สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริการะบุว่า จะเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล หากผู้นำประเทศทั่วโลกเป็น “ผู้หญิง”
ทั้งนี้ นายโอบามาได้กล่าวบนเวที Singapore Expo ซึ่งจัดโดย “The Growth Faculty” บริษัทจัดอีเวนต์ด้านธุรกิจชื่อดังที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำในประเด็นความเท่าเทียมทางเพศว่า ผู้หญิงไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผู้นำที่ดีกว่าผู้ชาย
อดีตประธานาธิบดีโอบามายังระบุด้วยว่า “ปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นทั่วโลกมักเกิดคนแก่ โดยเฉพาะชายแก่ที่ยึดติดอยู่กับอำนาจ” ซึ่งโอบามายังแสดงความมั่นใจด้วยว่า “ผมมั่นใจว่า หากทุกประเทศทั่วโลกมีผู้นำเป็นผู้หญิง ภายในระยะเวลา 2 ปีจะเห็นการพัฒนาที่ดีขึ้นในทุกมิติอย่างคุณภาพชีวิตและอื่น ๆ
นายโอบามายังได้กล่าวเตือนถึงผู้นำทั่วโลกที่กำลังมัวเมาในอำนาจว่า “เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับผู้นำทางการเมืองที่จะต้องพยายามเตือนตัวเองว่า คุณเข้ามาเพื่อทำงาน แต่คุณไม่ได้เข้ามาเพื่ออยู่ในอำนาจตลอดชีวิต และคุณไม่ได้เข้ามาเพื่อที่จะยกระดับความคิดหลงตัวเองหรือเพิ่มอำนาจของตัวเอง”
นอกจากนี้ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐยังแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นเรื่องการแยกทัศนคติทางการเมืองออกเป็นสองขั้ว (political polarisation) และการกระจายข่าวเท็จผ่านสื่อโซเชียลมีเดียอีกด้วย
การแสดงความคิดเห็นของอดีตประธานาธิบดีโอบามาครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาการคัดเลือกตัวแทนของพรรคเดโมแครต เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งในศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบสหรัฐปลายปี 2020 ซึ่งมีแคตดิเดตหลายรายกำลังแข่งขันหาเสียสนับสนุนกันอย่างดุเดือดไม่ว่าจะเป็น “โจ ไบเดิน” อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และยังมีผู้หญิงอย่าง “เอลิซาเบธ วาร์เรน” และ “เอมี่ โคละบชาร์” วุฒิสภาสหรัฐที่ลงชิงตำแหน่งผู้แแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วย