
นักวิเคราะห์ของ โกลด์แมน แซคส์ แนะซื้อทองคำ มั่นใจราคาจะวิ่งขึ้นถึง 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ประมาณ 104,480 บาทต่อออนซ์) ภายในปี 2025
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2024 ว่า ทีมนักวิเคราะห์ของ โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป (Goldman Sachs Group Inc.) ฟันธงราคาทองคำจะวิ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ในปี 2025 จากการเพิ่มการซื้อทองคำของธนาคารกลางและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ และกล่าวว่าราคาอาจเพิ่มขึ้นอีกในระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ เขียนแนะนำในบทวิเคราะห์ว่า “มุ่งไปซื้อทอง” โดยยืนยันราคาเป้าหมายที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (ประมาณ 104,480 บาทต่อออนซ์) ภายในเดือนธันวาคม 2025 พร้อมระบุว่าปัจจัยขับเคลื่อนเชิงโครงสร้างของการคาดการณ์นี้คือ ความต้องการทองคำที่สูงขึ้นของบรรดาธนาคารกลาง ในขณะที่การเพิ่มขึ้นตามวัฏจักรนั้นจะมาจากกระแสเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุนรวม (ETF) เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ยลง
ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในปีนี้ โดยทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ติดต่อกันหลายครั้ง ก่อนที่ราคาจะลดลงทันทีหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
ทั้งนี้ ราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นนั้นได้รับการสนับสนุนจากการซื้อของภาคส่วนทางการ (Official-Sector Buying หมายความรวมทั้งภาครัฐ ธนาคารกลาง และองค์กรระหว่างประเทศ) ที่เพิ่มขึ้น และการผ่อนปรนนโยบายการเงินของธนาคารกลางของสหรัฐ หรือเฟด (Fed) นอกจากนั้น โกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า การบริหารประเทศของทรัมป์อาจจะช่วยเพิ่มราคาทองคำได้อีกด้วย
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวอีกว่า ความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาจช่วยกระตุ้นให้การเก็งกำไรในทองคำอีกครั้ง นอกจากนั้น ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความไม่ยั่งยืนทางการคลังของสหรัฐอเมริกาอาจจะช่วยหนุนราคาทองคำด้วยเช่นกัน เนื่องจากมองว่าธนาคารกลางสหรัฐซึ่งเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรายใหญ่อาจจะหันไปซื้อทองคำมากขึ้น
ราคาซื้อขายทองคำในวันที่ 18 พฤศจิกายนอยู่ที่ราว ๆ 2,589 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (ประมาณ 90,165 บาทต่อออนซ์) หลังจากขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ราว ๆ 2,790 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (ประมาณ 97,160 บาทต่อออนซ์) เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ส่วนมุมมองต่อสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ (Brent) จะซื้อขายอยู่ระหว่าง 70 ถึง 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2025 ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงขาขึ้นในระยะใกล้ หากฝ่ายบริหารของทรัมป์สั่งจำกัดการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ส่วนโลหะพื้นฐาน (Base Metal) นั้นได้รับความนิยมมากกว่าโลหะกลุ่มเหล็ก (Ferrous) ส่วนก๊าซของยุโรปจะเผชิญความเสี่ยงในช่วงระยะสั้น ๆ จากสภาพอากาศหนาว
นอกจากนั้น นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐอเมริกาอาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออุปทานน้ำมันของอิหร่าน โดยมีความเป็นไปได้ที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้น และการเพิ่มการสนับสนุนของสหรัฐต่ออิสราเอล อาจเพิ่มโอกาสจะเกิดการหยุดชะงักของการผลิตและการค้าน้ำมันของอิหร่าน