
โกตัม อดานี (Gautam Adani) มหาเศรษฐีชาวอินเดีย เจ้าของอาณาจักร อดานี กรุ๊ป ผู้ครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของเอเชีย ความมั่งคั่งลดฮวบเกือบ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเวลา 4 วัน หลังเจอข้อกล่าวหาปั่นหุ้น ฉ้อโกง และเลี่ยงภาษี
โกตัม อดานี (Gautam Adani) มหาเศรษฐีชาวอินเดีย เจ้าของอาณาจักร อดานี กรุ๊ป (Adani Group) ผู้ครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 3 ของโลกและอันดับ 1 ของเอเชีย กำลังเผชิญข้อกล่าวหาปั่นหุ้น ฉ้อฉลตกแต่งบัญชี และเลี่ยงภาษี บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่งผลให้ความมั่งคั่งของเขาลดฮวบลงไปอย่างรวดเร็ว
- เปิดชื่อ 10 อันดับโรงเรียนดัง กทม. นักเรียนแห่สมัครสอบเข้า ม.1 สูงสุด
- Café Amazon เฉลยเอง ไวรัลนกหน้าร้านสะดวกซื้อ กำลังจะเกิดอะไรขึ้น?
- ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เสียชีวิต อายุ 55 ปี หลังซ้อมแข่งรถที่บุรีรัมย์
โกตัม อดานี แห่งอดานี กรุ๊ป คือบุคคลที่ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลกในช่วงการระบาดของโควิด-19 จากที่มีความมั่งคั่ง 8,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 ความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้นประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2564 และเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565
สินทรัพย์รวมมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐของอดานีมาจากอาณาจักรธุรกิจที่ประกอบด้วยบริษัทจำนวนมากกว่า 20 บริษัท ครอบคลุมธุรกิจโรงไฟฟ้าอุตสาหกรรม ท่าเรือ และสนามบินเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ การทำเหมืองและการค้าถ่านหิน การขนส่งก๊าซธรรมชาติ และล่าสุดเพิ่งขยายเข้าสู่ธุรกิจสื่อ กับธุรกิจซีเมนต์

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 โชคชะตาในยุคโรคระบาดของอดานีต้องสะดุด เมื่อฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช (Hindenburg Research) บริษัทวิจัยการลงทุนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการขายชอร์ตหุ้น ได้ออกรายงานยาวเกือบ 100 หน้า ชื่อว่า “Adani Group: How the World’s 3rd Richest Man is Pulling the Largest Con in Corporate History” ที่กล่าวหาว่า อดานีมีการปั่นหุ้น ยักย้ายถ่ายเทหุ้น มีการฉ้อฉลทางบัญชีในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา และมีการตั้งบริษัทในต่างประเทศเพื่อกระทำทุจริต และใช้ในการเลี่ยงภาษี
การเผยแพร่รายงานนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ (FPO) ของบริษัท Adani Enterprise มูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หลังจากเปิดเผยรายงาน ฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช ได้ทำการขายชอร์ตหลักทรัพย์ของอดานี ผ่านตราสารหนี้ที่ขายในตลาดสหรัฐ และตราสารอนุพันธ์ที่ขายนอกอินเดีย เพื่อยืนยันข้อกล่าวหาดังกล่าว เหมือนกับที่เคยขายชอร์ตหุ้นและหลักทรัพย์ของหลายบริษัทมาก่อนหน้านี้ ตามที่ประกาศไว้ว่าจะขายชอร์ตหุ้นบริษัทที่มีมูลว่ากระทำทุจริต
ฝั่งอดานี กรุ๊ป ตอบโต้โดยออกแถลงการณ์ถึงรายงานนี้ว่า “รายงานนี้เป็นการผสมผสานที่มุ่งร้ายของการเลือกข้อมูลที่ผิด ๆ และข้อกล่าวหาเก่า ไม่มีมูลความจริง และน่าอดสู ซึ่งผ่านการตรวจสอบและปฏิเสธโดยศาลสูงสุดของอินเดียแล้ว”
และแถลงการณ์ยืนยันว่า กลุ่มบริษัทอดานีปฏิบัติตามกฎหมายมาโดยตลอด และรักษามาตรฐานสูงสุดของการทำธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล

การเปิดเผยข้อกล่าวหาของฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช ทำให้การเติบโตอันน่าทึ่งของอาณาจักรอดานีเผชิญกับความเสี่ยงครั้งใหญ่ บั่นทอนการเติบโตในระดับโลกของอาณาจักรที่เป็นความหวังทางเศรษฐกิจของอินเดีย และบั่นทอนความมั่งคั่งของตระกูลที่มีความใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี นเรทรา โมดี (Narendra Modi)
ข้อกล่าวหานี้ทำให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ อดานี กรุ๊ป หายไปทันตา 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในวันที่ฮินเดนเบิร์กเผยแพร่รายงาน และมีแรงเทขายหุ้นของบริษัทในกลุ่มอดานีต่อเนื่อง สรุป ณ วันศุกร์ที่ 27 มกราคม 2566 หุ้นอดานีสูญเสียมูลค่าไปแล้วรวม 48,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนโกตัม อดานี ต้องติดอันดับมหาเศรษฐีที่ความมั่งคั่งลดลงในวันเดียวมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก และอันดับความมั่งคั่งแบบเรียลไทม์ของเขาร่วงลงอย่างรวดเร็ว จากก่อนเกิดเรื่องเขาเป็นบุคคลที่มั่งคั่งอันดับ 3 ของโลก แต่ ณ วันที่ 27 มกราคม 2566 ความมั่งคั่งของเขาร่วงลงไปอยู่ในอันดับ 7 ของโลก
นอกจากนั้น ข้อกล่าวหาที่บริษัทสหรัฐมีต่ออดานียังส่งผลให้ตลาดหุ้นอินเดียเกิดความปั่นป่วนด้วย
“ความผันผวนในตลาดหุ้นอินเดียที่เกิดขึ้นจากรายงานฉบับนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก และได้นำไปสู่ความปวดร้าวที่ไม่พึงประสงค์ของพลเมืองอินเดีย” ทนายความของอดานีกล่าวในแถลงการณ์
อ้างอิง :
……………………..
อ่านเนื้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง