ราคาบ้านในจีนลดลงเฉลี่ย 8% จากจุดสูงสุดในปี 2021 ไร้แววราคาหยุดร่วงในเร็ว ๆ นี้

ภาพอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ โดย ผู้พัฒนาอสังหาฯ เอเวอร์แกรนด์ ภาพโดย รอยเตอร์ส
ภาพอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ โดย ผู้พัฒนาอสังหาฯ เอเวอร์แกรนด์ ภาพโดย รอยเตอร์ส

ราคาบ้านในจีนลดลงเฉลี่ย 8% จากจุดสูงสุดในปี 2021 และไม่มีทีท่าว่าราคาจะหยุดร่วงในเร็ว ๆ นี้ แต่รัฐบาลจีนยังปฏิเสธข้อเรียกร้องของ IMF ที่ให้ออกมาตรการช่วยเหลือโครงการบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จเพิ่มอีก แม้ยอดบ้านใหม่ในสต๊อกยังคงเพิ่มขึ้น 23%

วันที่ 16 สิงหาคม 2024 นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า ในเดือนกรกฎาคม ราคาบ้านใหม่ทั่ว 70 เมืองใหญ่ของจีนร่วงลงโดยเฉลี่ย 8% เมื่อเทียบกับราคาสูงสุดในปี 2021 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน ขณะที่จีนกำลังดิ้นรนเพื่อฟื้นคืนภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำมาอย่างยาวนาน

อ้างอิงจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ราคาโดยรวมในเดือนมิถุนายนลดลง 0.6% ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน

ตลาดที่อยู่อาศัยของจีนถึงจุดสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2021 ซึ่งขณะนั้น รัฐบาลได้เข้มงวดข้อจำกัดด้านการเงินของภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อป้องกันฟองสบู่ ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอย่างเอเวอร์แกรนด์ (China Evergrande Group) เข้าสู่ภาวะวิกฤต และถูกบีบยอดขายที่อยู่อาศัย

จีนมีการจัดระดับของเมืองเป็น 4 ระดับ แม้จะไม่ใช่การจัดอันดับอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นการจัดอันดับจากสื่อที่น่าเชื่อถือ โดยเมืองระดับสามที่มีขนาดเล็กนั้น มีราคาบ้านลดลง 10% ในช่วงเวลา 3 ปี ขณะที่เมืองระดับสอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมืองเอกระดับมณฑลต่าง ๆ มีราคาลดลง 5% ส่วนเมืองระดับหนึ่งที่มีความเจริญมากสุด เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว และเสิ่นเจิ้น กลับมีราคาลดลงเพียงเล็กน้อย

ราคาบ้านมือสองในเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น ลดลงใน 67 เมืองจากทั้งหมด 70 เมือง

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม ราคาที่ลดลงยังอยู่ในวงจำกัด เมื่อเทียบกับยอดขายบ้านใหม่ที่ดิ่งลงไป ซึ่งลดลงประมาณครึ่งหนึ่งตามพื้นที่ ในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคมเมื่อเทียบกับช่วง 7 เดือนเดียวกันนี้ของปี 2021

รัฐบาลท้องถิ่นพึ่งพาการขายสิทธิในที่ดินของรัฐ ให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อระดมทุนให้หน่วยงานท้องถิ่น ราคาบ้านที่ลดลงทำให้ราคาสิทธิในที่ดินเหล่านี้ลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้ทางการต้องออกมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาคอนโดมิเนียมร่วงลง รวมถึงการจำกัดส่วนลดที่ผู้พัฒนาโครงการสามารถเสนอให้กับโครงการที่สร้างใหม่

ADVERTISMENT

เหยา หยาง (Yao Yang) ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่งกล่าวว่า อุปสงค์ที่อ่อนแอบ่งชี้ว่าราคาบ้านอาจลดลงต่อไปอีก อิงจากเหตุการณ์พังทลายของภาคอสังหาฯที่ผ่านมาในญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ราคาบ้านในจีนอาจลดลงมากถึง 40% จากจุดสูงสุด

หนึ่งในความท้าทายหลักที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญ คือโครงการที่ถูกยกเลิกก่อนจะสร้างเสร็จ เนื่องจากดีเวลอปเปอร์ขาดเงินสด การส่งมอบที่ล่าช้าทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในหมู่ผู้ซื้อ ส่งผลให้ยอดขายลดลง

ราคาบ้านที่ดิ่งยาวนานยังทำให้มีการคาดเดาว่า ราคาบ้านจะยังคงลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้เจ้าของบ้านจำนวนมากรีบขายบ้าน

ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาอสังหาริมทรัพย์ในจีน ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเสนอให้รัฐบาลกลางออกมาตรการจ่ายครั้งเดียวจบเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ

ไอเอ็มเอฟประมาณการว่าการใช้จ่ายทางการคลังที่จำเป็นอยู่ที่ 5.5% ของจีดีพี ในระยะเวลา 4 ปี ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7 ล้านล้านหยวน (34 ล้านล้านบาท) โดยอิงจากตัวเลขในปี 2023

จีนได้ออกมาตอบโต้ภายหลัง โดยระบุว่านโยบายที่มีอยู่นั้นเพียงพอแล้ว ในการนำ “แนวโน้มเชิงบวก” มาสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และจึงทำให้ไม่มีแผนที่เพิ่มเติมที่จะเพิ่มการสนับสนุนปัญหาบ้านที่ขายไม่ออก

อย่างไรก็ตาม ความพยายามดังกล่าวไม่ได้ช่วยกระตุ้นยอดขายแต่อย่างใด โดยเมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคม ยอดบ้านใหม่คงเหลือเพิ่มขึ้น 23% ในรอบปีเมื่อแยกพิจารณาตามพื้นที่ โครงการริเริ่มที่ประกาศเมื่อเดือนพฤษภาคม กำหนดให้รัฐบาลท้องถิ่นซื้อบ้านที่ขายไม่ออกนั้น ไม่ได้ช่วยทำให้ยอดบ้านใหม่คงเหลือลดลงแต่อย่างใด