ตอนนี้เอเย่นต์ในจีนคึกคักและสนใจขายประเทศไทยเป็นอย่างมาก เร่งทำแพ็กเกจขายประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ของคนจีน โดยเฉพาะเส้นทางท่องเที่ยวหลักอย่างกรุงเทพฯ พัทยา (ชลบุรี) ภูเก็ต และเชียงใหม่” นายวิชิตกล่าว

วิชิต ประกอบโกศล
วิชิต ประกอบโกศล

นายวิชิตกล่าวว่า นโยบายการเปิดให้กรุ๊ปทัวร์ออกเที่ยวได้ใน 20 ประเทศดังกล่าวนั้น ประเทศไทยเป็นตลาดที่นักท่องเที่ยวจีนให้ความสนใจมากที่สุด จึงมองว่าในช่วง 3 เดือนแรกของการเปิดประเทศนี้ เป็นโอกาสทองในการฟื้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมาก ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลและอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว

รวมทั้งยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวของตลาดจีนด้วยการมุ่งจับตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ มีกำลังใช้จ่าย เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายต่อคนต่อทริปให้สูงขึ้น ตามนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนที่มีกำลังซื้อมีความต้องการเดินทาง หรือ pending demand สูงมาก

โดยราคาแพ็กเกจทัวร์สำหรับเที่ยวประเทศไทย เช่น โปรแกรมกรุงเทพฯ-พัทยา (ชลบุรี), โปรแกรมภูเก็ต ที่บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ของจีนและบริษัท ซี.ซี.ที.กรุ๊ปขายอยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับตั้งแต่ 3,000-5,000 หยวนขึ้นไปทั้งหมด เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนหากเทียบกับช่วงก่อนวิกฤตโควิดที่ขายกันอยู่ประมาณ 1,000 หยวน หรือบางแพ็กเกจลดกันสุด ๆ ถึง 888 หยวน

“ไฟลต์ปฐมฤกษ์ที่เราขายเข้ามาเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ราคาแพ็กเกจท่องเที่ยวแบบ 6 วัน 5 คืน อยู่ที่ 4,500 หยวน หรือประมาณ 25,000 บาท ถือว่าเป็นแพ็กเกจทัวร์พิเศษ ได้รับการดูแลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จับกลุ่มลูกค้าระดับบน ไม่มีโปรแกรมช็อปปิ้ง และพักโรงแรม 5-6 ดาว อย่างโรงแรมแมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท เป็นต้น” นายวิชิตกล่าว

และว่า ราคาแพ็กเกจที่ขายกันอยู่ในตลาดขณะนี้ยังไม่ใช่ราคาที่แท้จริงของตลาด และยังเป็นช่วงที่ค่อนข้างเสี่ยง และประเมินต้นทุนยาก เนื่องจากส่วนหนึ่งอยู่ในช่วงโปรโมชั่นของเอเย่นต์ทัวร์ที่ต้องการสร้างการรับรู้

ที่สำคัญยังขึ้นอยู่กับระยะทางการบิน และราคาตั๋วโดยสารของสายการบิน ซึ่งยังมีจำนวนที่ค่อนข้างจำกัด รวมถึงโปรแกรมการเดินทางด้วยว่ามีช็อปปิ้งหรือไม่มีช็อปปิ้งเป็นหลัก

“จากราคาขายกันในตลาดขณะนี้ ทำให้มีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าการใช้จ่ายต่อคนต่อทริปของนักท่องเที่ยวจีนจะสูงขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมาแน่นอน”

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์ทยอยเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง โดยวันแรก (6 ก.พ. 66) เดินทางเข้ามาใน 14 เที่ยวบิน ผ่าน 3 ท่าอากาศยานหลักคือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต และจะเห็นความชัดเจนและกลับสู่ภาวะปกติได้ในช่วงประมาณเดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป

นายวิชิตกล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจีน และเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วยการท่องเที่ยว จึงอยากเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งแก้ปัญหาใน 3 เรื่องหลัก

ได้แก่ 1. เพิ่มบริการภาคพื้น (ground service) และจำนวนที่นั่งสายการบินให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว 2. อนุญาตให้สถานกงสุลใหญ่ไทยทั้ง 8 แห่งในจีนทำวีซ่าได้ จากปัจจุบันที่ทำได้ที่กรุงปักกิ่งเพียงแห่งเดียว และ 3. ช่วยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว

“ตอนนี้โอกาสประเทศไทยมาแล้ว และได้เปรียบประเทศคู่แข่งอยู่ หากรัฐช่วยสนับสนุนอีกแรงจะช่วยให้การท่องเที่ยวของประเทศกลับมาได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องของความสะดวกในการทำวีซ่าของชาวจีน ทั้งที่สถานกงสุล และระบบ e-Visa ที่ยังมีข้อจำกัดค่อนข้างสูง” นายวิชิตกล่าว

ด้าน นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า จากการประเมินตลาดของสำนักงาน ททท.ในจีนพบว่า ทุกพื้นที่มีดีมานด์การเดินทางจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว

ขณะที่จำนวนที่นั่งสายการบินระหว่างจีน-ไทย ก็มีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีจำนวน 1.7 แสนที่นั่ง และเดือนมีนาคม 2566 มีจำนวน 1.8 แสนที่นั่ง รวมไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค. 2566) มีจำนวน 4.5 แสนที่นั่ง (ไม่รวมสายการบินแบบเช่าเหมาลำ)

ชูวิทย์ ศิริเวชกุล

นายชูวิทย์กล่าวด้วยว่า สำหรับ ททท.นั้น ขณะนี้พร้อมให้การสนับสนุนและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องการประสานสลอตการบินกับท่าอากาศยานหลัก ๆ ของประเทศ อีกทั้งยังช่วยกระจายเส้นทางการบินออกไปสู่เมืองท่องเที่ยวในภูมิภาค เพื่อแก้ปัญหาสายการบินหาสลอตการบิน และความไม่พร้อมของบริการภาคพื้นของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง


นอกจากนี้ ยังพร้อมดูแลเรื่องคุณภาพและมาตรฐานของแพ็กเกจทัวร์ ด้วยการสนับสนุนบริษัทนำเที่ยว (เอเย่นต์) ในจีนที่ทำแพ็กเกจการขายราคาสูงให้เกิดความมั่นใจและทำตลาดได้ง่าย รวมทั้งดูแลผู้ประกอบการฝั่งไทยให้ช่วยทุกตลาดระดับกลางถึงบนเป็นหลัก เพื่อยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวของไทยสู่คุณภาพตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