เยอรมนี พี่ใหญ่แห่งยุโรป จีดีพีติดลบ ก้าวสู่ “ภาวะเศรษฐกิจถดถอย” ไปครึ่งหนึ่งแล้ว

เศรษฐกิจเยอรมัน
REUTERS/ Lisi Niesner

เศรษฐกิจเยอรมนีไตรมาส 4 ปี 2565 ติดลบ 0.2% แย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะทรงตัว เป็นสัญญาณชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยตามคาด

วันที่ 30 มกราคม 2566 สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า เศรษฐกิจเยอรมนีเข้าสู่ภาวะถดถอยไปครึ่งทางแล้ว เนื่องจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4 ปี 2565 ที่สำนักงานสถิติของเยอรมนีเปิดเผยออกมาในวันนี้ลดลง 0.2% แย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะทรงตัว หรือเติบโต 0.0% 

เศรษฐกิจของเยอรมนีที่หดตัวลงในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 เป็นผลมาจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากการที่รัสเซียหยุดส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรป เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อยุโรปในฤดูหนาว ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อแตะ 11.6% ในเดือนตุลาคม  

สำนักงานสถิติของเยอรมนีอธิบายว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ลดลงในไตรมาสสุดท้ายทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจลดลง 

ทั้งนี้ โดยทั่วไปแล้วภาวะเศรษฐกิจถดถอยในทางเศรษฐศาสตร์หมายถึง การที่เศรษฐกิจหดตัวลงติดต่อกันสองไตรมาส หรือมากกว่านั้น ดังนั้น เยอรมนีจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเต็มตัว ถ้าในไตรมาสปัจจุบัน (มกราคม-มีนาคม 2566) จีดีพีหดตัวลงอีก 

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า การที่เศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวอย่างกะทันหัน เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยตามที่มีคาดการณ์ไว้ แม้ว่ามีแนวโน้มจะตื้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก 

โทมัส กิตเซิล (Thomas Gitzel) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ VP Bank แสดงความเห็นว่า ฤดูหนาวนี้จะยังเป็นเรื่องยากสำหรับเยอรมนี แม้ว่าจะไม่ยากเท่าที่คาดไว้ในตอนแรกก็ตาม 

“การพังทลายอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจเยอรมนีคงไม่เกิดขึ้น แต่ภาวะถดถอยเล็กน้อยมีโอกาสเกิดขึ้นสูงมาก” กิตเซิลกล่าว 

โรเบิร์ต ฮาเบ็ก (Robert Habeck) รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีกล่าวในการรายงานเศรษฐกิจประจำปีของรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียนั้นสามารถจัดการได้แล้ว แม้ว่าราคาพลังงานที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หมายความว่ารัฐบาลยังคงต้องระมัดระวัง

รัฐบาลเยอรมนีบอกด้วยว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจควรจะดีขึ้นตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ (ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม) เป็นต้นไป และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเยอรมนีได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์จีดีพีปี 2566 โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 0.2% เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่คาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 0.4% 

แม้ว่าจีดีพีของเยอรมนีหดตัวลง แต่ราล์ฟ อึมลาฟ (Ralf Umlauf) นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร Helaba เชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อนโยบายของธนคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในสัปดาห์นี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง    

ขณะที่ ยอร์ก เครเมอร์ (Joerg Kraemer) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Commerzbank กล่าวว่า ผู้บริโภคไม่สามารถรอดจากการสูญเสียกำลังซื้อ หรือภาวะที่กำลังซื้อลดลง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปซึ่งมีแรงหนุนหลักจากราคาพลังงานที่สูง ได้ผ่อนคลายลงสองเดือนติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2565 ส่วนอัตราเงินเฟ้อภาพรวมทั้งปีของสหภาพยุโรปอยู่ที่ 9.6% 


อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ที่ Reuters สำรวจความคิดเห็นได้คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปจะเข้าสู่ตัวเลขสองหลักอีกครั้งในเดือนมกราคมนี้ โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 10.0%