หมดยุค “เที่ยวล้างแค้น” Klook เผย ชาวมิลเลนเนียล ออกเที่ยวเพื่อหาแรงบันดาลใจ

นักท่องเที่ยวกำลังโต้คลื่น ภาพถ่าย ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
Photo by SONNY TUMBELAKA / AFP

หมดยุค “เที่ยวล้างแค้น” หลังโควิด Klook พบชาวมิลเลนเนียลออกเดินทางเพื่อหาแรงบันดาลใจ คนรุ่นใหม่ไทยกว่าครึ่ง มีแพลนออกเดินทางใน 3 เดือน เผยญี่ปุ่น ยุโรป สิงคโปร์ ติดท็อปเดสติเนชั่นของคนไทย

วันที่ 15 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Klook แพลตฟอร์มในการจองกิจกรรมและประสบการณ์การท่องเที่ยว เผยเทรนด์การท่องเที่ยวของกลุ่มนักท่องเที่ยวมิลเลนเนียล (เกิดปี ค.ศ. 1981 ถึง 1996) และเจน Z (เกิดปี ค.ศ. 1997 ถึง 2012) โดยผลสำรวจจาก Klook ชี้ให้เห็นถึง 5 เทรนด์สำคัญ ของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ได้แก่

เทรนด์ที่ 1 : ขอหยุดการ “ล้างแค้น” ไว้เพียงเท่านี้

จากผลการสำรวจพบว่า นักท่องเที่ยวมิลเลนเนียลและเจน Z เป็นกลุ่มแรก ๆ ที่พร้อมออกเดินทางนอกประเทศทันทีหลังจากที่นโยบายและข้อจำกัดของการเดินทางได้ผ่อนคลาย ดังนั้นเทรนด์ “Revenge travel” หรือ “ออกเที่ยวให้สะใจ” หลังจากที่เปิดประเทศจึงได้ตกยุคไปเรียบร้อยแล้วสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้

เนื่องจากการเดินทางที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ไม่ถือเป็นทริปแรกหลังการผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุขอีกต่อไป จากผลสำรวจพบว่า ชาวมิลเลนเนียลและเจน Z ออกเดินทางในช่วงครึ่งปีหลังเพราะต้องการเติมเต็มความหมายของชีวิต และสร้างแรงบันดาลใจ โดยผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า 56% ของกลุ่มมิลเลนเนียลชาวไทยกำลังวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมนี้อีกด้วย

เทรนด์ที่ 2 : แรงบันดาลใจ อยู่แห่งหนใด?

ผลสำรวจเผยว่า 1 ใน 4 ของกลุ่มมิลเลนเนียลและเจน Z ในเอเชีย ออกเดินทางเพื่อค้นหาแรงบันดาลใจ โดย 44% บอกว่าได้รับแรงบันดาลใจจากการออกไปสัมผัสกับธรรมชาติ และ 28% เผยว่าได้รับแรงบันดาลใจจากการเที่ยวชมเมือง

ทั้งนี้ กลุ่มมิลเลนเนียล 1 ใน 3 มีความสนใจที่จะทำกิจกรรมที่ได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรม อาทิ การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ หรือการเข้าร่วมเวิร์กช็อปงานศิลปะ

Advertisment

เทรนด์ 3 : มิลเลนเนียล ขอเที่ยวพักผ่อน

ผลวิจัยยังได้สำรวจต่อไปว่า เมื่อชาวมิลเลนเนียลและเจน Z ตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวนั้น พวกเขาจะให้ความสำคัญกับแรงขับเคลื่อนทางอารมณ์แบบไหนมากที่สุด ซึ่งผลวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่า 72% ของมิลเลนเนียลต้องการเดินทางเพื่อพักผ่อน

โดยกิจกรรมที่เลือกก็จะเป็น ทำสปา, ขับรถเล่น, เดินเล่นชมธรรมชาติ หรือเรียนทำอาหารเป็นต้น ส่วน 59% ตอบว่า ต้องการเดินทางเพราะอยากสัมผัสกับอิสระ กิจกรรมที่กลุ่มนี้ชื่นชอบก็จะเป็น เที่ยวทะเล, เล่น Surf, พายคายัก, เล่นสกี เป็นต้น ส่วนอีก 47% ต้องการเดินทางเพื่อค้นหาความสนุก ผ่านกิจกรรมสวนน้ำสวนสนุก, ช็อปปิ้ง

Advertisment

เทรนด์ 4 : เที่ยวไหน นอนนั่น

ในอดีต ลำดับการเตรียมจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวนั้น นักท่องเที่ยวมักจะจองตั๋วเครื่องบินเป็นลำดับแรก ตามด้วยจองโรงแรมที่พัก แล้วจึงวางแผนกิจกรรมท่องเที่ยว แต่จากข้อมูล SEM ของ Klook สะท้อนให้เห็นว่าในปัจจุบันนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 20% ได้ค้นหากิจกรรมท่องเที่ยวในเมืองนั้น ๆ ก่อนที่จะจองโรงแรม

