สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่กำลังคุกรุ่นทำให้โลกที่ไม่เคยเผชิญความตึงเครียดนิวเคลียร์เช่นนี้มาก่อนนับตั้งแต่วิกฤตการณ์คิวบาในยุคสงครามเย็น จากการที่ชาติตะวันตกลอยแพธนาคารรัสเซียจากระบบชำระเงินระหว่างประเทศ
หรือ SWIFT ไม่ต่างจากการทิ้งบอมบ์นิวเคลียร์โจมตีต่อเศรษฐกิจรัสเซีย เมื่อชาติตะวันตกใช้มาตรการแรง ผู้นำรัสเซียโต้กลับด้วยการขู่กดปุ่มระเบิดนิวเคลียร์จริง ๆ
- มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล เปิดชื่อผู้ถือหุ้น-ผลประกอบการ
- จ่ายเงินประกันสังคมเท่าไร ม.33, 39, 40 พฤษภาคม 2567 เช็กที่นี่
- กรุงไทย เตือนลูกค้าอัพเดต Android เวอร์ชั่นล่าสุด ก่อนใช้แอปไม่ได้
ตลอดช่วง 2 ทศวรรษภายใต้เงา “ซาร์แห่งรัสเซียยุคใหม่” วลาดิมีร์ ปูติน ประสบความสำเร็จในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศให้กลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีบรรดาเศรษฐีรัสเซียเกิดใหม่ที่รวยระดับ billionaire ติดอันดับฟอร์บส์ถึง 117 ราย เรียกว่า Russian oligarch หรือกลุ่มทุนเศรษฐีที่ทรงอิทธิพลทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง
สงครามยูเครน ไม่เพียงทำให้ชาติตะวันตกคว่ำบาตรบรรดา Russian oligarch ที่แวดล้อมรอบตัวปูตินเท่านั้น ทั้งยังพุ่งเป้าไปที่การอายัดทรัพย์สินปูตินโดยตรง
อย่างไรก็ตาม หากดูจากการจัดอันดับเศรษฐีของฟอร์บส์จะพบว่าไร้ชื่อของปูติน ในโผคนรวยสุดของประเทศ แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตมานานถึงความมั่งคั่งของเขา
ข้อมูลเป็นทางการของทำเนียบเครมลินระบุว่า ปูตินมีรายได้ในฐานะผู้นำรัสเซียราว 140,000 ดอลลาร์ต่อปี และมีอสังหาริมทรัพย์เป็นห้องชุดหนึ่งห้องใจกลางกรุงมอสโก
ทว่า ข้อมูลจากหน่วยสืบราชการลับหลายแห่ง เชื่อว่าปูตินมีทรัพย์สินที่ซุกอยู่มูลค่าไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งนั่นพอ ๆ กับเศรษฐีเบอร์ต้นของโลกอย่าง “อีลอน มัสก์”
พระราชวังปูติน (Putin Palace) ได้กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก เมื่อนายอเล็กซี นาวัลนีย์ ฝ่ายค้านอริปูตินออกมาแฉถึงขนาดความใหญ่โตหรูหราของคฤหาสน์หรูริมทะเลดำบนเนื้อที่ขนาดใหญ่ ที่มูลค่าน่าจะไม่น้อยกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
โดยเจ้าของวังหรูแห่งนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือ “ผู้นำรัสเซีย” ไม่เพียงแค่วังหรู ยังมีการเปิดเผยว่าปูตินยังเป็นเจ้าของเรือยอชต์ชื่อ Graceful ความยาว 82 เมตร ซึ่งน่าสังเกตว่าเรือยอชต์ลำนี้ได้แล่นออกจากเยอรมนีไปรัสเซียไม่กี่สัปดาห์ก่อนสงครามยูเครนปะทุ
