
เหมือนยิงทิ้งยิงขว้าง เกาหลีเหนือ ยิงขีปนาวุธแทบจะทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ก็ไม่พัก สัปดาห์นี้ซัดไปแล้วเกิน 30 ลูก น่าสงสัยว่าไปเอาเงินที่ไหนมา
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 4 ลูกลงทะเลอีกครั้ง เวลาเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบซูเปอร์โซนิก เหินเหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้ เพิ่มความตึงเครียดให้ภูมิภาคนี้
สำนักงานเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ระบุว่า ขีปนาวุธทั้ง 4 ลูกยิงมาจากฝั่งตะวันตกของเกาหลีใต้ช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ 5 พ.ย. เหินเป็นระยะทำการ 130 กิโลเมตรและตกลงที่ฝั่งทะเลตะวันตก

สัปดาห์นี้เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธเกิน 30 ลูกเข้าไปแล้ว รวมถึงชนิดข้ามทวีป ฮวาซอง-7 เมื่อวันพฤหัสฯที่ 3 พ.ย. จนทำให้ญี่ปุ่นต้องอพยพชาวบ้านทางภาคเหนือ นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังส่งเครื่องบินรบออกบินเพื่อแสดงปฏิกิริยาโกรธเกรี้ยวต่อการซ้อมรบของสหรัฐและเกาหลีใต้

การที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธได้มากมายเช่นนี้ ทำให้เกิดคำถามว่า ไปเอาเงินที่ไหนมาถึงทดสอบยิงขีปนาวุธไปได้เรื่อย ๆ จนดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
แม้ว่าเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือประสบปัญหาหนัก แต่ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ยังสั่งยิงขีปนาวุธข่มขวัญศัตรูอย่างไม่หยุดยั้ง

การทดสอบของเกาหลีเหนือแต่ละครั้งอาจใช้เงินกว่า 2-10 ล้านดอลลาร์ แต่บางคนก็แย้งว่า ไม่อาจประเมินราคาได้ เนื่องจากการเข้าถึงข้อมูลเป็นไปได้ยากมาก
ต้นทุนขีปนาวุธถูกกว่าชาติอื่นมาก
เอพี สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาคำตอบนี้ เบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญคาดว่าเกาหลีเหนือน่าจะผลิตอาวุธในราคาที่ถูกกว่าประเทศอื่นมาก เนื่องจากค่าแรงที่ค่อนข้างถูก อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากทางจีนและรัสเซีย
ซู คิม นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยของ RAND Corporation ในแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือแต่ละครั้งอาจสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีราคาต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ที่ทดสอบในแบบเดียวกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะใช้แรงงานราคาถูกมาก

บรูซ เบนเน็ต ผู้เชี่ยวชาญอีกคนหนึ่งของ RAND Corporation กล่าวกับอาร์เอฟเอ (Radio Free Asia) ว่าการทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ต้องใช้เงินระหว่าง 2-3 ล้านดอลลาร์ต่อลูก (หรือราว 75-112 ล้านบาท) โดยค่าใช้จ่ายทั้งวันนั้นคิดเป็นเงินประมาณ 50-75 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,800-2,800 ล้านบาท
อาร์เอฟเอประเมินว่าจำนวนเงินขนาดนี้เท่ากับที่เกาหลีเหนือนำเข้าข้าวจากจีนเมื่อปี 2019 (พ.ศ. 2562) เพื่อนำมาทดแทนผลผลิตที่ขาดแคลนในปีนั้น
สถาบันเพื่อการวิเคราะห์การป้องกันประเทศของเกาหลีใต้ในกรุงโซลระบุว่า เกาหลีเหนือน่าจะใช้เงินสูงถึง 1,600 ล้านดอลลาร์ในโครงการพัฒนาอาวุธตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1970 โดยอ้างอิงจากรายงานโครงการพัฒนาอาวุธในประเทศอื่น ๆ
อี อีลวู ผู้เชี่ยวชาญเครือข่ายกลาโหมเกาหลี ในเกาหลีใต้แย้งว่า ไม่มีทางที่จะประเมินค่าใช้จ่ายการทดสอบขีปนาวุธในเกาหลีเหนือได้
“พวกเขาอาจผลิตขีปนาวุธเองได้ หรืออาจจะได้รับการสนุนจากทางจีนให้ฟรี หรือให้ราคาถูกสุด ๆ” นายอีกล่าว