เทรนด์ 5 : จองก่อน สบายใจก่อน

โดยปกติแล้ว เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย พวกเขาจะมีช่วงเวลาการจองกิจกรรมท่องเที่ยวล่วงหน้าประมาณ 10-11 วัน ก่อนออกเดินทาง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลภายในของ Klook ชี้ให้เห็นว่า สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการการท่องเที่ยวที่มีจำกัด เช่น โรงแรมห้องพักและรถเช่า นักท่องเที่ยวจะมีแนวโน้มที่จะเตรียมจองล่วงหน้านานถึง 20 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาการจองล่วงหน้านานกว่ากิจกรรมท่องเที่ยวถึงเท่าตัว

เปิดตัว Stay+ จัดดีลเด็ด

รายงานจาก Klook ระบุว่า บริษัทได้นำเทรนด์การท่องเที่ยว พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์แรก ได้แก่ Stay+ (สเตย์ พลัส) ซึ่งเป็นแพ็กเกจการจองโรงแรมที่พัก ที่ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกโรงแรมที่ตนชื่นชอบ จากนั้นสามารถผนวกกิจกรรมการท่องเที่ยว หรือบริการรับส่งสนามบิน หรือ WiFi/ซิมการ์ด รวมเข้าไปในแพ็กเกจโรงแรม โดยราคารวมของแพ็กเกจจะเป็นราคาที่คุ้มค่า

ปัจจุบันมีโรงแรมในเมืองไทยร่วมทำแพ็กเกจ Stay+ กับ Klook มากกว่า 150 โรงแรม ผนวกรวมกับกิจกรรมมากกว่า 1,000 ชนิด ทำให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเมืองไทยมีทางเลือกในการทำกิจกรรมที่หลากหลาย ในราคาที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพ + บัตรเข้าชมมหานครสกายวอล์ก หรือโรงแรมภูเก็ตเกรซแลนด์ + บริการรถรับส่งสนามบิน

Klook Pass บัตรเดียว เที่ยวคุ้ม

นอกจากนี้ Klook ยังได้พัฒนา Klook Pass โดยรวบรวมเอากิจกรรมยอดฮิตมารวมไว้ในบัตรเดียว จากนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเลือกจำนวนกิจกรรมที่ต้องการ และสามารถเข้าชมกิจกรรมเหล่านั้นได้ในราคาที่คุ้มค่ามากขึ้น (โปรดตรวจสอบเงื่อนไขกับแพลตฟอร์ม) นักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้ลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นสามารถนำเสนอกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวของตนได้มากขึ้น

ปัจจุบัน Klook ได้พัฒนา Klook Pass นำเสนอกิจกรรมประเทศไทยด้วยเช่นกัน อาทิ Klook Pass กรุงเทพฯ & พัทยา, Klook Pass กรุงเทพฯสปาทรีตเมนต์, Klook Pass ภูเก็ต และ Klook Pass เชียงใหม่สปาทรีตเมนต์ เป็นต้น

ญี่ปุ่น ที่หนึ่งในใจ

นายวิลเฟร็ด ฟาน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ Klook เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์ม Klook มียอดการจองกิจกรรมท่องเที่ยวไทยจากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงเพิ่มขึ้น 1,200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี’65 โดย 5 ประเทศหลักที่จองกิจกรรมไทยบนแพลตฟอร์ม Klook ได้แก่ ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ และมาเลเซีย

สำหรับกิจกรรมยอดนิยมในเมืองไทย ได้แก่ ทัวร์แบบ Day trip อาทิ ทัวร์ทะเลใต้ เช่น เกาะพีพี, ทัวร์ชมเมืองประวัติศาสตร์อยุธยา กิจกรรมยอดนิยมลำดับถัดมาคือ กิจกรรมชมความสวยงามของเมืองไทย ได้แก่ ล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา, ชมวิวกรุงเทพมหานครที่มหานครสกายวอล์ก ส่วนกิจกรรมอีกประเภทที่ได้รับความนิยมคือ สปา โดยชาวต่างชาติให้ความนิยมในการมาผ่อนคลายและทำสปาทั้งในกรุงเทพฯ, เชียงใหม่ และภูเก็ต

ขณะที่ยอดการจองกิจกรรมท่องเที่ยวของชาวไทย ทั้งการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศและท่องเที่ยวภายในประเทศ ก็เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 700% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวไทย ได้แก่ ญี่ปุ่น, ยุโรป, สิงคโปร์, เที่ยวไทย และฮ่องกง ตามลำดับ ทั้งนี้ กิจกรรมยอดนิยมของชาวไทย ได้แก่ การไปสวนสนุก, การซื้อบัตรโดยสารเดินทาง และการเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว