
รถยนต์จีนพุ่งทะยานแซงรถญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลกในครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ยอดส่งออกรถยนต์รายครึ่งปีของจีนแซงหน้าญี่ปุ่น เป็นผลมาจากรถยนต์ไฟฟ้าของจีนทำยอดขายได้มากขึ้นทั่วโลก จับตาเป้าหมายต่อไปของจีน โค่นแชมป์โลกยอดส่งออกรวมทั้งปีในสิ้นปีนี้
สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2023 ว่า จีนกลายเป็นผู้นำโลกด้านการส่งออกรถยนต์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2023 โดยยอดการส่งออกรถยนต์รายครึ่งปีแซงหน้าญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก หลังจากที่การส่งออกรายไตรมาสของจีนแซงหน้าญี่ปุ่นไปแล้วในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ของปี 2023 ซึ่งการเติบโตของการส่งออกของจีนเป็นผลมาจากขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เฟื่องฟูและทำกำไรในตลาดยุโรปและรัสเซีย
- MOTOR EXPO 2023 ยอดขายรถ 4 วันแรกทะลุ 8,300 คัน
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เงินเข้าบัญชีวันนี้ 38 จังหวัด
- สพฐ.ประกาศหยุดเรียน 4-8 ธ.ค.ให้นักเรียน ม.ปลายเตรียมสอบ TGAT/TPAT
จีนส่งออกรถยนต์ 2.14 ล้านคันในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 76% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) อ้างอิงตามรายงานของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน (China Association of Automobile Manufacturers : CAAM) ส่วนญี่ปุ่นตามหลังโดยส่งออกได้ 2.02 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) อิงตามข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Automobile Manufacturers Association : JAMA)
การส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่ของจีน ซึ่งรวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วงครึ่งปีแรก โดยคิดเป็น 25% ของการส่งออกรถยนต์ทั้งหมดของประเทศ เทสลา (Tesla) แบรนด์รถยนต์จากสหรัฐซึ่งใช้โรงงานในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นศูนย์กลางการส่งออกในตลาดเอเชีย ส่งออกรถยนต์ไปแล้วกว่า 180,000 คัน ขณะที่บีวายดี (BYD) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีนส่งออกรถยนต์มากกว่า 80,000 คัน
รัสเซียเป็นประเทศปลายทางอันดับ 1 สำหรับการส่งออกรถยนต์ของจีน โดยจีนส่งรถยนต์ไปยังรัสเซียจำนวน 287,000 คัน ในช่วง 5 เดือนแรก แบรนด์รถยนต์จีนถือโอกาสเข้าไปเติมช่องว่างในตลาดรัสเซีย หลังจากที่แบรนด์รถยนต์เกาหลีใต้และญี่ปุ่นถอนธุรกิจออกจากรัสเซียหลังจากที่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022
เม็กซิโกประเทศที่ดีมานด์รถยนต์ใช้น้ำมันเบนซินยังแข็งแกร่ง และเบลเยียมซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งที่สำคัญของยุโรป ที่กำลังปรับเปลี่ยนรถยนต์ขนส่งของตนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า ก็อยู่ในอันดับต้น ๆ ของรายชื่อจุดหมายปลายทางการส่งออกรถยนต์ของจีนด้วยเช่นกัน
ยอดขายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศจีนอยู่ที่ 26.86 ล้านคัน ในปี 2022 ซึ่งมากที่สุดในโลก รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพียงอย่างเดียวมียอดขายสูงถึง 5.36 ล้านคัน แซงหน้ายอดขายรถยนต์ใหม่ของญี่ปุ่น รวมถึงรถยนต์ใช้น้ำมัน ซึ่งยอดรวมอยู่ที่ 4.2 ล้านคัน
บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและธุรกิจ AlixPartners ในสหรัฐอเมริกาคาดการณ์ว่า ในปี 2027 รถยนต์ไฟฟ้าจะมีสัดส่วน 39% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศจีน ซึ่งจะสูงกว่าสัดส่วนการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกที่คาดการณ์ไว้ที่ 23%
เงินอุดหนุนจากรัฐบาลสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนในการสนับสนุนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก และคาดว่าภายในปี 2030 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีนอย่างบีวายดีจะครองส่วนแบ่ง 65% ของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายในประเทศจีน
ด้วยการมีเครือข่ายซัพพลายแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนภายในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยกำหนดประสิทธิภาพและราคาของรถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนจึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกได้
โทโมยูกิ ซูซูกิ (Tomoyuki Suzuki) กรรมการผู้จัดการของ AlixPartners ในโตเกียว กล่าวว่า หลังปี 2025 รถยนต์จีนมีแนวโน้มที่จะครองส่วนแบ่งในตลาดส่งออกที่สำคัญของญี่ปุ่น รวมถึงสหรัฐด้วย