ศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้ พิพากษารอลงอาญาเเละให้ปล่อยตัว นายอี เเจยอง วัย 50 ปี ทายาทซัมซุงกรุ๊ปและรองประธานซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ในคดีติดสินบนอดีตประธานาธิบดีปัก กึนฮเย และนางชเว ซุนซิล เพื่อนสนิท
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ศาลอุทธรณ์กรุงโซลมีคำพิพากษาในวันจันทร์ (5ก.พ.)ให้นายอี แจยอง รองประธานบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ วัย 50 ปี รอลงอาญาบทลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน และงดการพิจารณาคดีเป็นเวลา 4 ปี เเละมีคำสั่งให้จำเลยได้รับอิสรภาพจากเรือนจำชานกรุงโซลทันที
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บุคคลนามสกุลดัง “ภัทรประสิทธิ์” ถูกฟ้องล้มละลาย
ทั้งนี้ นายอี แจยอง ถือเป็นผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มธุรกิจครอบครัวขนาดใหญ่ หรือ “แชโบล” คนแรกของเกาหลีใต้ซึ่งต้องคดีเข้าสู่เรือนจำ
โดยศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษายืนตามศาลขั้นต้นว่านายอี เเจยอง ทายาทกลุ่มธุรกิจซัมซุง มีความผิดในคดีติดสินบน 8,800 ล้านวอน (ราว 255 ล้านบาท) เพื่อเเลกกับการที่รัฐบาลภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีปาร์ค กึนเฮ อนุมัติการควบรวมธุกิจ 2 อย่างของซัมซุง
เเต่ศาลอุทธรณ์ ได้พลิกตัดสินจากจำคุก 5 ปีของศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมปีที่ผ่านมา
ลดเหลือเป็น 2 ปี 6 เดือน เเละให้รอลงอาญาและให้ปล่อยตัวทันที ขณะที่หลายฝ่ายมองว่าจะต้องมีการยื่นฎีกาต่อไปอย่างเเน่นอน เเละประชาชนจำนวนมากคงไม่พอใจ
ด้านสำนักงานอัยการกรุงโซล ซึ่งเป็นเจ้าของคดียังไม่แสดงท่าทีต่อคำพิพากษาของศาล โดยพนักงานสอบสวนยืนยันมาตลอด ว่าต้องการให้นายอี แจยอง รับโทษจำคุกเป็นเวลา 12 ปี จากความผิดทั้งหมด
ฝั่งนายอี เเจยองเคยให้การว่าไม่ได้ทำผิดเเละยืนยันว่าบริษัทซัมซุงโดนอดีตประธานาธิบดีปาร์คกดดัน
ทั้งนี้ การพิจารณาคดีของทายาทซัมซุง จะมีผลต่อคำตัดสินคดีทุจริตของอดีตประธานาธิบดีปาร์ค ที่ถูกสภานิติบัญญัติถอดถอนจากตำแหน่งในเดือนมี.ค.ปีก่อน ตามด้วยการถูกฟ้องร้องและคุมขังตั้งแต่เดือนเม.ย.