รัสเซีย-ยูเครน โทษกันไปมา ใครกันแน่ยิงปิดเส้นทางโรงไฟฟ้า ขวาง IAEA

ยิงถล่มขวางไอเออีเอ ไปโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยูเครน
REUTERS/Gleb Garanich

ทั้งรัสเซียและยูเครน ยังไม่มีฝ่ายไหนยอมรับว่าอยู่เบื้องหลังเหตุยิงปิดเส้นทาง IAEA ที่กำลังเดินทางเข้าตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรีเจีย 

วันที่ 1 กันยายน 2565 ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า การยิงถล่มในเมืองเอเนอร์โฮดาร์ (Enerhodar) ในบริเวณใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรีเจีย (Zaporizhzhia) ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของยูเครนและรัสเซีย

“ดมิโทร ออร์ลอฟ” นายกเทศมนตรีเมืองเอเนอร์โฮดาร์ เผยว่า ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น การยิงปืนใหญ่อย่างต่อเนื่องไม่ได้หยุดลงเลย มีเฮลิคอปเตอร์หลายลำบินวนเวียนอยู่ในเมือง

“ใคร ๆ ก็ได้ยินเสียงอาวุธอัตโนมัติ เป็นที่ทราบกันดีว่ามีการโจมตีพลเรือนหลายแห่ง พวกเขาเป็นเหยื่อ เรากำลังจะชี้แจงว่ามีทั้งหมดกี่คน”

ขณะที่ฝ่ายปกครองที่รัสเซียแต่งตั้งให้บริหารราชการทหารและพลเรือนในเมืองเอเนอร์โฮดาร์ อ้างว่า มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บอีก 5 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1 ราย

รายงานดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ทีมจากทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เดินทางไปตรวจสอบที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน และถูกกองกำลังรัสเซียยึดครองตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ในรายงานอีกฉบับหนึ่ง “โอเลกซานเดอร์ สแตก” หัวหน้าคณะบริหารการทหารระดับภูมิภาคซาโปรีเจีย กล่าวหาว่า กองกำลังรัสเซียได้ทำลายเส้นทางการเดินทางของ IAEA ที่จะเดินทางไปยังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรีเจีย

ทั้งนี้ รัสเซียและยูเครนได้ออกแถลงการณ์หลายฉบับ ต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าอยู่เบื้องหลังการทำลายเส้นทางที่วางแผนล่วงหน้าของ IAEA

ซีเอ็นเอ็นติดต่อไปยัง IAEA เพื่อสอบถามเกี่ยวกับอุปสรรคหรือปัญหาด้านความปลอดภัยบนเส้นทางที่จัดไว้ล่วงหน้า แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ

“ราฟาเอล กรอสซี” ผู้อำนวยการ IAEA ออกเดินทางจากเมืองซาโปรีเจียไปยังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดี เขายอมรับความเสี่ยงโดยธรรมชาติที่ทีมตรวจสอบของเขาต้องเผชิญ หลังเดินทางออกจากเขตสีเทา ซึ่งเป็นแนวป้องกันสุดท้ายของยูเครน อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่าภารกิจนี้จะต้องดำเนินต่อไป

บริษัทเอเนอร์โกอะตอม (Energoatom) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปรีเจีย เผยในแถลงการณ์ว่า เครื่องปฏิกรณ์เครื่องที่ห้าของโรงไฟฟ้าถูกปิดลง และมีการเปิดใช้งานระบบป้องกันฉุกเฉินในวันพฤหัสบดี ภายหลังการยิงถล่ม

เอเนอร์โกอะตอมกล่าวว่า เครื่องปฏิกรณ์ที่เหลือยังคงทำงานต่อไป และสามารถตอบสนองความต้องการของโรงไฟฟ้าได้

ก่อนหน้านี้ยูเครนกล่าวโจมตีว่ากองกำลังรัสเซียใช้โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นเกราะกำบัง ทำให้โรงไฟฟ้าเสี่ยงต่อภัยพิบัติ แต่ทางการรัสเซียกล่าวหากองกำลังยูเครนหลายครั้งว่า เป็นผู้ยิงปืนถล่มโรงไฟฟ้า

ทันทีที่ทีมตรวจสอบ IAEA เดินทางไปถึงโรงไฟฟ้า พวกเขาจะเริ่มประเมินสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในทันที