สี จิ้นผิง ปราศรัยครั้งแรกหลังรับตำแหน่งสมัย 3 มุ่งพาจีนยืนแถวหน้าของมหาอำนาจโลก 

สี จิ้นผิง ปราศรัยปิดประชุมสภา
สี จิ้นผิง ปราศรัยปิดประชุมสภา วันที่ 13 มีนาคม 2566/ NOEL CELIS/ POOL/ AFP

สี จิ้นผิง กล่าวต่อรัฐสภาและสาธารณะครั้งแรกหลังรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 เน้นจะพาจีนไปยืนแถวหน้าของชาติมหาอำนาจโลก โดยบอกว่ากุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้คือ การบาลานซ์ระหว่างการพัฒนาและความมั่นคง

วันที่ 13 มีนาคม 2566 การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (National People’s Congress : NPC) ของจีนดำเนินมาถึงวันสุดท้าย สี จิ้นผิง ซึ่งได้รับการรับรองจากสภาให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 กล่าวปิดการประชุมสภา ซึ่งเป็นการปราศรัยต่อสาธารณชนครั้งแรกหลังรับตำแหน่งอีกวาระ 

สำนักข่าว South China Morning Post ของจีนรายงานว่า สี จิ้นผิง ผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สุดของจีนในรอบหลายสิบปีนับจากเหมา เจ๋อตง ปฏิญาณว่าจะพาจีนบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 เมื่อเดือนตุลาคม 2565 นั่นคือการนำจีนกลับไปยืนแถวหน้าของชาติมหาอำนาจโลก โดยบอกว่ากุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้คือ การสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาและความมั่นคง

“ความมั่นคงเป็นรากฐานของการพัฒนา ความมีเสถียรภาพเป็นเงื่อนไขสำคัญของความเจริญรุ่งเรือง เราต้องมีวิธีการที่เป็นระบบ ที่ครอบคลุมเพื่อรับประกันความมั่นคงของชาติ เราจำเป็นต้องปรับปรุงการปกครองสาธารณะ และพัฒนากรอบความมั่นคงของชาติแบบองค์รวม” 

ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่า จีนจะเร่งรัดเต็มที่เพื่อพัฒนากองทัพให้ทันสมัย และทำให้กองทัพปลดปล่อยประชาชนเป็นผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติจีนอย่างมีประสิทธิภาพ เขาให้คำมั่นด้วยว่า จีนจะไม่ปิดตัวเองจากโลกภายนอก และจะดำเนินตามระบบพหุภาคีอย่างแข็งขัน และมีส่วนร่วมในการพัฒนาและธรรมาภิบาลระดับโลก

เขากล่าวถึงการปกครองฮ่องกงและมาเก๊าว่า รัฐบาลกลางจะสนับสนุนรัฐบาลพิเศษสองแห่ง คือฮ่องกงและมาเก๊า เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ โดยกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จคือการยึดมั่นในหลักการ “หนึ่งประเทศสองระบบ” และให้ชาวฮ่องกงและมาเก๊าปกครองตนเองตามกฎหมาย

สี จิ้นผิง ปราศรัยปิดประชุมสภา
สี จิ้นผิง ปราศรัยปิดประชุมสภา วันที่ 13 มีนาคม 2566/ JADE GAO/ AFP


ด้านสำนักข่าว Reuters รายงานว่า สี จิ้นผิง กล่าวเน้นย้ำเรื่องความมั่นคง เรียกร้องให้จีนเพิ่มขีดความสามารถในการปกป้องความมั่นคงของชาติ และจัดการความมั่นคงสาธารณะ  

ประธานาธิบดีผู้ดำรงตำแหน่งสมัยที่ 3 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์จีนกล่าวว่า จีนต้องการความมั่นคงในการพัฒนาประเทศ และต้องปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยเพื่อให้เป็น “กำแพงเหล็ก” ในการปกป้องประเทศ ท่ามกลางความตึงเครียดกับสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้น

“ความมั่นคงเป็นรากฐานของการพัฒนา ความมั่นคงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับความเจริญรุ่งเรือง” 

ส่วนพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเป็นผู้ปกครองประเทศได้รับความคาดหมายว่าจะเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลพรรคในเรื่องความมั่นคง หลังจากที่สี จิ้นผิง แต่งตั้งให้พันธมิตรที่เขาไว้ใจเข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงในพรรค 

สี จิ้นผิง กล่าวด้วยว่า จีนต้องประสบความสำเร็จในการพึ่งพาตนเองมากขึ้น และประสบความสำเร็จในการสร้างความแข็งแกร่งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่เกิดขึ้นหลังจากที่จีนโดนสหรัฐปิดกั้นการเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิปและเทคโนโลยีล้ำสมัยต่าง ๆ 

สำหรับกรณีไต้หวันซึ่งจีนบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน สี จิ้นผิง กล่าวว่าจีนต้องต่อต้านกิจกรรมการเรียกร้องเอกราชและแบ่งแยกดินแดน และต่อต้านการแทรกแซงของกองกำลังจากภายนอก