โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ จะทำอะไรในการเยือนสหราชอาณาจักร-ไอร์แลนด์ 

โจ ไบเดน เยือนไอร์แลนด์เหนือ (สหราชอาณาจักร) และไอร์แลนด์
โจ ไบเดน/ AFP/ Mandel NGAN/ หมายเหตุ : ภาพประกอบไม่ใช่ภาพการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร-ไอร์แลนด์

วันอังคารที่ 11 เมษายน 2023 โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐมีกำหนดการเดินทางเยือนไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ระหว่างวันที่ 11-14 เมษายน 2023

ประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางมาทำอะไรที่สหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ? “ประชาชาติธุรกิจ” หาข้อมูลและสรุปออกมาได้ดังต่อไปนี้ 

อิงตามแถลงการณ์ของทำเนียบขาวที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา โจ ไบเดน มีกำหนดการเยือนสหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ระหว่างวันที่ 11-14 เมษายน โดยการเยือนจะเริ่มต้นที่กรุงเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือก่อนในวันที่ 11-12 เมษายน 

“เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่ นับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงสันติภาพเบลฟาสต์ (Belfast Agreement) หรือ Good Friday Agreement เมื่อ 25 ปีที่แล้ว (1998) และเน้นย้ำความพร้อมของสหรัฐอเมริกาในการสนับสนุนศักยภาพทางเศรษฐกิจอันมหาศาลของไอร์แลนด์เหนือเพื่อประโยชน์ของทุกชุมชน” แถลงการณ์ระบุ 

ทั้งนี้ ในส่วนการเยือนสหราชอาณาจักรนั้น ไบเดนจะเยือนไอร์แลนด์เหนือเท่านั้น ไม่ได้เยือนเกาะบริเทนใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของสหราชอาณาจักร (ที่ตั้งอังกฤษ เวลส์ และสกอตแลนด์) 

อย่างไรก็ตาม Belfast Live สื่อในไอร์แลนด์เหนือรายงานว่า ริชี ซูแน็ก (Rishi Sunak) นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร จะเดินทางไปพบไบเดนที่กรุงเบลฟาสต์ในวันอังคาร  

Belfast Live บอกอีกว่า ไบเดนจะเข้าร่วมงานต่าง ๆ ในกรุงเบลฟาสต์ รวมถึงการประชุมอย่างเป็นทางการกับริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ซึ่งซูแน็กคาดหวังว่าจะใช้การเยือนของไบเดนเป็นโอกาสกระตุ้นการลงทุนระยะยาวในสหราชอาณาจักร และประกาศว่าสหราชอาณาจักรจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดการลงทุนไอร์แลนด์เหนือในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ 

นอกจากนั้น มีการคอนเฟิร์มว่า ไบเดนจะกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดวิทยาเขตใหม่ของมหาวิทยาลัยอัลสเตอร์ (Ulster University) ในกรุงเบลฟาสต์ 

จากนั้นประธานาธิบดีสหรัฐจะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐไอร์แลนด์ระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน 

แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า ที่ไอร์แลนด์ ไบเดนจะหารือกับรัฐบาลไอร์แลนด์เกี่ยวกับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของสหรัฐกับไอร์แลนด์เกี่ยวกับความท้าทายระดับโลกที่ทั้งสองประเทศเผชิญร่วมกัน นอกจากนั้น ไบเดนจะเข้าร่วมงานหลายงานในกรุงดับลิน, เคาน์ตีเลาธ์ (County Louth) และเคาน์ตีมาโย (County Mayo) ซึ่งในงานเหล่านั้น ไบเดนจะกล่าวสุนทรพจน์เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันลึกซึ้งทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงประเทศและผู้คนของทั้งสองประเทศ 

นอกจากนั้น ตามการรายงานของสถานีโทรทัศน์ RTE ในไอร์แลนด์ คาดว่ารัฐบาลไอร์แลนด์จะจัดงานเลี้ยงรับรองไบเดนที่ Farmleigh House (บ้านพักรับรองอย่างเป็นทางการของรัฐ) และปราสาทดับลิน 

BBC รายงานว่า จอห์น เคอร์บี (John Kirby) โฆษกทำเนียบขาวคาดว่าประธานาธิบดีของเขาจะกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุม Oireachtas หรือรัฐสภาไอริช ในวันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน ซึ่งถ้าเป็นไปตามคาด ไบเดนจะเป็นประธานาธิบดีคนที่ 4 ของสหรัฐที่กล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาของไอร์แลนด์ ต่อจากจอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1963 โรนัลด์ เรแกน (Ronald Reagan) เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 1984 และบิล คลินตัน (Bill Clinton) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 1995 

นอกจากนั้น มีการยืนยันว่าไบเดนจะอยู่ที่เคาน์ตีมาโยในวันศุกร์ที่ 14 เมษายน ซึ่งเขาจะมีการกล่าวสุนทรพจน์ในงานนอกอาสนวิหารเซนต์เมอร์แดช (St Muredach’s Cathedral) เมืองบอลลินา  

นอกจากประเด็นการเยือนและกำหนดการงานอย่างเป็นทางการแล้ว การเดินทางเยือนไอร์แลนด์ของไบเดนยังถูกไฮไลต์ที่ประเด็นชีวิตส่วนตัวของเขา ซึ่งมีบรรพบุรุษฝั่งแม่เป็นชาวไอร์แลนด์ในเคาน์ตีเลาธ์และเคาน์ตีมาโย ซึ่งเขามีแพลนจะเดินทางเยือน