เปิดแถลงการณ์ร่วมสหรัฐ-ฝรั่งเศส-เยอรมนี-อิตาลี-สหราชอาณาจักรเรื่องสถานการณ์ในอิสราเอล ฉบับเต็ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2023 ตามเวลาประเทศไทย ผู้นำสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์ร่วมเรื่องสถานการณ์ในอิสราเอล ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2023 เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
“วันนี้ ผู้นำของฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์ร่วมภายหลังการหารือกันดังต่อไปนี้ :
วันนี้ พวกเรา-ประธานาธิบดีมาครงของฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีชอลซ์ของเยอรมนี นายกรัฐมนตรีเมโลนีของอิตาลี นายกรัฐมนตรีซูนัคของสหราชอาณาจักร และประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐอเมริกา-ต่างแสดงการสนับสนุนอย่างแน่วแน่และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อรัฐอิสราเอล และประณามกลุ่มฮามาสและการก่อการร้ายอันน่าสะพรึงกลัวของกลุ่มดังกล่าว
เราขอแถลงอย่างชัดเจนว่าการกระทำของผู้ก่อการร้ายกลุ่มฮามาสนั้นไร้เหตุผล ขาดความชอบธรรม และพึงถูกประณามจากประชาคมโลก ไม่มีเหตุผลใดจะสามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการก่อการร้าย ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั่วโลกต่างได้ร่วมรับรู้เหตุการณ์อันโหดเหี้ยมที่กลุ่มฮามาสสังหารหมู่ผู้คนหลายครอบครัวในบ้านเรือนของพวกเขา เข่นฆ่าคนหนุ่มสาวกว่า 200 คนที่ไปร่วมงานเทศกาลดนตรี และจับผู้หญิงสูงอายุ เด็ก และคนทั้งครอบครัวไปเป็นตัวประกัน
ประเทศของเราจะสนับสนุนอิสราเอลในความพยายามที่จะปกป้องตนเองและประชาชนของตนจากความโหดร้ายดังกล่าว เราขอเน้นย้ำว่านี่ไม่ใช่เวลาที่ฝ่ายใดก็ตามซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่ออิสราเอลจะฉวยโอกาสจากการโจมตีเหล่านี้เพื่อผลประโยชน์ของตน
เราทุกคนตระหนักถึงความปรารถนาอันชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์และสนับสนุนมาตรการเพื่อความยุติธรรมและเสรีภาพที่เท่าเทียมกันสำหรับทั้งชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ แต่ทั้งนี้ โปรดระลึกว่า กลุ่มฮามาสมิได้เป็นตัวแทนที่สะท้อนความปรารถนาดังกล่าวและมิได้สร้างประโยชน์ใดแก่ชาวปาเลสไตน์ หากแต่เป็นผู้ก่อให้เกิดความหวาดกลัวและเหตุนองเลือด
จากนี้ไป เราจะยังคงร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกันในฐานะพันธมิตรและเพื่อนของอิสราเอล เพื่อให้อิสราเอลสามารถปกป้องตนเองได้ และเพื่อสร้างปัจจัยหนุนสันติภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกันของภูมิภาคตะวันออกกลางในท้ายที่สุด”