เยอรมนีล็อกดาวน์คนไม่ฉีดวัคซีนทั่วประเทศ หวั่นคริสต์มาสป่วยหนักพุ่ง

เยอรมนีล็อกดาวน์คนไม่ฉีดวัคซีน
John MacDougall/Pool via REUTERS

เยอรมนีประกาศล็อกดาวน์คนไม่ฉีดวัคซีน ขณะที่ผู้นำสนับสนุนแนวคิดการบังคับฉีดวัคซีน ซึ่งหากผ่านการโหวตในรัฐสภา จะมีผลบังคับใช้เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เยอรมนีประกาศล็อกดาวน์ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ขณะที่ผู้นำประเทศสนับสนุนแผนการออกคำสั่งให้ประชาชนฉีดวัคซีนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ประชาชนในเยอรมนีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะถูกห้ามไม่ให้เข้าสถานประกอบการที่จำเป็นต่าง ๆ เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายยา เพื่อยับยั้งการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้จะไม่ครอบคลุมผู้ที่เพิ่งหายจากโควิด

“อังเกลา แมร์เคิล” นายกรัฐมนตรีเยอรมนีที่กำลังจะหมดวาระอย่างเป็นทางการ และผู้ที่จะมารับไม้ต่อจากเธอคือ “โอลาฟ โชลซ์” ได้ประกาศมาตรการนี้เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หลังมีการหารือร่วมกับผู้นำแคว้นต่าง ๆ

ทั้งคู่ยังสนับสนุนข้อเสนอเรื่องการออกคำสั่งให้ฉีดวัคซีน ซึ่งหากมีการโหวตผ่านในรัฐสภา คำสั่งนี้จะมีผลเร็วสุดในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

ภายใต้ข้อจำกัดที่เข้มงวด ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนสามารถพบปะคนจากครอบครัวอื่นได้เพียง 2 คนเท่านั้น นอกจากนี้ หากพื้นที่ใดมีผู้ติดเชื้อเกิน 350 คนต่อประชากร 100,000 คน บาร์และไนต์คลับจะถูกปิดเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ ส่วนการจัดอีเวนต์ใหญ่ ๆ เช่น การแข่งขันฟุตบอล จะมีการจำกัดจำนวนผู้ชมในสนาม

การประกาศมาตรการครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างที่เยอรมนีต้องรับมือกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้ยุโรปกลับไปเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด นอกจากนี้ยังมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่เพิ่งค้นพบล่าสุด

การแถลงสถานการณ์โควิดในเยอรมนีครั้งนี้ยังถือเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่แมร์เคิลจะอำตำแหน่ง ปิดฉากการเป็นผู้นำเยอรมนีนาน16 ปี

“เราเข้าใจว่าสถานการณ์นี้ร้ายแรงมาก และเราต้องการมาตรการเสริมที่เพิ่มเติมจากมาตรการที่มีอยู่” แมร์เคิลกล่าวกับผู้สื่อข่าวและว่า “การระบาดระลอกสี่จำเป็นต้องยุติ แต่ตอนนี้มันยังไม่สำเร็จ”

อังเกลากล่าวด้วยว่า การออกคำสั่งให้ประชาชนทั่วประเทศฉีดวัคซีน อาจมีผลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 หลังจากมีการอภิปรายในรัฐสภา และมีคำแนะนำจากสภาจริยธรรมของเยอรมนี

เธอยังกล่าวเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว จะสูญเสียสถานะการฉีดวัคซีนใน 9 เดือนหลังฉีดวัคซีนเข็มสุดท้าย

มาตรการสกัดโควิดในยุโรป

หากรัฐสภาเยอรมนีเห็นชอบกับคำสั่งฉีดวัคซีน เยอรมนีจะเดินตามรอยเพื่อนบ้านอย่างออสเตรีย ซึ่งวางแผนใช้มาตรการบังคับฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป

ส่วนประเทศอื่น ๆ เช่นกรีซ ประกาศว่าจะบังคับฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า หากใครปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีนจะถูกปรับเป็นเดือนละ 100 ยูโร (ประมาณ 3,816 บาท)

“อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน” ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องคิดเรื่องการบังคับฉีดวัคซีนในสหภาพยุโรป ระหว่างที่ยุโรปเผชิญการระบาดระลอกสี่ ท่ามกลางความกังวลเรื่องสายพันธุ์โอไมครอนที่เพิ่งค้นพบในแอฟริกาใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งเยอรมนีและออสเตรียจัดอยู่ในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำที่สุดในยุโรปตะวันออก โดยมีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนประมาณ 65-68%

สถานการณ์โควิดในเยอรมนี

เยอรมนีมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคทางตะวันออกของประเทศ เยอรมนีมีผู้เสียชีวิตจากโควิดมากถึง 446 คนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นจำนวนการเสียชีวิตที่มากสุดในรอบ 9 เดือน

โรงพยาบาลจำนวนมากกำลังรับมือกับตัวเลขผู้ป่วยหนักที่กำลังพุ่งขึ้น คาดว่าผู้ป่วยอาการหนักจะพุ่งแตะ 6,000 คนในช่วงคริสต์มาส หากไม่มีการบังคับใช้มาตรการใด ๆ

จนถึงขณะนี้เยอรมนีมีผู้เสียชีวิตจากโควิดแล้วกว่า 102,000 คน