นินเทนโดกำไรพุ่ง 3 เท่า อานิสงส์คนอยู่บ้านช่วงโควิด-19 ระบาด

“นินเทนโด” โตสวนเศรษฐกิจโลก กำไรครึ่งปีแรกโตขึ้น  3 เท่า อานิสงส์ล็อกดาวน์คนอยู่บ้าน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า วันนี้ (5 พ.ย. 2563) บริษัท “นินเทนโด” (Nintendo) ผู้ผลิตวิดีโอเกมสัญชาติญี่ปุ่น เจ้าของเกมซูเปอร์มาริโอและโปเกมอน รายงานผลประกอบการครึ่งแรกของปีงบประมาณนี้ (เม.ย. – ก.ย. 2563) มีกำไรเพิ่มขึ้น 3 เท่า มาอยู่ที่ 2.13 แสนล้านเยน (2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว มีกำไร 6.2 หมื่นล้านเยน เป็นผลจากมาตรการล็อกดาวน์คนอยู่บ้านเล่นเกมช่วงโควิด-19 ระบาด

โดยยอดขายช่วง 6 เดือนแรกพุ่งสูงถึง 7.69 แสนล้านเยน (7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 4.44 แสนล้านเยน

นินเทนโดระบุว่า ซอฟต์แวร์เกม Super Mario 3D All-Stars สำหรับ “นินเทนโด สวิทช์” (เครื่องเล่นเกมเจนล่าสุดของบริษัท) ขายได้มากกว่า 5 ล้านเครื่อง และซอฟต์แวร์เกม Paper Mario: The Origami King ขายได้เกือบ 3 ล้านยูนิตในช่วงดังกล่าว

นอกจากนั้น ซอฟต์แวร์เกมที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้อย่าง Animal Crossing: New Horizons ก็สามารถทำยอดขายได้ 26 ยูนิตทั่วโลก ส่วนยอดดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เกมออนไลน์ และยอดขายเครื่องเล่นเกมพกพาก็ทำได้ดีเช่นกัน

นินเทนโดกล่าวว่า บริษัทคาดหวังผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทมีคิวที่จะปล่อยเกมฮิตเวอร์ชั่นล่าสุด เช่น Pikmin 3 Deluxe ภายในปีนี้

ทั้งนี้ นินเทนโดได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ผลกำไรปีงบประมาณนี้ (เม.ย. 2563 – มี.ค. 2564) เป็น 3 แสนล้านเยน (2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ 2 แสนล้านเยน (1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งการคาดการณ์กำไรล่าสุดนี้เพิ่มขึ้น 16% จากกำไรที่บริษัททำได้ 2.59 แสนล้านเยนในปีงบประมาณที่แล้ว

ขณะที่เมื่อ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา “โซนี คอร์ป” ก็แจ้งว่ากลุ่มธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และความบันเทิง ที่มีธุรกิจผลิตเกมภายใต้แบรนด์ PlayStation มีผลกำไรไตรมาสที่ผ่านมาเป็นบวกเช่นกัน

แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมากซึ่งรวมถึงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นด้วย แต่ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์และความบันเทิงในญี่ปุ่นกำลังรุ่งเรือง