สตาร์บัคส์เปลี่ยนซีอีโอ หลังยอดขายไม่ดีในสองไตรมาสหลัง ดึง “ไบรอัน นิกโคล” ซีอีโอตัวท็อปผู้มากผลงานในธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดมานำทัพ หุ้นพุ่งแล้ว 24.50% จับตาทะยานต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2024 บริษัท สตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชัน (Starbucks Corporation) ประกาศแต่งตั้ง ไบรอัน นิกโคล (Brian Niccol) เป็นประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) โดยจะเริ่มรับตำแหน่งในวันที่ 9 กันยายน 2024 ส่วน ลักซ์แมน นาราซิมฮัน (Laxman Narasimhan) ซีอีโอคนล่าสุด ให้คำสั่งออกจากตำแหน่งซีอีโอและคณะกรรมการบริหารมีผลในทันที ซึ่งในระหว่างนี้ไปจนถึงวันที่ 9 กันยายน สตาร์บัคส์มอบหมายให้ ราเชล รักเกอรี (Rachel Ruggeri) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินนั่งรักษาการตำแหน่งซีอีโอชั่วคราว
ประกาศจากสตาร์บัคส์กล่าวถึงว่าที่ประธานและซีอีโอคนใหม่ว่า ปัจจุบัน ไบรอัน นิกโคล ดำรงตำแหน่งประธานและซีอีโอของบริษัทร้านอาหาร ชิโปตเล แม็กซิกัน กริลล์ (Chipotle Maxican Grill) นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งซีอีโอในปี 2018 นิกคอลได้เปลี่ยนแปลงชิโปตเลไปอย่างสิ้นเชิง การให้ความสำคัญกับผู้คนและวัฒนธรรม แบรนด์ นวัตกรรมเมนูอาหาร ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน และการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม และขับเคลื่อนการเติบโตและการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ รายได้ของ ชิโปตเล เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า กำไรเพิ่มขึ้นเกือบเจ็ดเท่า และราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเกือบ 800% ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในขณะที่มีการเพิ่มค่าจ้างให้กับคนทำงานในทีมค้าปลีก การขยายสวัสดิการ และเสริมสร้างวัฒนธรรม
ก่อนหน้านี้ สตาร์บัคส์ประสบปัญหายอดขายลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน (ไตรมาส 1-2 ปี 2024) ส่งผลให้หุ้นสตาร์บัคส์ร่วงลงไปแล้ว 20% จากช่วงต้นปีมาจนถึงก่อนการประกาศเปลี่ยนซีอีโอ (Year to Date) แต่ทันทีที่สตาร์บัสค์ประกาศการเปลี่ยนแปลงแม่ทัพ หุ้น SBUX ของสตาร์บัคส์ที่จดทะเบียนในตลาดแนสแดค (Nasdaq) ก็พุ่งขึ้น และปิดวันที่ 13 สิงหาคม +18.87 จุด หรือพุ่งขึ้น 24.50% จากวันก่อนหน้า สวนทางกับหุ้น CMG ของชิโปตเลซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) ที่ปิด -4.19 จุด หรือร่วงลง 7.50%
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานในวันที่ 13 สิงหาคมว่า การปรับเปลี่ยนผู้นำของสตาร์บัคส์เกิดขึ้นหลังจาก Activist Investor หรือนักลงทุนนักเคลื่อนไหวอย่าง เอลเลียต อินเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์ (Elliott Investment Management) และสตาร์บอร์ด แวลู (Starboard Value) รายงานว่า ได้ซื้อหุ้นสตาร์บัคส์ แม้ว่าเอลเลียตจะยังไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับความต้องการที่ชัดเจนของการซื้อสตาร์บัคส์ แต่หลาย ๆ เป้าหมายของการเข้าซื้อคือการเปลี่ยนผู้บริหาร และหลังจากที่สตาร์บัคส์ประกาศเปลี่ยนผู้บริหาร เอลเลียตกล่าวว่า ยินดีกับการแต่งตั้งนิกโคล
บลูมเบิร์กรายงานอีกว่า นักวิเคราะห์หลายคนยกย่องให้นิกโคลเป็นซีอีโอระดับท็อปของธุรกิจร้านอาหารในสหรัฐ
ไมเคิล ฮาเลน (Michael Halen) จากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ (Bloomberg Intelligence) กล่าวว่า การว่าจ้างซีอีโอของสตาร์บัคส์ในครั้งนี้ “เป็นเรื่องที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก”
ขณะที่ ไบรอัน บิตต์เนอร์ (Brian Bittner) จากบริษัทโบรกเกอร์และวาณิชธนกิจ ออพเพนไฮมอร์ แอนด์ โค. (Oppenheimer & Co.) กล่าวว่า นิกโคลเป็น “การว่าจ้างในฝัน” ของสตาร์บัคส์
ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสตาร์บัคส์ประกาศแต่งตั้งนิกโคลเป็นซีอีโอ หุ้นของสตาร์บัคส์ได้รับการปรับราคาเป้าหมายขึ้นถึง 4 ครั้ง เนื่องจากผลงานความสำเร็จในฐานะซีอีโอธุรกิจร้านอาหารของเขา ทั้งที่ชิโปเตล และทาโก้ เบลล์ (Taco Bell)
ทั้งนี้ มุมมองเชิงบวกที่นักลงทุนมีต่อสตาร์บัคส์หลังประกาศตั้งนิกโคลเป็นซีอีโอนั้นได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลในอดีต ราคาหุ้นชิโปตเลเพิ่มขึ้น 773% นับตั้งแต่เขารับตำแหน่งซีอีโอเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2018 จนถึงเวลาปิดตลาดวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ราคาหุ้นสตาร์บัคส์เพิ่มขึ้นเพียง 35% และดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) เพิ่มขึ้น 99%