การสำรวจความคิดเห็นใน 30 ประเทศสมาชิกอียูพบว่า ผู้สนับสนุนให้ประเทศของตัวเอง “ออกจากอียู” ลดลงมาก เหตุจากเห็นตัวอย่าง Brexit ที่มีปัญหาตามมามาก และปัญหาโควิด-19 กับสถานการณ์ยูเครนทำให้เห็นประโยชน์ของการเป็นสมาชิกอียูมากขึ้น
The Guardian รายงานว่า การสนับสนุนให้ประเทศของตนเองออกจากสหภาพยุโรป (European Union: EU) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในทุก ๆ ประเทศ หรือความหมายคือมีเสียงสนับสนุนให้ประเทศของตัวเองคงอยู่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น
จากการสำรวจ “European Social Survey (ESS)” ที่สำรวจความคิดเห็นว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจะโหวตให้ประเทศของตัวเองออกจากสหภาพยุโรปหรืออยู่ต่อ นำสำรวจโดย City, University of London โดยทำการสำรวจใน 30 ประเทศที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปทุก ๆ 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา การสำรวจพบว่า “มีโอกาสน้อย” ที่ผู้ตอบแบบสอบถามจะลงคะแนนเสียงให้ประเทศของตัวเองออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป
การสนับสนุนให้ออกจากอียูลดลงมากที่สุดในประเทศฟินแลนด์ โดยการสำรวจระหว่างปี 2016-2017 พบว่า 28.6% ของผู้ตอบแบบสอบถามตอบว่าจะลงคะแนนให้ประเทศของตัวเองออกจากอียู แต่การสำรวจรอบล่าสุดระหว่างปี 2020-2022 พบว่ามีเพียง 15.4% เท่านั้นที่ตอบว่าจะลงคะแนนให้ออก
กลุ่มประเทศที่เสียงสนับสนุนให้ประเทศตนเองออกจากอียูลดลงมาก เมื่อเทียบการสำรวจครั้งล่าสุด ปี 2020-2022 กับการสำรวจปี 2016-2017 คือ เนเธอร์แลนด์ ลดจาก 23% เป็น 13.5% โปรตุเกส ลดลงจาก 15.7% เป็น 6.6% ออสเตรียลดลงจาก 26% เป็น 16.1% ฝรั่งเศส ลดลงจาก 24.3% เป็น 16%
ประเทศที่เสียงสนับสนุนลดลงน้อยกว่า แต่ยังมีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ ฮังการี ลดลงจาก 16% เป็น 10.2% สเปน ลดลงจาก 9.3% เป็น 4.7% สวีเดน ลดลงจาก 23.9% เป็น 19.3% เยอรมนี ลดลงจาก 13.6% เป็น 11%
ประเทศที่ผู้ตอบแบบสอบถามสนับสนุนให้ “ออก” จากอียูสูงสุด คือ สาธารณรัฐเช็ก (29.2%) รองลงมาคืออิตาลี (20.1%) และสวีเดน (19.3%) ซึ่งถึงแม้จะเป็นกลุ่มประเทศที่มีการสนับสนุนให้ “ออก” ในระดับสูง แต่เสียงสนับสนุนก็ลดลงเช่นกัน โดยสาธารณรัฐเช็กลดลงจาก 33.7% อิตาลีลดลงจาก 29.2% และสวีเดนลดลง 23.9% จากการสำรวจเมื่อปี 2016-2017
ส่วนประเทศที่เสียงสนับสนุนให้ประเทศของตัวเองออกจากสหภาพยุโรปน้อยที่สุด คือ สเปน ที่มีผู้สนับสนุนเพียง 4.7%
ทั้งนี้ ช่วงเวลาระหว่างปี 2016-2022 ที่ทำการสำรวจและนำผลการสำรวจมาเปรียบเทียบนั้น เป็นช่วงเวลาที่ครอบคลุมการเจรจาที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความยุ่งยากของอังกฤษที่พยายามออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ Brexit รวมถึงความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศ ปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งถูกพูดถึงและถูกตีความในวงกว้างว่า มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก Brexit
นอกจากนี้ ประจวบกับเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ก็เป็นปัจจัยที่ผู้ตอบแบบสอบถามพิจารณา ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า สองสถานการณ์นี้กระตุ้นให้พลเมืองในสหภาพยุโรปจำนวนมากมองการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในเชิงบวกมากขึ้น และฝ่ายต่อต้านสหภาพยุโรปหลายกลุ่มล้มเลิกความคิดจะออกจากสหภาพยุโรปไป
มาติเยอ กัลลาร์ด (Mathieu Gallard) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Ipsos บริษัทสำรวจความคิดเห็นชั้นนำของฝรั่งเศส ซึ่งดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของชาวยุโรปเป็นประจำ กล่าวว่า ตัวเลขผลการสำรวจ ESS สะท้อนถึง “การล่มสลายอย่างแท้จริง” ของการสนับสนุนการออกจากสหภาพยุโรปในหลายประเทศ
กัลลาร์ดกล่าวว่า การลดลงของผู้ที่จะออกเสียงสนับสนุนให้ประเทศของตัวเองออกจากสหภาพยุโรปน่าจะเกิดจาก ผลกระทบด้านต่าง ๆ ที่สะสมมา บวกกับทัศนคติของชาวสหภาพยุโรปต่อวิกฤติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การคิดไตร่ตรองของฝ่ายขวาสุดโต่งในเรื่องการออกจากสหภาพยุโรป และการเห็นตัวอย่างความผันผวนมากมายจาก Brexit ของอังกฤษ
การสำรวจ ESS ยังพบว่าความผูกพันทางความรู้สึกของผู้ตอบแบบสอบถามกับสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2016-2022 ในคำถามที่ให้ผู้ตอบแบบสำรวจให้คะแนนความรู้สึกผูกพันกับสหภาพยุโรปซึ่งมีระดับ 0-10 ผู้ตอบแบบสอบถามในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปส่วนใหญ่มีความรู้สึกผูกพันมากขึ้น
ในประเทศโปรตุเกส ผู้ตอบแบบสำรวจที่ให้คะแนนระดับความผูกพันระหว่าง 7-10 มีอยู่ 54.9% ในการสำรวจปี 2020-2022 เพิ่มขึ้นจาก 41.5% ในการสำรวจปี 2016-2017
ความผูกพันทางความรู้สึกกับสหภาพยุโรปในฟินแลนด์ก็เพิ่มขึ้นจาก 46% เป็น 58.7% ขณะที่ในฮังการี ซึ่งมีข้อพิพาทด้านหลักนิติธรรมกับอียู ความผูกพันก็เพิ่มขึ้นจาก 60% เป็น 70.3% ส่วนในอิตาลีเพิ่มจาก 37.2% เป็น 44.3% ในฝรั่งเศสเพิ่มจาก 44% เป็น 48.8% ส่วนในเยอรมนีและสเปนอยู่ในระดับเดิม
นอกจากนั้น ยังมีการสำรวจของ Pew Research Center ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 10 ประเทศที่สำรวจในฤดูใบไม้ผลิปี 2565 พบว่า คนส่วนใหญ่ในเกือบทุกประเทศที่ทำการสำรวจมีความคิดเห็นที่ดีต่อสหภาพยุโรป โดยค่ากลาง (median) 72% มีความเห็นต่อสหภาพยุโรปในทางบวก ขณะที่ 26% ที่มีความคิดเห็นในทางลบ
………………….