
เยอรมนีจะแซงญี่ปุ่นขึ้นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลกในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นการแซงหน้ากลับเป็นครั้งแรกในรอบ 50 กว่าปี นับตั้งแต่ที่ขนาดเศรษฐกิจญี่ปุ่นใหญ่แซงเยอรมนีในทศวรรษ 1970
วันที่ 24 ตุลาคม 2023 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีถูกคาดการณ์ว่าจะแซงญี่ปุ่นขึ้นเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกภายในปี 2023 นี้ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโร
บลูมเบิร์กอ้างอิงการคาดการณ์ล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ประเมินว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเยอรมนีจะมีมูลค่า 4.43 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ เทียบกับญี่ปุ่นที่จีดีพีจะมีมูลค่า 4.23 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนั่นจะทำให้ขนาดเศรษฐกิจของเยอรมนีเป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกาและจีนเท่านั้นในแง่ของขนาดเศรษฐกิจ
การคาดการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงใกล้ระดับ 160 เยนต่อ 1 ยูโร และยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 33 ปีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ซึ่งก่อให้เกิดการแทรกแซงค่าเงินรอบที่ 2 ในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ครั้งล่าสุดที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนต่อเงินยูโรแตะระดับ 160 เยนต่อ 1 ยูโร คือ ในเดือนสิงหาคม 2008
สาเหตุสำคัญของ “การอ่อนค่าของเงินเยน” คือ ความแตกต่างของนโยบายการเงินของญี่ปุ่นกับประเทศใหญ่ ๆ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อ ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลายเป็นพิเศษเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะเงินฝืดมานานหลายปี
การคงอัตราดอกเบี้ยสูงไว้เป็นเวลานานของธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรปจะสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น แต่ไม่มีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า BOJ จะกลับทิศนโยบายและสิ้นสุดการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบในปีนี้
ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะโดนเยอรมนีแซงด้วยปัจจัยหลักเรื่องค่าเงิน แต่ตัวเลขก็ยังชี้ให้เห็นถึงการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาวของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งจะสร้างความกังวลให้กับผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่นที่กำลังออกแบบแผนกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ซึ่งจะเสนอเข้าสภาในเร็ว ๆ นี้
ยาสึโตชิ นิชิมูระ (Yasutoshi Nishimura) รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นกล่าวยอมรับในวันนี้ (24 ตุลาคม) ว่า “เป็นความจริงที่ศักยภาพในการเติบโตของญี่ปุ่นล้าหลังและยังคงซบเซา” เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการคาดการณ์เศรษฐกิจของ IMF
“เราต้องกอบกู้สิ่งที่สูญเสียไปในช่วง 20 หรือ 30 ปีที่ผ่านมากลับคืน เราต้องการบรรลุเป้าหมายนั้นด้วยมาตรการต่าง ๆ เช่น แพ็กเกจ (กระตุ้นเศรษฐกิจ) ที่กำลังจะมาถึง” รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่นกล่าว
นอกจากนั้น ตัวเลขของ IMF แสดงให้เห็นว่ารายได้ของชาวเยอรมันก็ดีกว่าชาวญี่ปุ่นเช่นกัน โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเฉลี่ยต่อประชากร (GDP per capita) ในเยอรมนีคาดว่าจะอยู่ที่ 52,824 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนของญี่ปุ่น 33,950 ดอลลาร์สหรัฐ
“ประชาชาติธุรกิจ” ค้นข้อมูลเปรียบเทียบเพิ่มเติมพบว่า ญี่ปุ่นเคยเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกเรื่อยมาตั้งแต่ทศวรรษ 1990 ก่อนจะเสียอันดับ 2 ให้แก่จีนในปี 2010 ขณะที่เยอรมนีนั้นขนาดเศรษฐกิจตามหลังญี่ปุ่นมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ดังนั้น การที่เศรษฐกิจเยอรมนีแซงญี่ปุ่นขึ้นอันดับ 3 ในปีนี้ จะเป็นการแซงหน้าครั้งแรกในรอบ 50 กว่าปี