นักประวัติศาสตร์เศรษฐกิจมอง “เงินหยวน” ไม่เป็นภัยคุกคาม “ดอลลาร์สหรัฐ” มากเท่า “ยูโร”

เงินหยวน เงินดอลลาร์ เงินยูโร
AFP/ China OUT

นีลล์ เฟอร์กูสัน (Niall Ferguson) นักวิชาการผู้ศึกษาและเขียนหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ-การเงิน มองว่า เงินหยวนของจีนไม่สามารถแทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐได้ในเร็ว ๆ นี้ หรือแม้แต่อีก 20 ปีข้างหน้า แต่สกุลเงินที่มีศักยภาพจะเป็นภัยคุกคามของเงินดอลลาร์สหรัฐมากกว่าคือ “ยูโร”

เงินหยวนของจีนยังต้องลำบากกับความพยายามที่จะได้รับการยอมรับในฐานะสกุลเงินที่ถูกใช้เป็น “เงินสำรอง” มากที่สุดในโลก แทนที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มว่ามันจะไม่เกิดขึ้นแม้แต่ในอีก 20 ปีข้างหน้า 

นี่คือความเห็นของนีลล์ เฟอร์กูสัน (Niall Ferguson) อาจารย์-นักวิจัยอาวุโสแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ผู้ศึกษาและเขียนหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ-การเงิน ที่มีต่อประเด็นที่ว่ากันว่าอิทธิพลทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นของจีนอาจทำให้สถานะการครอบงำโลกของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐต้องสิ้นสุดลงในที่สุด 

“มันค่อนข้างยากที่จะแทนที่สกุลเงินสำรอง และต้องใช้เวลา ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในทันทีทันใด” เฟอร์กูสันกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2566 

แต่เฟอร์กูสันแย้งว่าความกลัวว่าเงินหยวนจะแทนที่ดอลลาร์ในทันทีนั้นเป็นการคาดการณ์ที่ผิด โดยเขาชี้ไปที่ “ความเฉื่อย” ภายในระบบการเงินระหว่างประเทศ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงสถานะเป็นสกุลเงินสำรองอันดับ 1 ของโลกและเป็นสกุลเงินอันดับ 1 ในการทำธุรกรรมทั่วโลกมานานหลายสิบปี และนักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าต้องใช้เวลานานกว่าที่รูปแบบที่เป็นอยู่นี้จะมีการเปลี่ยนแปลง 

เฟอร์กูสันกล่าวว่า เงินหยวนไม่ได้เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเงินดอลลาร์สหรัฐด้วยซ้ำ แต่สกุลเงินที่มีศักยภาพเป็นภัยคุกคามของเงินดอลลาร์สหรัฐคือ “เงินยูโร” โดยเขาชี้ให้เห็นถึงการที่ประเทศในทวีปยุโรปใช้เงินสกุลเดียวกันในการทำธุรกรรมทั่วโลก

อ้างอิงตามข้อมูลจาก Bank of International Settlements นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 เป็นต้นมา การใช้เงินยูโรในการทำธุรกรรมด้านเดียว (one-side of trade) คิดเป็น 30% ของการทำธุรกรรมทั่วโลกในแต่ละวัน ซึ่งแซงหน้าเงินหยวนของจีนที่ถูกใช้ในสัดส่วน 7% ของธุรกรรมทั้งหมด แต่ทั้งสองสกุลเงินก็ยังคงถูกบดบังโดยเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถูกใช้ในการทำธุรกรรมด้านเดียวคิดเป็น 88% ของธุรกรรมทั้งหมดในแต่ละวัน

“ผมไม่คิดว่าจีนจะเข้ามาแทนที่ได้อย่างรวดเร็ว ผมคิดว่ากระบวนการนี้จะค่อยเป็นค่อยไป” เฟอร์กูสันกล่าว

ถึงอย่างนั้น เขาก็ยอมรับว่ามีความเสี่ยงต่อสถานะสกุลเงินสำรองอันดับ 1 ของโลกของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีความพยายามลดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างกว้างขวางในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศต่าง ๆ พยายามที่จะถอยห่างจากเงินดอลลาร์  

จีนได้ใช้วิธีทำธุรกรรมใหม่ ๆ สำหรับการใช้เงินหยวน เช่น swap lines และจีนยังได้กระชับความสัมพันธ์กับประเทศอื่น ๆ เพื่อลดการใช้เงินดอลลาร์สหหรัฐในการค้าขายระหว่างประเทศ 

ความพยายามของจีนและพันธมิตรเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐ ด้วยปัญหาเพดานหนี้สาธารณะที่ยังไม่มีทางออก และค่าเงินดอลลาร์ที่ลดลงจากระดับสูงสุดในปีที่ผ่านมา ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 12% ในปี 2565 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ แต่มันได้ผ่อนคลายลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากคาดว่าธนาคารกลางจะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวในปีนี้ 

“ผมคิดว่ามันกำลังมา แต่ความคิดที่ว่า [เงินหยวน] จะเข้ามาแทนที่ดอลลาร์นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นในวันนี้พรุ่งนี้ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอีก 20 ปีข้างหน้าด้วยซ้ำ” เฟอร์กูสันกล่าว

อ้างอิง : Insider