ราคาน้ำมันดิบ WTI ต่ำสุดนับแต่ปลายปี 2564 สต๊อกน้ำมันโลกสูงสุดในรอบ 18 เดือน

ราคาน้ำมันดิบ WTI
Frederic J. BROWN / AFP)

ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2564 เนื่องจากอุปทานส่วนเกิน บวกกับความกังวลของนักลงทุนต่อวิกฤตธนาคารสหรัฐ 

วันที่ 15 มีนาคม 2566 สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ในตลาดน้ำมันนิวยอร์กลดลงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2564

สัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าสำหรับการส่งมอบเดือนเมษายน 2566 ราคาลดลง 2.2% เป็น 69.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2564 และราคาฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 70.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 07.12 น. ตามเวลาท้องถิ่นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 

ราคาน้ำมันที่ลดลงมีสาเหตุมาจากการที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลกับการล้มของธนาคารในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับตลาดน้ำมันอยู่ในภาวะอุปทานล้น หรือมีน้ำมันส่วนเกิน เพราะรัสเซียสูบน้ำมันดิบมากขึ้น 

องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency : IEA) รายงานข้อมูลในวันที่ 15 มีนาคม 2566 ว่า สต๊อกน้ำมันทั่วโลกพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 18 เดือน เนื่องจากการผลิตน้ำมันของรัสเซียเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ

นอกจากนั้น ข้อมูลจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 บอกว่าตลาดน้ำมันโลกมีแนวโน้มจะมีอุปทานส่วนเกินเล็กน้อยในไตรมาสที่ 2 ของปี เนื่องกลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันจะสูบน้ำมันดิบประมาณ 28.92 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 300,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่อุปสงค์จะลดลงตามฤดูกาลเป็นปกติในช่วงเวลาดังกล่าวซึ่งเป็นช่วงสิ้นสุดฤดูหนาว 

ทั้งนี้ แนวโน้มดังกล่าว OPEC ประเมินบนการคาดการณ์ว่ารัสเซียจะผลิตน้ำมันลดลงอย่างมากในไตรมาสที่ 2 แต่อุปทานส่วนเกินอาจเพิ่มมากกว่านี้ หากน้ำมันรัสเซียยังคงต้านทานการคว่ำบาตรจากนานาชาติได้ ซึ่งจะทำให้รัสเซียผลิตน้ำมันมากขึ้น