เอส โฮเทล โชว์รายได้ไตรมาสแรก 2.5 พันล้าน-โรงแรมในไทยพุ่ง 3 เท่า

“เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” เปิดผลประกอบการ Q1/66 มีรายได้รวม 2.5 พันล้าน เติบโต 51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างกำไรสุทธิ 125 ล้านบาท เป็นผลกำไรติดต่อกัน 3 ไตรมาส เผยโรงแรมในไทยรายได้เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าตัว คาดปีนี้มีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท

วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการเติบโต 16% จากไตรมาสก่อน หรือเพิ่มขึ้น 51% จากปีที่แล้ว คิดเป็นรายได้  2,544 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่ขยายตัวในทุกพอร์ตโฟลิโอ สอดรับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของการท่องเที่ยวโลก และมีกำไรสุทธิจำนวน 125 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรายงานผลกำไรติดต่อกัน 3 ไตรมาส

โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เกิดจากการเติบโตของธุรกิจโรงแรมที่บริษัท ลงทุนทั้ง 4 พอร์ตโฟลิโอ โดยเฉพาะผลประกอบการของโรงแรมในประเทศไทยที่มีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าตัวจากการเปิดประเทศ ทุกโรงแรมในประเทศไทยมีอัตราการเข้าพักในช่วงไตรมาสแรกของปีเฉลี่ย 85% และสามารถปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate : ADR) ได้เพิ่มขึ้นกว่า 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนเกิดโควิด-19

นอกจากนี้ ผลประกอบการในโครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ (CROSSROADS Maldives) และพอร์ตโรงแรมที่สหราชอาณาจักรก็ยังส่งสัญญาณบวกต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยโรงแรมทั้ง 2 แห่งในโครงการ CROSSROADS มีความโดดเด่นและมีความแตกต่างแบบเฉพาะตัว สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม ทำให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยเติบโตถึง 87% นับว่าเป็นสถิติที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดโครงการ

สำหรับกลุ่มโรงแรมสหราชอาณาจักรมีอัตราการเข้าพักสูงถึง 66% แม้จะอยู่ระหว่างช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว สามารถสร้างรายได้ต่อห้องพักต่อคืน (RevPAR) ที่ 50 ปอนด์ ซึ่งสูงกว่าปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 ผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากหลากหลายพอร์ตโฟลิโอนี้นับว่าเป็นก้าวสู่ความสำเร็จที่สำคัญของบริษัท

“เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท” เปิดผลประกอบการ Q1/66

“ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 นี้ บรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากความแข็งแรงของฐานรากทางธุรกิจที่พร้อมรับการเติบโตของการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มศักยภาพ หนุนด้วยความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ การยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสอดคล้องต่อความต้องการสูงสุดของนักท่องเที่ยว เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยการฟื้นตัวที่แข็งแรงของภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกในปีนี้ ผนวกกับผลสำเร็จของกลยุทธ์บริหาร RevPAR และการเดินหน้าปรับปรุงประสิทธิภาพของพอร์ตโฟลิโอ จะทำให้ผลประกอบการของ SHR ในปี 2566 นี้เป็นที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี” นายเดิร์กกล่าว

และว่าการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลังการยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดดในปีนี้  บวกกับกลยุทธ์ผลักดันธุรกิจที่เราดำเนินการมาตลอด SHR จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้นจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเราเติบโตได้เต็มอัตราและขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยการขับเคลื่อนรายได้ในปี 2566 นี้ ให้สูงกว่า 10,000 ล้านบาท