“นิสสัน” กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ล่าสุดที่ถอนตัวออกจากรัสเซีย โดยมีรายงานว่าขายธุรกิจให้รัฐวิสาหกิจรัสเซียในราคา 1 ยูโร
วันที่ 13 ตุลาคม 2565 ซีเอ็นบีซีรายงานว่า นิสสัน มอเตอร์ โค ลิมิเต็ด จะส่งมอบธุรกิจในรัสเซียให้กับหน่วยงานของรัฐในราคา 1 ยูโร (ประมาณ 37 บาท) โดยบริษัทต้องขาดทุนประมาณ 687 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 26,100 ล้านบาท) หลังถูกบีบให้หยุดการผลิตในรัสเซีย
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นชื่อดังจะโอนหุ้นของ “นิสสัน แมนูแฟคเจอริง รัสเซีย แอลแอลซี” ให้กับรัฐวิสาหกิจชื่อว่านามิ (NAMI) ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้นิสสันมีสิทธิในการซื้อธุรกิจคืนภายใน 6 ปี ตามข้อมูลจากกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของรัสเซีย
ข้อตกลงนี้จะทำให้นิสสันเป็นบริษัทใหญ่รายล่าสุดที่ออกจากรัสเซีย นับตั้งแต่รัสเซียส่งทหารหลายหมื่นนายไปยังยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ขณะที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของนิสสันอย่าง “เรโนลต์” ผู้ผลิตรถยนต์ฝรั่งเศส ได้ขายหุ้นส่วนใหญ่ใน “อัฟโตวาซ” บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รัสเซีย ให้กับนักลงทุนชาวรัสเซีย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
มีรายงานว่าเรโนลต์ขายหุ้นอัฟโตวาซ ในราคา 1 รูเบิลเท่านั้น
การขายธุรกิจให้กับนามินั้น จะครอบคลุมในส่วนของโรงงานผลิตและวิจัยของนิสสันในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รวมถึงศูนย์การขายและการตลาดในกรุงมอสโก
นิสสันระบุว่า บริษัทคาดว่าจะขาดทุนไปประมาณ 100,000 ล้านเยน (687 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่ยังคาดว่าบริษัทจะทำกำไรในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม
นิสสันได้ระงับการผลิตที่โรงงานในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อเดือนมีนาคม เนื่องจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่นั้นมาบริษัทและหน่วยงานในพื้นที่ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าว แต่ก็มองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยแวดล้อมภายนอก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บริษัทตัดสินใจถอนตัวออกจากรัสเซีย
ด้านมิตซูบิชิ มอเตอร์ คอร์ป ก็กำลังพิจารณาออกจากรัสเซียเช่นกัน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์นิกเคอิ อย่างไรก็ตาม โฆษกของมิตซูบิชิเผยว่า ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ ในเรื่องนี้
