เมแกน จัดหนักราชวงศ์อังกฤษ เหยียดผิว-โป้ปด ปมขัดแย้ง “เคท”

เมแกนจัดหนักราชวงศ์อังกฤษ
REUTERS/File Photo

“เมแกน” พระชายาของเจ้าชายแฮร์รี กล่าวหาว่าราชวงศ์อังกฤษเหยียดสีผิว โกหก และเป็นเหตุให้เธออยากฆ่าตัวตาย เธอเผยเรื่องนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ ซึ่งดูเหมือนจะสร้างความสั่นคลอนให้กับสถาบันกษัตริย์ของอังกฤษ

วันที่ 8 มีนาคม 2564 รอยเตอร์ส รายงานว่า เมแกน มาร์เคิล อายุ 39 ปี ซึ่งมีแม่เป็นคนผิวดำ กล่าวว่า เธอเคยเป็นคนไร้เดียงสา ก่อนจะเข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายแฮร์รี และกลายเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ เมื่อปี 2561 แต่สุดท้ายเธอก็มีความคิดอยากจะฆ่าตัวตายและทำร้ายตัวเอง หลังจากวิงวอนขอความช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย

เธอเล่าด้วยว่า ลูกชายของเธอคือ “อาร์ชี” ซึ่งขณะนี้มีอายุ 1 ขวบ ถูกปฏิเสธไม่ให้รับตำแหน่งเจ้าชาย เนื่องจากราชวงศ์อังกฤษมีความกังวลว่าผิวของเขาจะคล้ำแค่ไหน

“พวกเขาไม่ต้องการให้อาร์ชีเป็นเจ้าชาย” เมแกนกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ “โอปราห์ วินฟรีย์” ออกอากาศทางสถานีซีบีเอส เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เธอกล่าวด้วยว่า มีบทสนทนาเกี่ยวกับสีผิวของอาร์ชีว่าเขาจะผิวคล้ำแค่ไหน เมื่อตอนที่เขาเกิด

เมแกนปฏิเสธที่จะบอกว่าใครเป็นเป็นผู้ที่แสดงความกังวลเรื่องสีผิวของอาร์ชี ขณะที่เจ้าชายแฮร์รีทรงเผยว่าถูกครอบครัวตัดขาดความช่วยเหลือทางการเงิน ส่วนพระบิดาคือ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ทรงทำลายความรู้สึกของพระองค์ และเมื่อถึงจุดหนึ่งเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงปฏิเสธที่จะรับสายจากพระองค์

สำนักพระราชวังบักกิงแฮมยังไม่ได้แสดงความเห็นต่อสาธารณะเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ซึ่งได้ออกอากาศในช่วงเช้าตรู่วันจันทร์ในอังกฤษ

เมแกนยังกล่าวหาว่าราชวงศ์อังกฤษไม่เอาใจใส่และโป้ปด อีกทั้งยังกล่าวหาเคท พระชายาของเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐาของเจ้าชายแฮร์รี ว่าเป็นผู้ทำให้เธอร้องไห้ก่อนเข้าพิธีเสกสมรส

แต่ถึงแม้เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนจะวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์อังกฤษอย่างเปิดเผย ไม่เว้นแม้แต่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ทว่าทั้งคู่กลับไม่กล่าวโจมตีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยตรง

ถึงกระนั้น เมแกน ยังกล่าวว่า เธอถูกปิดปากโดย “สถาบัน” ซึ่งมีควีนเอลิซาเบธเป็นประมุข และกล่าวว่าเธอได้ร้องขอความช่วยเหลือขณะที่ที่ตัวเองตกอยู่ในความทุกข์ทรมานจากการถูกเหยียดผิว แต่ด้วยสถานการณ์ของเธอ ทำให้เธอต้องทำหูทวนลม

“ฉันไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไป นั่นเป็นความคิดที่ชัดเจน เป็นจริง และน่ากลัว ฉันจำได้ดีว่าแฮร์รีดูแลฉันได้ดีแค่ไหน” เธอกล่าวพร้อมกับเช็ดน้ำตา

ผิดหวังจริง ๆ

การประกาศของแฮร์รีและเมแกนเมื่อเดือนมกราคม 2563 ว่า ทั้งคู่มีความตั้งใจจะถอยห่างจากบทบาทของสมาชิกราชวงศ์ ทำให้ราชวงศ์ตกอยู่ในวิกฤต เมื่อเดือนที่แล้วสำนักพระราชวังบักกิงแฮมยืนยันว่าการแยกทางครั้งนี้จะเป็นไปอย่างถาวร เนื่องจากทั้งคู่ดูเหมือนจะพยายามสร้างชีวิตที่อิสระในสหรัฐอเมริกา

