ไทยแห่เที่ยวนอก 10 ล้านคน “วีซ่าฟรี” หนุนไปจีนเทียบชั้นญี่ปุ่น

คนไทยเที่ยวนอกคึกคัก ! คาดปีนี้แตะ 10 ล้านคน เส้นทางจีนฮอตสุด ๆ โตก้าวกระโดดตั้งแต่ต้นปี มั่นใจมาตรการวีซ่าฟรีไทย-จีน 1 มีนาฯ หนุนสายการบินเพิ่มไฟลต์ ดันตัวเลขคนไทยเที่ยวจีนเพิ่มได้เท่าตัว พุ่งทะลุ 1 ล้านคนเทียบชั้นญี่ปุ่นเดสติเนชั่นยอดนิยมตลอดกาลของคนไทย ขณะที่ยุโรปทรง ๆ หมดกระแสเที่ยวล้างแค้น ราคาตั๋วเครื่องบินยังแพงเว่อร์ บริษัททัวร์ยุโรปหันทำตลาดจีน-ญี่ปุ่น VFS Global เผยแนวโน้มปริมาณการยื่นขอวีซ่าในปี’67 แซงหน้าก่อนโควิด “แอร์เอเชีย” อัดโปรฯ 11 เส้นทางบินจีน เริ่มต้น 2,490 บาทต่อเที่ยว

นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) กล่าวว่า สมาคมคาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดทัวร์เอาต์บาวนด์ หรือคนไทยเที่ยวต่างประเทศในปี 2567 จะมีจำนวนประมาณ 8-10 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% เมื่อเทียบกับปี 2566 และกลับมาใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนโควิดระบาดที่มีประมาณ 10-11 ล้านคน โดยจุดหมายปลายทางที่คนไทยนิยมไปเที่ยวต่างประเทศสำหรับปีนี้ยังคงเป็นญี่ปุ่น และมีอัตราการเดินทางซ้ำสูงมาก ทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง โดยคาดว่าปี 2567 จะมีคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นราว 1.2-1.5 ล้านคน ใกล้เคียงหรือดีกว่าปี 2562 ที่มีประมาณ 1.3 ล้านคน และสูงกว่าปี 2566 ที่ผ่านมาที่มีประมาณ 1 ล้านคน

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกยังคงเป็นเรื่องของเงินเยนอ่อนค่าและราคาบัตรโดยสารสายการบินที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากมีจำนวนที่นั่งโดยสารในตลาดเพิ่มขึ้น ส่วนตลาดอื่นที่เติบโตตามมาอย่างชัดเจน คือ จีน เวียดนาม สปป.ลาว

แห่เที่ยวจีนเพิ่มทะลุ 1 ล.คน

นายธนพล ชีวรัตนพร อุปนายกสมาคม TTAA และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เอ็กซ์เพลส จำกัด บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว ทัวร์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันตลาดที่ดีมากและกลับมาเติบโตได้เร็วที่สุดสำหรับคนไทยเที่ยวต่างประเทศ คือ จีน โดยพบว่ามีจำนวนการเดินทางเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และคาดว่าหลังจากใช้มาตรการวีซ่าฟรีระหว่างจีน-ไทย ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 นี้เป็นต้นไป จะทำให้ตัวเลขคนไทยเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนอีกครั้ง

ธนพล ชีวรัตนพร
ธนพล ชีวรัตนพร

โดยคาดการณ์ว่าตลอดปี 2567 นี้ จำนวนคนไทยเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นได้เท่าตัวเมื่อเทียบกับฐานของปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิด-19 ที่มีจำนวนคนไทยเที่ยวจีนประมาณ 6-7 แสนคนต่อปี หรือมีจำนวนทะลุ 1 ล้านคน ใกล้เคียงกับจำนวนคนไทยเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเดสติเนชั่นยอดนิยมของคนไทยมานานแน่นอน

Advertisment

Q2 สายการบินแห่เพิ่มไฟลต์

นายธนพลกล่าวว่า ปัจจุบันประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย รวมถึงมีรถไฟฟ้าเชื่อมระหว่างมณฑลทำให้การเดินทางท่องเที่ยวได้สะดวกขึ้น คนไทยจำนวนหนึ่งจึงหันไปเที่ยวจีนมากขึ้น ยิ่งมีปัจจัยบวกเรื่องวีซ่าฟรี ยิ่งจะทำให้จีนกลายเป็นเดสติเนชั่นยอดนิยมของคนไทยมากยิ่งขึ้นในอนาคต

