
เงินเฟ้อสหรัฐเดือนพฤษภาคม 2566 อยู่ที่ 4% เป็นอัตราต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน 5.3% เพียงพอให้เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังไม่พอให้ลดดอกเบี้ยลงภายในปีนี้
วันที่ 13 มิถุนายน 2566 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ สำนักงานสถิติแรงงาน กระทรวงแรงงาน สหรัฐอเมริกา เผยแพร่รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index : CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนพฤษภาคม 2566 พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปอยู่ที่ 4% ซึ่งหมายความว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคม 2566 ของสหรัฐอยู่ที่ 4% ชะลอลงจากอัตรา 4.9% ในเดือนเมษายน และเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (Core CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 5.3% ชะลอลงจากอัตรา 5.5% ในเดือนก่อนหน้า
เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MOM) ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.1% และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.4%
ทั้งนี้ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเป็นหนึ่งตัวเลขสำคัญที่นักลงทุนจับตารอดู เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวอาจส่งผลต่อทิศทางการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 มิถุนายน 2566 นี้
แอนนา หว่อง (Anna Wong) และโจนาธาน เชิร์ช (Jonathan Church) นักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg Economics กล่าวว่า ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนพฤษภาคมจะทำให้เฟดมีโอกาสหยุดปรับขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราวในเดือนมิถุนายนนี้ แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ลดลงช้าเน้นย้ำว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้