โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐอเมริกาประกาศชัดว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากทุกประเทศในอัตรา 10% ถึง 20% และสนับสนุนให้การค้าระหว่างประเทศของสหรัฐเป็นระบบต่างตอบแทน (Reciprocity) โดยใช้อัตราภาษีระดับเดียวกันกับที่ประเทศคู่ค้าเรียกเก็บจากสินค้าของสหรัฐ
ในช่วงเวลานับถอยหลังสู่การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ “ประชาชาติธุรกิจ” ชวนเปิดจักรวาลการค้าของสหรัฐอเมริกา ดูว่าสหรัฐมีมูลค่าการค้าขายระหว่างประเทศปีละเท่าไหร่ นำเข้าจากประเทศไหนมากที่สุด ส่งออกไปประเทศไหนมากที่สุด ค้าขายกับประเทศไหนมากที่สุด ขาดดุลให้ประเทศไหนมากที่สุด และได้ดุลประเทศไหนมากที่สุด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะพอบอกได้ว่าคร่าว ๆ ว่าประเทศไหนบ้างที่กำลังเป็นเป้าการเก็บภาษีของทรัมป์
ข้อมูลพื้นฐานจักรวาลการค้าสหรัฐ
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ “ขาดดุลการค้า” สูงที่สุดในโลกมาเนิ่นนาน เนื่องจากการผลิตสินค้าภายในประเทศของสหรัฐมีต้นทุนสูง จึงใช้การนำเข้าเป็นส่วนใหญ่ และสหรัฐได้ให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) แก่ประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้น ในปัจจุบัน จึงมีหลายประเทศที่ส่งสินค้าเข้าไปขายสหรัฐได้โดยไม่เสียภาษี หรือเสียในอัตราพิเศษ
ตามข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา ในปี 2023 มูลค่าการค้ารวมของสหรัฐอยู่ที่ 6,880,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยนำเข้าเป็นมูลค่า 3,826,900 ล้านดอลลาร์ ส่งออกเป็นมูลค่า 3,053,500 ล้านดอลลาร์ ขาดดุลการค้า 773,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมูลค่าการขาดดุลในปี 2023 ลดลงแล้ว 18.7% จากปี 2022 ที่ขาดดุล 951,200 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ จีนเคยเป็นประเทศที่ส่งสินค้าเข้าสหรัฐมากที่สุดมานาน 15 ปี นับตั้งแต่ปี 2007 ถึงปี 2022 แต่เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน ทำให้สหรัฐใช้มาตรการกีดกันสินค้าจีนมากขึ้น ส่งผลให้ในปี 2023 จีนเสียแชมป์ส่งสินค้าเข้าสหรัฐให้แก่เม็กซิโก ซึ่งไม่เพียงร่วงจากอันดับ 1 ลงไปอยู่อันดับ 2 แต่ยังลงไปถึงอันดับ 3 โดนแคนาดาแซงขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ด้วย
20 ประเทศ/ดินแดนที่สหรัฐขาดดุลมากที่สุด
(หน่วย : ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
1.จีน 279,424
2.เม็กซิโก 152,379
3.เวียดนาม 104,627
4.เยอรมนี 83,021
5.ญี่ปุ่น 71,175
6.แคนาดา 67,861
7.ไอร์แลนด์ 65,342
8.เกาหลีใต้ 51,398
9.ไต้หวัน 47,975
10.อิตาลี 44,012
11.อินเดีย 43,651
12.ไทย 40,720
13.มาเลเซีย 26,705
14.สวิตเซอร์แลนด์ 24,319
15.อินโดนีเซีย 16,863
16.ออสเตรีย 13,609
17.ฝรั่งเศส 13,393
18.กัมพูชา 11,272
19.สวีเดน 9,788
20.สโลวาเกีย 7,887
20 ประเทศที่สหรัฐเกินดุลมากที่สุด
(หน่วย : ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
1.เนเธอร์แลนด์ 43,742
2.ฮ่องกง 23,585
3.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 18,279
4.ออสเตรเลีย 17,724
5.เบลเยียม 15,801
6.ปานามา 10,681
7.สหราชอาณาจักร 9,804
8.โดมินิกัน 6,004
9.บราซิล 5,685
10.อาร์เจนตินา 5,004
11.กัวเตมาลา 4,902
12.บาฮามาส 3,757
13.เปรู 3,304
14.ชิลี 3,182
15.กาตาร์ 2,611
16.ปารากวัย 2,507
17.จาไมกา 2,235
18.สิงคโปร์ 2,107
19.อียิปต์ 2,096
20.โมร็อกโก 2,055
20 ประเทศ/ดินแดนที่สหรัฐนำเข้ามากที่สุด
(หน่วย : ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
1.เม็กซิโก 475,607
2.จีน 427,229
3.แคนาดา 421,096
4.เยอรมนี 159,720
5.ญี่ปุ่น 147,340
6.เกาหลีใต้ 116,235
7.เวียดนาม 114,439
8.ไต้หวัน 87,752
9.อินเดีย 83,768
10.ไอร์แลนด์ 82,290
11.อิตาลี 72,942
12.สหราชอาณาจักร 64,285
13.ฝรั่งเศส 57,649
14.ไทย 56,374
15.สวิตเซอร์แลนด์ 52,189
16.มาเลเซีย 46,147
17.สิงคโปร์ 40,340
18.บราซิล 39,122
19.เนเธอร์แลนด์ 38,447
20.อินโดนีเซีย 26,807
20 ประเทศ/ดินแดนที่สหรัฐส่งออกมากที่สุด
(หน่วย : ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
1.แคนาดา 353,235
2.เม็กซิโก 323,228
3.จีน 147,806
4.เนเธอร์แลนด์ 82,189
5.เยอรมนี 76,699
6.ญี่ปุ่น 76,165
7.สหราชอาณาจักร 74,090
8.เกาหลีใต้ 64,836
9.บราซิล 44,808
10.ฝรั่งเศส 44,257
11.สิงคโปร์ 42,447
12.อินเดีย 40,117
13.ไต้หวัน 39,776
14.เบลเยียม 38,829
15.ออสเตรเลีย 33,678
16.อิตาลี 28,930
17.สวิตเซอร์แลนด์ 27,871
18.ฮ่องกง 27,768
19.สเปน 25,001
20.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 24,857
อ้างอิง :