และอีกตลาดหนึ่งที่น่าติดตาม คือ เกาหลี ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเป็นตลาดที่มีปัญหาเรื่องกรุ๊ปทัวร์กับการลงทะเบียนผ่านระบบเข้าประเทศ K-ETA ซึ่งคาดว่ารัฐบาลเกาหลีจะทำการยกเลิกระบบ K-ETA ภายในไตรมาส 2 นี้ หากสามารถปลดล็อกได้เชื่อว่าเกาหลีจะยังเป็นตลาดยอดนิยมของคนไทยอีกครั้ง

“โดยส่วนตัวประเมินว่าปีนี้จำนวนคนไทยไปต่างประเทศน่าจะอยู่ในระดับ 80% ของปี 2562 หรือประมาณ 8 ล้านคนเศษ โดยจีนจะเป็นเส้นทางที่มีอัตราการเติบโตสูงและชัดเจนที่สุด และมีจำนวนใกล้เคียงกับญี่ปุ่น และเชื่อว่าตั้งแต่ตารางบินฤดูร้อน (Summer Schedule) ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป จะมีสายการบินให้บริการเส้นทางระหว่างไทย-จีนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนอีกด้วย” นายธนพลกล่าว

หาข้อมูลจีนบน Trip.com พุ่ง

สอดรับกับข้อมูลของเว็บไซต์ Trip.com ที่รายงานว่า หลังจากมีข่าวการลงนามในข้อตกลงยกเว้นวีซ่าซึ่งกันและกันอย่างเป็นทางการระหว่างจีนและไทย เมื่อ 28 มกราคม 2567 
พบว่า บน Trip.com Thailand มีอัตราการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องในประเทศจีนเพิ่มขึ้นมากกว่า 4 เท่า เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า เมืองที่นักท่องเที่ยวไทยค้นหามากที่สุด ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู ฮาร์บิน เสิ่นเจิ้น ปักกิ่ง เทียนจิน ฉงชิ่ง และจางเจียเจี้ย

Advertisment

ขณะเดียวกันในฝั่งจีนก็มีอัตราการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยบนแพลตฟอร์มจีนเพิ่มขึ้นมากกว่า 7 เท่า เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมีการค้นหาตั๋วเครื่องบินและโรงแรมเพิ่มขึ้นมากกว่า 6 เท่า เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยมีชาวเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางตุ้ง เจ้อเจียง เจียงซู เสฉวน และซานตง ทำการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยมากขึ้น และสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่นักท่องเที่ยวจีนค้นหามากที่สุด คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ เกาะสมุย และพัทยา

บ.ทัวร์ยุโรปหันรุก “จีน-ญี่ปุ่น”

สำหรับตลาดระยะไกลหรือตลาดในโซนยุโรป อเมริกา นายธนพลกล่าวว่า ยังเติบโตได้เช่นกัน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มยุโรปตะวันออก เพียงแต่ขยายตัวในอัตราที่ไม่สูงนัก เนื่องจากปัจจุบันสายการบินยังกลับมาให้บริการประมาณ 70-80% เมื่อเทียบกับปี 2562 ทำให้ราคาตั๋วโดยสารสายการบินและแพ็กเกจทัวร์ยังอยู่ในระดับที่สูง

เช่นเดียวกับแหล่งข่าวจากบริษัท ซี ยู อะเกน จำกัด บริษัทผู้นำทัวร์ส่วนตัวยุโรปและเอเชีย ที่กล่าวว่า แนวโน้มตลาดคนไทยเที่ยวยุโรปสำหรับปีนี้ค่อนข้างทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ผ่านมา ที่คนไทยที่มีกำลังซื้อส่วนหนึ่งแห่เที่ยว หรือที่เรียกว่าเป็นกระแสการท่องเที่ยวแบบล้างแค้น หลังจากที่กักตัวอยู่กับบ้านมานานถึง 3 ปี (ช่วงโควิด) ไปแล้ว ทำให้ปีนี้กระแสไม่คึกคักนัก

“ที่สำคัญยังมีปัจจัยเรื่องต้นทุนการเดินทางที่ยังคงสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาตั๋วโดยสารเครื่องบิน เนื่องจากจำนวนที่นั่งสายการบินยังฟื้นกลับมาไม่เต็มที่ ทำให้ตอนนี้เราหันมาทำตลาดญี่ปุ่น จีน เพิ่มขึ้น” แหล่งข่าวกล่าว

ญี่ปุ่นแชมป์ปลายทางยอดนิยม

นายโชติช่วง ศูรางกูร อุปนายกสมาคม TTAA และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดการท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากคนไทยในปีนี้ยังคงเป็นญี่ปุ่น ซึ่งได้แรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าต่อเงินบาท โดยก่อนการระบาดของโควิด-19 มีชาวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นที่ 1.1 ล้านคน หรือประมาณ 11% ของชาวไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ ขณะที่ปี 2566 มีชาวไทยไปเยือนญี่ปุ่น 955,000 คน คิดเป็นประมาณ 15% ของจำนวนคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ

