สี จิ้นผิง – โจ ไบเดน นัดประชุมสัปดาห์หน้า ฟื้นสัมพันธ์สหรัฐ-จีน

ผู้นำจีน-สหรัฐฯ จ่อประชุมสัปดาห์หน้า

“สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน ประกาศว่า จีนพร้อมที่จะจัดการความแตกต่างร่วมกับสหรัฐ ก่อนการประชุมกับ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่คาดว่าจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า 

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 แหล่งข่าวเผยกับ ซีเอ็นเอ็น ว่า การประชุม ซึ่งจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่ไบเดนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามยังไม่มีการกำหนดรายละเอียดและวันที่แน่นอน

ทั้งนี้ บลูมเบิร์กเป็นสื่อแรกที่รายงานข่าวการประชุมระหว่างผู้นำสองประเทศมหาอำนาจ

รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากผู้นำจีนกล่าวเป็นนัยถึงความสัมพันธ์ที่ร้อนระอุขึ้นเล็กน้อยระหว่างจีนกับสหรัฐ ตามคำแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐเมื่อวันอังคาร

ในคำแถลงดังกล่าว สีกล่าวว่าจีนตั้งใจที่จะยกระดับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในทุกภาคส่วนกับสหรัฐ และนำความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

“ฉิน กัง” เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐ อ่านข้อความในเอกสารนี้ที่งานเลี้ยงอาหารค่ำของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยความสัมพันธ์จีนของสหรัฐ ในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันอังคาร

เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า พวกเขาได้บรรลุข้อตกลงในหลักการกับจีน เพื่อจัดการประชุมเสมือนจริงระหว่างไบเดนกับสีก่อนช่วงสิ้นปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะสร้างความมั่นคงในความสัมพันธ์ ที่มีความสำคัญและเต็มไปด้วยปัญหามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ข้อตกลงเบื้องต้นดังกล่าวเป็นผลจากการประชุมที่นิวซีแลนด์ ระหว่าง “เจค ซัลลิแวน” ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน และ “หยาง เจียฉี” นักการทูตระดับสูงของจีน ไม่กี่วันหลังทางการจีนส่งเครื่องบินรบจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ไปยังเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน

“วิกเตอร์ ชิห์” ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองระดับสูงของจีน จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในเชิงบวก

“ผมคิดว่าการประชุมทวิภาคีในสัปดาห์หน้าเป็นสัญญาณเริ่มต้นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนกำลังจะกลับสู่เส้นทางปกติ มากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในยุคของทรัมป์” ชิห์กล่าวกับซีเอ็นเอ็น

“การประชุมมีแนวโน้มที่จะกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งจีน ตั้งแต่กระทรวงการต่างประเทศถึงกระทรวงพาณิชย์ ให้กลับมามุ่งเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนอีกครั้ง และคิดหาวิธีการปรับปรุงแก้ไข”

ไบเดนและสีได้พูดคุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนกันยายน ผ่านการโทรศัพท์เป็นเวลาประมาณ 90 นาที

ประกาศจากทำเนียบขาวระบุว่า ผู้นำทั้งสองจะมีการหารือในเชิงยุทธศาสตร์อย่างกว้างขวาง พวกเขาจะพูดคุยกันในเรื่องผลประโยชน์ร่วม ส่วนได้เสีย ค่านิยม และมุมมองที่แตกต่าง

“พวกเขาตกลงที่จะมีส่วนร่วมในประเด็นปัญหาของทั้งสองฝั่งอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา การหารือครั้งนี้ประธานาธิบดีไบเดนระบุไว้ชัดเจนว่า เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของสหรัฐที่จะจัดการการแข่งขันระหว่างสหรัฐและสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วยความรับผิดชอบ”

เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงรายหนึ่งบรรยายถึงน้ำเสียงของการโทรศัพท์พูดคุยระหว่างผู้นำทั้งสองว่า เป็นไปอย่างให้เกียรติ สนิทสนม และตรงไปตรงมา

ผู้นำทั้งสองยังได้พูดคุยกันเป็นเวลาสองชั่วโมงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการโทรศัพท์พูดคุยครั้งแรก หลังไบเดนเข้ารับตำแหน่ง

“มันเป็นการสนทนาที่ดี ผมรู้จักเขาดี เราใช้เวลาร่วมกันมานานหลายปี ตั้งแต่ผมยังเป็นรองประธานาธิบดี แต่คุณรู้ไหม ? หากเราไม่เคลื่อนไหว พวกเขาก็จะเอาชนะเราได้” ไบเดนกล่าวในเวลานั้น โดยสรุปถึงความพยายามของจีนในการลงทุนด้านรถไฟและการขนส่งอื่น ๆ

สีไม่ได้เดินทางออกจากจีนเป็นเวลา 21 เดือนแล้ว หลังมีการเคลื่อนไหวเพื่อกระชับพรมแดนของประเทศเพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด เขาไม่ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม รวมถึงการประชุมสภาพอากาศ COP26 ในสกอตแลนด์ในเดือนนี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไบเดนวิจารณ์สีเรื่องที่ไม่เข้าร่วมการประชุม COP26 โดยกล่าวว่าสีได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่

การไม่ปรากฏตัวบนเวทีระดับโลกของสี เป็นที่เข้าใจในหมู่ผู้นำโลกว่า นอกจากผู้นำจีนจะต้องการมุ่งแก้ปัญหาภายในประเทศแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงการล่าถอยจากความร่วมมือระดับโลกด้วย