ขยายเพดานหนี้สหรัฐ ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เหลือวุฒิสภาพิจารณาต่อ

ขยายเพดานหนี้สหรัฐ
AFP / Stefani Reynolds

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้แล้วด้วยเสียง 314 ต่อ 117 ส่งร่างกฎหมายนี้ไปสู่การพิจารณา-ลงมติของวุฒิสภาต่อไป ขณะที่เส้นตายการผิดนัดชำระหนี้ใกล้เข้ามา 

วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ซึ่งช้ากว่าเวลาในประเทศไทย 11 ชั่วโมง สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐประชุมเพื่อพิจารณาและลงมติผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ที่โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐ กับ เควิน แมคคาร์ธี (Kevin McCarthy) ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และทีมงานร่วมร่างขึ้น หลังจากการเจรจากันมาหลายเดือน  

ทั้งนี้ เมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายแล้ว ก็จะเข้าสู่การลงมติของวุฒิสภา ซึ่งร่างกฎหมายจะต้องผ่านการการรับรองโดยเสียงข้างมากของทั้งสองสภา ก่อนจะให้ประธานาธิบดีลงนามบัญญัติกฎหมาย 

สำนักข่าว Bloomberg รายงานในช่วงเช้าวันที่ 1 มิถุนยายน ตามเวลาประเทศไทยว่า สภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีสมาชิก 435 คน ได้ผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ดังกล่าวแล้วด้วยเสียง 314 ต่อ 117 เสียง ในเย็นวันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566 ตามเวลาท้องถิ่น และส่งร่างกฎหมายนี้ไปสู่การพิจารณาและลงมติของวุฒิสภาต่อไป ในขณะที่เส้นตายการผิดนัดชำระหนี้ใกล้เข้ามา

กฎหมายนี้จะกำหนดข้อจำกัดการใช้จ่ายของรัฐบาลตลอดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2567 และป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงการคลังสหรัฐคาดว่าจะเกิดขึ้นได้เร็วที่สุดในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ หากไม่มีการขยายหรือระงับเพดานหนี้  

การลงคะแนนเสียงผ่านร่างกฎหมายนี้ตอกย้ำชื่อเสียงของไบเดนในด้าน “ลัทธิปฏิบัตินิยม” และการทำงานในขณะที่เขากำลังพยายามที่จะครองตำแหน่งในสมัยที่สอง ขณะเดียวกัน ก็เป็นการช่วยให้แมคคาร์ธีประสบความสำเร็จในบททดสอบครั้งใหญ่ครั้งแรกในบทบาทประธานสภาผู้แทนราษฎร 

สำนักข่าว CNN รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐกล่าวชื่นชมสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งสองพรรคที่โหวตผ่านข้อตกลงวงเงินหนี้ และเรียกร้องให้วุฒิสภาผ่านร่างนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อที่ตัวเขาเองในฐานะประธานาธิบดีจะได้ลงนามเพื่อออกกฎหมาย 

“คืนนี้สภาได้ทำขั้นตอนที่สำคัญเพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรก และปกป้องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ได้มาอย่างยากลำบากของประเทศของเรา … ข้อตกลงด้านงบประมาณนี้เป็นการประนีประนอมระหว่างสองฝ่าย ทั้งสองฝ่ายไม่มีฝ่ายไหนได้ทุกสิ่งที่ต้องการ นั่นคือความรับผิดชอบของการปกครอง ผมอยากจะขอบคุณประธานสภาผู้แทนราษฎรและทีมงานของเขาสำหรับการเจรจาโดยสุจริต เช่นเดียวกับผู้นำ เจฟฟรีย์ (Hakeem Jeffries-ผู้นำพรรคเดโมแครตในสภา) สำหรับความเป็นผู้นำของเขา” 

“ผมทราบดีว่าหนทางเดียวที่จะเดินหน้าต่อได้ คือการประนีประนอมระหว่างสองฝ่ายที่สามารถจะได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งข้อตกลงนี้เป็นไปตามการทดสอบนั้น”

หลังจากนี้ สมาชิกวุฒิสภาทั้ง 100 คนจะต้องตกลงกันเรื่องไทม์ไลน์การลงมติ ซึ่งหากตกลงกันไม่ดี วุฒิสมาชิกคนใดคนหนึ่งสามารถระงับการลงมติได้ 

มิตช์ แมคคอนเนลล์ (Mitch McConnell) ผู้นำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภากล่าวก่อนที่สภาล่างจะลงมติผ่านร่างกฎหมายว่า หวังว่าวุฒิสภาจะสามารถลงคะแนนเสียงได้ก่อนสุดสัปดาห์นี้ หากสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายในเย็นวันพุธ