โชติช่วง ศูรางกูร
โชติช่วง ศูรางกูร

ส่วนเส้นทางท่องเที่ยวยุโรปนั้นพบว่า ยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่สูงนัก เนื่องจากราคาตั๋วโดยสารการบินยังอยู่ในระดับสูง แต่ก็ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม มีกำลังซื้อประมาณหนึ่งยังออกเดินทางไปเยือนอยู่บ้าง

สำหรับปี 2567 นี้ นายโชติช่วงประเมินว่า น่าจะมีนักท่องเที่ยวไทยออกเที่ยวต่างประเทศที่ประมาณ 7.5-7.8 ล้านคน จำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าวอาจจะไม่ได้เพิ่มขึ้นเยอะ เนื่องจากประเด็นด้านเศรษฐกิจไทย บริษัทเอกชนอาจมีความกังวลต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก ทำให้การเติบโตนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมากนัก

“ความน่าสนใจในปีนี้ คือ สายการบินในภูมิภาคเอเชียจะฟื้นตัวสู่ระดับ 85% เมื่อเทียบกับก่อนโควิด-19 จากในปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 70% ตามการคาดการณ์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ทำให้ราคาบัตรโดยสารลดลง เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้หลากหลายมากขึ้น” นายโชติช่วงกล่าว

ปริมาณขอวีซ่าปี’67 แซงปี’62

นายเกาชิค กอช หัวหน้าฝ่ายออสตราเลเชีย วีเอฟเอสโกลบอล เปิดเผยว่า ข้อมูลจากการสำรวจของ วีเอฟเอสโกลบอล พบว่าในปี 2566 ปริมาณการยื่นคำร้องขอวีซ่าทุกประเภทในประเทศไทยมีสัดส่วนถึง 82% ของระดับการยื่นคำร้องขอวีซ่าก่อนการแพร่ระบาดในปี 2562 และเมื่อเทียบกับปี 2565 พบว่า ปริมาณการยื่นคำร้องขอวีซ่าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึง 35% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวไทยได้กลับคืนมา และก็พร้อมที่จะออกเดินทางอีกครั้ง

โดยสำหรับจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่คนไทยชื่นชอบในปี 2566 ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เยอรมนี อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น นอร์เวย์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร (เรียงตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ)

ทั้งนี้ มั่นใจว่าแนวโน้มในเชิงบวกนี้จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าปริมาณการยื่นคำร้องขอวีซ่าในปี 2567 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดในปี 2562

นายเกาชิคกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ปัจจุบันวีเอฟเอสโกลบอล ให้บริการกับภาครัฐบาล 23 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ ออสเตรเลีย ออสเตรีย แคนาดา โครเอเชีย สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เยอรมนี อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น ลัตเวีย เลบานอน ลิทัวเนีย เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สิงคโปร์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ยูเครน และไทย

แอร์เอเชียพร้อมเพิ่มไฟลต์บินจีน

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า จากการลงนามความตกลงฟรีวีซ่าไทย-จีน ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 นี้เป็นต้นไป (พำนักแต่ละครั้งได้ไม่เกิน 30 วัน) ทำให้คนไทยสามารถบินเข้าจีนได้แบบไม่ต้องมีวีซ่า เพิ่มความสะดวกและช่วยลดค่าใช้จ่าย เชื่อว่าจะกระตุ้นการเดินทางและเศรษฐกิจท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศได้เป็นอย่างดี

โดยแอร์เอเชียมีเเผนเพิ่มเส้นทางใหม่ อาทิ ดอนเมือง-ปักกิ่ง รวมทั้งเพิ่มความถี่บินเส้นทางไทยเเละจีนต่อเนื่องให้สอดคล้องกับปริมาณการเดินทางสู่จีนที่สูงขึ้น จากที่ให้บริการเส้นทางบินสู่จีน 11 เส้นทาง ประกอบด้วย เซี่ยงไฮ้ (ทั้งดอนเมืองและสุวรรณภูมิ) กว่างโจว เสิ่นเจิ้น เฉิงตู ฉางซา คุนหมิง ฉงชิ่ง ซีอาน หางโจว อู่ฮั่น และซัวเถา และเพื่อต้อนรับมาตรการวีซ่าฟรีของทั้ง 2 ประเทศ แอร์เอเชียยังได้จัดโปรโมชั่นบินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ) สู่จีน ราคารวมเที่ยวเดียวเริ่มต้นที่ 2,490 บาท โดยเปิดให้จองตั้งเเต่ 28 มกราคม-11 กุมภาพันธ์ 2567 สำหรับเดินทางตั้งเเต่ 15 กุมภาพันธ์-30 กันยายน 2567