ไฮเนเก้น (Heineken) บริษัทเบียร์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ขายกิจการในรัสเซียให้บริษัทรัสเซียในราคา 1 ยูโร เสร็จสิ้นกระบวนการถอนธุรกิจออกจากรัสเซียตามที่ประกาศคว่ำบาตรไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2022
วันที่ 25 สิงหาคม 2023 สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ไฮเนเก้น (Heineken) บริษัทเบียร์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลกจากประเทศเนเธอร์แลนด์ประกาศว่า บริษัทเสร็จสิ้นกระบวนการถอนธุรกิจออกจากประเทศรัสเซียแล้ว โดยได้ขายกิจการในรัสเซียให้กับ อาร์เนสต์ กรุ๊ป (Arnest Group) บริษัทรัสเซีย ในราคาเชิงสัญลักษณ์ 1 ยูโร (ประมาณ 37.86 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 25 สิงหาคม 2023) โดยเป็นข้อตกลงซื้อ-ขายกิจการแบบไม่มีทางเลือกการซื้อกิจการคืน
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ไฮเนเก้นกล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการอนุมัติที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว ซึ่งการขายกิจการดังกล่าวนี้มีแนวโน้มว่าจะทำให้บริษัทมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเป็นผลขาดทุน 300 ล้านยูโร (ประมาณ 11,358 ล้านบาท) ซึ่งจะมีผลกระทบเล็กน้อยต่อผลการดำเนินงานทั้งปีของบริษัท
ทั้งนี้ ไฮเนเก้นเป็นหนึ่งในบริษัทที่ประกาศความตั้งใจที่จะถอนธุรกิจออกจากรัสเซียในเดือนมีนาคม 2022 หลังจากที่รัสเซียรุกกรานยูเครน ซึ่งบริษัทยอมรับว่ากระบวนการนี้ใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้
ดอล์ฟ ฟาน เดน บริงก์ (Dolf van den Brink) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไฮเนเก้น กล่าวว่า ความคืบหน้าล่าสุดแสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่สำคัญที่บริษัทผู้ผลิตขนาดใหญ่ต้องเผชิญในการถอนธุรกิจออกจากรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ ไฮเนเก้นได้ถอดแบรนด์ไฮเนเก้นออกจากการขายในตลาดรัสเซียตั้งแต่ปีที่แล้ว และการผลิตเบียร์แบรนด์ อัมสเทล (Amstel) จะยุติลงภายใน 6 เดือนข้างหน้านี้
ไฮเนเก้นมีโรงงานผลิตเบียร์ในรัสเซียทั้งหมด 7 แห่ง และมีพนักงาน 1,800 คน ซึ่งพนักงานทั้งหมดจะได้รับหลักประกันการจ้างงานในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า
สำหรับอาร์เนสต์ กรุ๊ป ผู้ซื้อกิจการนั้นเป็นเจ้าของธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระป๋องรายใหญ่ และเป็นผู้ผลิตกระป๋องสเปรย์รายใหญ่ที่สุดในรัสเซีย รวมถึงมีธุรกิจจำหน่ายเครื่องสำอางและของใช้ในครัวเรือนต่าง ๆ
ทั้งนี้ บริษัทข้ามชาติหลายรายแห่ถอนธุรกิจออกจากรัสเซีย หลังจากที่ชาติตะวันตกบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว ส่วนฝั่งรัฐบาลรัสเซียตอบโต้ด้วยการยึดทรัพย์สินบางส่วนของบริษัทข้ามชาติเหล่านั้น
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ของรัสเซียลงนามคำสั่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อควบคุมบริษัทในเครือดานอน (Danone) บริษัทผู้ผลิตนมและโยเกิร์ตรายใหญ่จากฝรั่งเศส พร้อมด้วยบริษัทเบียร์รัสเซียที่บริษัทเบียร์คาร์ลสเบิร์ก (Carlsberg) จากเดนมาร์กถือหุ้นอยู่
นอกจากนี้ แอนไฮเซอร์-บุช อินเบฟ (Anheuser-Busch InBev) บริษัทผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่อีกราย เป็นอีกบริษัทที่กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะถอนตัวออกจากบริษัทร่วมทุนในรัสเซีย ซึ่งร่วมทุนกับบริษัท เอเฟส (Efes) จากตุรกี
