อัพเดต 7 ตุลาคม 2023 เวลา 21.10 น.
อิสราเอลประกาศภาวะสงคราม สั่งระดมพลกองกำลังปฏิการ “เอาคืนครั้งใหญ่” หลังโดนกลุ่มติดอาวุธ “ฮามาส” ในฉนวนกาซายิงจรวด 5,000 ลูกถล่ม ชาติตะวันตกรุมประณามการโจมตีของฮามาส และสนับสนุนว่าอิสราเอลมีสิทธิป้องกันตนเอง
วันที่ 7 ตุลาคม 2023 มติชนรายงานอ้างอิงสำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) ว่า มีการยิงจรวดหลายสิบลูกโดยกลุ่มติดอาวุธฮามาสจากฉนวนกาซา (ซึ่งถูกอิสราเอลปิดล้อม) มุ่งไปยังอิสราเอล ซึ่งการยิงจรวดเกิดขึ้นจากหลายพื้นที่ในฉนวนกาซา ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และดำเนินต่อเนื่องไปราวครึ่งชั่วโมง
กองทัพอิสราเอลได้เปิดไซเรนเตือนประชาชนไปทั่วทั้งภาคใต้ของประเทศ ขณะที่ตำรวจประกาศให้ประชาชนอยู่ใกล้ที่หลบภัย
ต่อมามีรายงานว่า จรวดที่ยิงออกจากฉนวนกาซาเข้าสู่อิสราเอลมีมากกว่า 5,000 ลูก ซึ่งกองกำลังฮามาสออกมาประกาศว่าได้เริ่ม “ปฏิบัติการน้ำท่วมอัลอักซอ” และบอกว่า ฮามาสตัดสินใจที่จะยุติอาชญากรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการยึดครอง (ของอิสราเอล) เวลาในการอาละวาดอย่างไม่รับผิดชอบ ต้องหยุดลงแล้ว
“เราขอประกาศเปิดปฏิบัติการน้ำท่วมอัลอักซอ และเรายิงจรวดมากกว่า 5,000 ลูก ในการโจมตีครั้งแรก ภายในเวลา 20 นาที”
ด้านกองทัพและหน่วยแพทย์ระบุว่า มีการยิงจรวดจากฉนวนกาซาใส่อิสราเอลในตอนเช้ามืดของวันเสาร์ ขณะที่กลุ่มติดอาวุธจากวงล้อมปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมแทรกซึมเข้าไปในอิสราเอล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย เป็นหญิงวัย 60 ปี ท่ามกลางเสียงไซเรนโจมตีทางอากาศดังไปทั่วอิสราเอลตอนใต้และตอนกลาง
เอเอฟพีรายงานว่า ประชาชนหลายร้อยคนในฉนวนกาซาหนีออกจากบ้านเพื่อย้ายออกจากชายแดนที่ติดอิสราเอล หลังจากจรวดจำนวนมากถูกยิงไปที่ชายฝั่งอิสราเอล
ด้านกองทัพอิสราเอลได้ตอบโต้กลุ่มติดอาวุธฮามาสโดยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มฉนวนกาซาอย่างน้อย 2 ครั้งในวันเดียวกัน
ขณะที่มีรายงานว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ประชุมฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในทันที และประกาศว่า อิสราเอลอยู่ในภาวะสงครามกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส พร้อมสั่งระดมพลกองหนุนและให้ยิงตอบโต้เอาคืนครั้งใหญ่ต่อศัตรูที่จะต้องชดใช้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ยูอาฟ กัลลันต์ (Yoav Gallant) รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ออกมาระบุว่า ฮามาสได้เปิดฉากสงครามกับอิสราเอล หลังจากยิงจรวดจำนวนมากจากฉนวนกาซาเข้าสู่อิสราเอล
“กลุ่มฮามาสทำผิดร้ายแรง และเปิดฉากสงครามกับอิสราเอล”
ในแถลงการณ์ยังระบุว่า “กองทัพอิสราเอล (IDF) กำลังต่อสู้กับศัตรูในทุกสถานที่” และบอกว่า อิสราเอลจะชนะสงครามครั้งนี้
ด้านสื่อของปาเลสไตน์รายงานว่า มีชาวอิสราเอลส่วนหนึ่งที่ถูกกลุ่มนักรบปาเลสไตน์จับตัวเป็นเชลยไว้
ทั้งนี้ อิสราเอลได้ปิดล้อมฉนวนกาซาตั้งแต่ปี 2007 หลังจากกลุ่มติดอาวุธฮามาสเข้ายึดอำนาจ โดยกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์และอิสราเอลได้ต่อสู้กับสงครามทำลายล้างหลายครั้ง นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ต่อมา มติชนรายงานข่าวอีกชิ้นหนึ่งว่า หลายชาติตะวันตกต่างออกมาประณามการก่อเหตุโจมตีอิสราเอลดังกล่าวของกลุ่มติดอาวุธในดินแดนปาเลสไตน์ โดยนายริชี ซูแน็ก (Rishi Sunak) นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า ตนรู้สึกตกใจกับเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น และบอกว่า อิสราเอลมีสิทธิอย่างเด็ดขาดในการป้องกันตนเอง
ด้านนายเจมส์ เคลฟเวอรีย์ (James Cleverly) รัฐมนตรีต่างประเทศของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า สหราชอาณาจักรประณามการโจมตีที่น่าหวาดกลัวต่อพลเมืองอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาส และบอกว่า สหราชอาณาจักรสนับสนุนสิทธิในการปกป้องตนเองของอิสราเอลเสมอ
นางอันนาเลนา แบร์บ็อค (Annalena Baerbock) รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี กล่าวว่า เยอรมนีขอประณามการโจมตีอิสราเอลของผู้ก่อการร้ายจากกาซา และว่า กลุ่มติดอาวุธฮามาสในปาเลสไตน์ มีส่วนทำให้ความรุนแรงทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งความรุนแรงและการยิงจรวดที่มุ่งเป้าไปที่ผู้บริสุทธิ์จะต้องยุติลงในทันที พร้อมกับระบุด้วยว่า อิสราเอลมีสิทธิที่จะได้รับการรับรองโดยกฎหมายระหว่างประเทศในการป้องกันตนเองจากการก่อการร้าย
ด้านนายโฮเซ มานูเอล อับบาเรส (José Manuel Albares) รัฐมนตรีต่างประเทศสเปนโพสต์บน X ว่า “เราขอประณามการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มผู้ก่อการร้ายอย่างแข็งกร้าว เรารู้สึกตกใจกับเหตุความรุนแรงที่ไม่เลือกปฏิบัตินี้”
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ของฝรั่งเศสประณามการโจมตีอิสราเอลเช่นกัน และฝรั่งเศสยังแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับอิสราเอลและผู้ตกเป็นเหยื่อเหตุความรุนแรงครั้งนี้
ขณะอิตาลีประกาศสนับสนุนสิทธิในการปกป้องตนเองของอิสราเอลต่อเหตุโจมตีรุนแรงด้วยเช่นกัน
สำหรับความสูญเสีย อัพเดต ณ เวลา 20.50 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งตรงกับเวลา 16.50 น. ตามเวลาอิสราเอล สำนักข่าวอัลจาซีรา (Al Jazeera) รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวทางการแพทย์ในพื้นที่ว่า มีผู้เสียชีวิตในฝั่งอิสราเอลจากการยิงจรวดโจมตีของกลุ่มฮามาสแล้วอย่างน้อย 40 ราย ส่วนในฉนวนกาซามีชาวปาเลสไตน์ชีวิตจากปฏิบัติการโต้กลับโดยการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลแล้ว 198 ราย