ขาดอาหาร ไม่ขาดขีปนาวุธ
การที่เศรษฐกิจของเกาหลีเหนือประสบปัญหาอย่างหนัก โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ระบาด ยิ่งย่ำแย่ลง แต่ไม่มีรายงานเหตุการณ์ความไม่สงบทางสังคมหรือการขาดแคลนอาหารจำนวนมาก
ฮง มิน นักวิเคราะห์จากสถาบันเกาหลีเพื่อการรวมชาติของโซลกล่าวว่า การพัฒนาอาวุธของเกาหลีเหนือ ผลักดันโดยกองทัพผสมพรรคการเมืองของเกาหลีเหนือ แนวเดียวกับโซเวียต ภายใต้ผู้นำ คิม จองอึน ที่ควบคุมอุตสาหกรรมกลาโหมอย่างเต็มรูปแบบ
แนวทางนี้ไม่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณมากมายอะไร ในการใช้ทรัพยากรของชาติเพื่อการพัฒนา

นอกจากจำนวนการทดสอบขีปนาวุธในปีนี้มากเป็นประวัติการณ์แล้ว ยังมีสัญญาณว่าเกาหลีเหนือกำลังขยายโรงงานผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อผลิตอาวุธที่พัฒนาขึ้นใหม่จำนวนมาก
ซู คิม นักวิเคราะห์ของ RAND Corporation กล่าวว่า เกาหลีเหนือพยายามดิ้นรนกับมาตรการที่ถูกลงโทษทางเศรษฐกิจ ด้วยการใช้วิธีโจมตีทางไซเบอร์ และปล้นเงินคริปโต เพื่อนำเงินมาเป็นทุนในการพัฒนาอาวุธ
ฮงมินกล่าวว่าสงครามของรัสเซียในยูเครนดูเหมือนจะเปิดโอกาสใหม่สำหรับเกาหลีเหนือ ท่ามกลางข้อกล่าวหาของสหรัฐ ที่ว่าเกาหลีเหนือส่งกระสุนปืนใหญ่ไปยังรัสเซียอย่างลับ ๆ
ในทางกลับกัน เกาหลีเหนืออาจแสวงหาการถ่ายทอดเทคโนโลยีของรัสเซีย และเสบียงที่จำเป็นในการขยายขีดความสามารถทางการทหาร

รัวยิงขนาดนี้ เกาหลีเหนือได้อะไร?
คิม แทวู อดีตหัวหน้าสถาบันเกาหลีเพื่อการรวมชาติของโซลกล่าวว่า การทดสอบขีปนาวุธแต่ละครั้งของเกาหลีเหนือทำให้นักวิทยาศาสตร์มี “ข้อมูลอันมีค่า” ในการพัฒนาอาวุธ
“บางคนบอกว่าเราควรปล่อยให้เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลงทะเลต่อไป เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้ทรัพยากรอย่างเต็มที่ แต่ผมจะบอกว่านั่นเป็นความคิดเห็นที่ไร้เดียงสาอย่างยิ่ง” คิมกล่าว
สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า ฮวาซอง-17 ที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธเมื่อเดือนมีนาคม อยู่ระหว่าการพัฒนา โดยขีปนาวุธชนิดนี้มีระยะยิงไกลถึง 15,000 กิโลเมตร ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะถือเป็นขีปนาวุธที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ด้านเกาหลีเหนือแย้งว่า การทดสอบขีปนาวุธมีขึ้นเพื่อตอบโต้ปฏิบัติการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ ซึ่งเกาหลีเหนือมองว่าเป็นการซ้อมรบการบุกรุก
โก เมียง–ฮยอน นักวิเคราะห์จากสถาบันอาซันในกรุงโซลคาดว่า เกาหลีเหนือจะมีขีปนาวุธประมาณ 1,000 ลูก ซึ่งมากเกินพอที่จะกดดันตลอดการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในปี 2024 เพื่อเอาชนะการคว่ำบาตรและสัมปทานอื่น ๆ
……