แฮร์รี พระชนมายุ 36 พรรษา กล่าวว่า พระองค์และพระชายาได้ถอยห่างจากพระราชกรณียกิจ เนื่องด้วยความไม่เข้าใจ และพระองค์ทรงกังวลว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ซึ่งเป็นการอ้างถึงการสิ้นพระชนม์ของพระมารดาคือ “ไดอาน่า” เมื่อปี 2540

“ผมรู้สึกผิดหวังจริง ๆ” เจ้าชายแฮร์รีกล่าวถึงพระบิดา “ครอบครัวของผมตัดขาดผมทางการเงินอย่างแท้จริง” พร้อมกับระบุว่ามีช่วงหนึ่งที่พระบิดาไม่รับสายของพระองค์

“ผมได้สนทนากับพระอัยยิกา 3 ครั้ง สนทนากับพระบิดา 2 ครั้ง ก่อนที่พระบิดาจะหยุดรับสายจากผม” เจ้าชายแฮร์รีเล่า พร้อมกับถามพิธีกรว่า คุณจะเขียนทั้งหมดนี้หรือไม่

ฝั่งที่ไม่สนับสนุนคู่รักราชวงศ์คู่นี้มองว่าทั้งคู่ต้องการความเย้ายวนจากยศถาบรรดาศักดิ์ ทว่าไม่ต้องการอุทิศตัวปฏิบัติพระราชกรณียกิจหรือตรวจสอบในสิ่งที่ได้มา

ส่วนฝั่งที่สนับสนุนมองว่าการปฏิบัติตนของทั้งคู่แสดงให้เห็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ล้าหลังของอังกฤษ กำลังต่อต้านผู้หญิงที่มีความทันสมัยและเป็นลูกครึ่ง ด้วยการเหยียดผิวของเธอ

REUTERS THIS IMAGE HAS BEEN SUPPLIED BY A THIRD PARTY.

คำโกหกและน้ำตา

อย่างไรก็ตาม เมแกนเองก็ถูกกล่าวหาว่ากดขี่ข่มเหงข้าราชบริพาร ซึ่งปรากฏเป็นรายงานครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ เดอะ ไทม์ส ขณะที่สำนักพระราชวังบักกิงแฮมเผยว่า จะดำเนินการตรวจสอบข้อกล่าวหา พร้อมระบุเพิ่มเติมว่ามีความกังวลอย่างมาก

เพื่อตอบโต้รายงานนี้ โฆษกของเมแกน เผยว่า เมแกนรู้สึกเสียใจกับการถูกโจมตีครั้งล่าสุด เนื่องจากเธอเองก็ตกเป็นเหยื่อของการกดขี่ข่มเหงมาโดยตลอด

เมแกนกล่าวกับวินฟรีย์ว่า ผู้คนในสถาบันของราชวงศ์ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการปกป้องเธอจากข้อกล่าวหาที่มุ่งร้าย แต่ยังโกหกเพื่อปกป้องผู้อื่นอีกด้วย

“เมื่อเราแต่งงานกัน และทุกอย่างเริ่มแย่ลงมาก ฉันเข้าใจว่าไม่ใช่แค่เรื่องที่ฉันไม่ได้รับการปกป้อง แต่พวกเขาเต็มใจที่จะโกหกเพื่อปกป้องสมาชิกคนอื่น ๆ ในราชวงศ์ด้วย” เมแกนกล่าว

“ที่นั่นมีครอบครัว และมีคนที่บริหารสถาบัน ซึ่งเป็นสองสิ่งที่แยกออกจากกัน สิ่งสำคัญคือต้องสามารถบริหารทั้งสองสิ่งแยกจากกันได้ นั่นเป็นเพราะสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ พระองค์ทรงยอดเยี่ยมมากสำหรับฉัน”

เมแกนปฏิเสธรายงานที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ที่ว่าเธอทำให้เคท ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ร้องไห้ ก่อนพิธีเสกสมรส และกล่าวว่านี่เป็นจุดเปลี่ยนในความสัมพันธ์ของเธอกับสื่อ

เมื่อถูกถามว่าเธอทำให้เคทร้องไห้จริงหรือไม่ เมแกนตอบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันตรงกันข้ามเลย

“ไม่กี่วันก่อนวันแต่งงาน เธอ (เคท) รู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง เกี่ยวกับชุดเด็กโปรยดอกไม้ และมันทำให้ฉันร้องไห้ มันทำร้ายความรู้สึกของฉันจริง ๆ”

เมแกนกล่าวว่า เธอไม่รู้ว่าเธอกำลังแต่งงานกับอะไร เมื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ

“ฉันจะบอกว่า ฉันเข้าไปในนั้นอย่างไร้เดียงสา เพราะฉันไม่ได้เติบโตมาอย่างคนที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์มากนัก” เมแกนกล่าว

เธอยังชี้แจงด้วยว่า เธอไม่ได้รับค่าจ้างจากการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้