เมื่อนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยน ห้องพักโรงแรมราคาพุ่ง “all time high”

นักท่องเที่ยวจีน
JACK TAYLOR / AFP

หลังสถานการณ์โควิด-19 คลีคลาย อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังพลิกฟื้น ขณะที่การหาดีลห้องพักโรงแรมราคาดี ๆ อาจยากขึ้นกว่าเดิม

“อลัน วัตส์” ประธานประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของฮิลตันกล่าวว่า ขณะที่อัตราค่าห้องพักโรงแรมพุ่งขึ้นไปทำสถิติ “สูงสุดเป็นประวัติการณ์” หรือ all time high จากความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้นเหมือน “เที่ยวล้างแค้น” เพื่อชดเชยความอัดอั้นในช่วงโรคระบาด

ทั้งนี้ จากข้อมูลรายได้ของกลุ่มฮิลตัน พบว่าอัตราราคาเฉลี่ยรายวันของโรงแรมในเครือฮิลตันเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8% ในไตรมาส 4/2022 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2019 ขณะที่ Marriott และ IHG ที่ราคาห้องพักต่อคืนขยับขึ้นไป 13% ส่วนเครือ Hyatt ค่าห้องขยับเพิ่มขึ้น 14% เรียกว่าราคาห้องพักโรงแรมพุ่งสูงกว่าช่วงก่อนเหตุโควิด-19 แล้ว

นายวัตส์ระบุว่า ถ้าโฟกัสเฉพาะโรงแรมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก พบว่าอัตราค่าห้องพุ่งสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยทั้งโลก ผลจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในเอเชีย-แปซิฟิกที่มีการเติบโตอย่าง “มหัศจรรย์” โดยเฉพาะในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางไป ข้อมูลจากแพลตฟอร์มจองห้องพักและเดินทาง “Traveloka” ระบุว่าอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงก่อนโควิดราว 10% ตั้งแต่ปี 2022

Joydeep Chakraborty ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Traveloka ระบุว่า อัตราราคาห้องพักโรงแรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉี่ยงใต้ ที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักเดินทางชาวจีนอย่าง บาหลี กรุงเทพฯ ภูเก็ต และสิงคโปร์ อัตราค่าห้องพักต่อคืนปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 45%

ขณะที่ Ctrip แพลตฟอร์มจองการเดินทางชั้นนำของจีน ระบุกับซีเอ็นบีซีว่า ราคาจองโรงแรมในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 70% ในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มโรงแรมหรูระดับบน
รายงานข่าวระบุว่า พฤติกรรมการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไป โดยพบว่ามีความต้องการพักโรงแรมหรูเพิ่มขึ้น โดยรายงานของ “มอร์แกน สแตนลีย์” แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวชาวจีนสนใจเข้าพักโรงแรมหรูเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 34% ในช่วงปี 2022-2023

ข้อมูลจาก “Adara” ซึ่งเป็นบริษัทข้อมูลระบุตัวตน ระบุว่านักท่องเที่ยวชาวจีนใช้จ่ายกับค่าห้องพักในโรงแรมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งพบว่านักท่องเที่ยวชาวจีนที่จองห้องพักที่ราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืนมีจำนวนลดลง ขณะที่คนจีนจองห้องพักราคา 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อคืน หรือมากกว่านั้นเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า

อย่างไรก็ดี การเดินทางระหว่างประเทศยังจำกัดเฉพาะผู้ที่สามารถจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินที่สูงขึ้นแบบ 2-3 เท่าตัวได้ เพราะการประกาศเปิดประเทศของจีนแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้สายการบินต่าง ๆ ยังไม่สามารถเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศกับจีนได้ในทันที ทำให้ค่าโดยสารสูงเสียดฟ้า

ทั้งนี้ รอยเตอร์รายงานว่าเที่ยวบินไป-กลับระหว่างซานฟรานซิสโกและเซี่ยงไฮ้ในเดือนมีนาคมนี้ สำหรับสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ค่าตั๋วโดยสารชั้นประหยัดอยู่ที่เกือบ 4,000 ดอลลาร์ และราคามากกว่า 18,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับชั้นธุรกิจ

ผู้บริหาร Traveloka ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราค่าห้องพักช่วยให้โรงแรมสามารถชดเชยการขาดทุนจำนวนมากจากช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และทำให้มีศักยภาพที่จะขับเคลื่อนการเติบโตต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโรงแรมก็กังวลว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอาจได้รับผลกระทบอีกครั้งจากค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แม้ว่าอาจจะไม่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนตื่นตระหนกก็ตาม แต่ก็กระทบกับนักเดินทางชาวตะวันตก

นอกจากนี้ การกลับสู่สภาวะปกติแบบที่ผันผวน ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมประเมินว่าราคาห้องพักโรงแรมที่สูงนั้นอาจอยู่ได้ไม่นาน หรืออาจขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นระยะ

“ไม่น่าแปลกใจที่อัตราค่าห้องโรงแรมหรูจะสูงขึ้นหลังจากจีนเปิดประเทศให้เดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศอีกครั้ง เนื่องจากก่อนเกิดโรคระบาด คนจีนถือเป็นนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายกลุ่มใหญ่ที่สุดทั่วโลก” เดวิด แมนน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งสถาบันเศรษฐศาสตร์ของมาสเตอร์การ์ดกล่าว