“เซอร์เกย์ โคเลสนิคอฟ” หนึ่งในคนใกล้ชิดปูตินเคยเขียนจดหมายเปิดผนึกว่า ปูตินซึ่งขณะนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีกำลังสร้างอสังหาฯ บนที่ดินขนาดใหญ่ริมทะเลดำที่มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ที่รวบรวมได้จากการ “ทุจริต ติดสินบน และการยึดทรัพย์”
เพื่อเป็นสมบัติสำหรับการใช้งานของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่ปูตินกลับมาครองอำนาจสูงสุด ทำเนียบเครมลินพยายามสร้างภาพว่าปูตินเป็นผู้นำเรียบง่าย ชอบใช้ชีวิตพักผ่อนแคมปิ้งตกปลาในป่าแถบไซบีเรีย ทั้งปฏิเสธการเป็นเจ้าของวังหรูใด ๆ
ข้อมูลเบื้องลึกยังพบว่า ปูตินเป็นเจ้าของเพนต์เฮาส์หรูมูลค่า 4.1 ล้านดอลลาร์ในโมนาโก เป็นการซื้อและครอบครองผ่านบริษัทนอกอาณาเขต (offshore) ภายใต้ชื่อของแฟนสาวคนหนึ่ง
อีกทั้งยังมีชาโตหรูทางใต้ของฝรั่งเศสที่เชื่อมโยงกับ “ลุดมีลา ปูตินา” อดีตภรรยาที่หย่าร้างกันเมื่อ 2014 นั่นคือข้อมูลตะวันตกพอจะรู้เกี่ยวกับทรัพย์สินของปูติน อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียคือ ไม่มีทรัพย์สินใดที่จะพิสูจน์ได้ว่าเชื่อมโยงกับปูตินโดยตรง
พอล มาสซาโร ที่ปรึกษาอาวุโสสภาคองเกรสด้านการคว่ำบาตรรัสเซีย กล่าวว่า การคว่ำบาตรมีผลเพียงแค่คนใกล้ชิดปูตินเท่านั้น ไม่ชัดเจนว่ากระทบต่อทรัพย์สินของปูตินมากน้อยเพียงใด ในบรรดาคนใกล้ชิดปูตินที่กระทบ จำนวนนี้นายเกนนาดี ทิมเชนโก มหาเศรษฐีผู้รวยอันดับ 6 ของรัสเซีย
ทั้งนี้ ตัวเลขความรวยของปูตินที่ว่าอยู่ในหลัก “แสนล้านดอลลาร์” นั้นไม่ได้ประเมินขึ้นลอย ๆ ย้อนไปในปี 2005 นายบิล บราว์เดอร์ นักการเงินที่เคยทำธุรกิจกับกลุ่มคนร่ำรวย ทรงอิทธิพลของรัสเซีย
จนมีปัญหาและถูกเนรเทศออกจากรัสเซีย เคยขึ้นให้การกับสภาคองเกรสว่าปูตินอาจมีทรัพย์สินกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งหากจริงนับว่าเป็นบุคคลผู้รวยสุดของโลกในเวลานั้น
แอนเดรส แอสลุนด์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ และผู้เขียนหนังสือ “Russia’s Crony Capitalism” ปี 2019 ประมาณการความรวยของปูตินราว 125,000 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างหลักฐานที่เชื่อได้ว่าปูตินซุกสมบัติเหล่านี้ผ่านบริษัท offshore ภายใต้ชื่อคนใกล้ชิดหลายคน
ในเอกสารลับ “ปานามา เปเปอร์ส” ที่แฉการถือครองทรัพย์สินนอกชายฝั่งของคนดังมากมาย พบว่า ในบรรดารายชื่อที่ปรากฏนี้มีบุคคลใกล้ชิดปูตินมากมาย เช่นเดียวกับ “แพนดอร่าเปเปอร์ส” ที่พบว่าแฟนสาวปูตินเป็นเจ้าของเพนต์เฮาส์หรูหลายแห่งในโมนาโกด้วยเงินสดมูลค่ารวมกันไม่น้อยกว่า 100 ล้านดอลลาร์
เนท ซิบลีย์ นักวิจัยจากสถาบันฮัดสัน กล่าวว่า ไม่สำคัญว่าปูตินจะร่ำรวยมหาศาลเพียงใด เพราะสถานะของเขาไม่ต่างจากผู้นำคนดังอย่างคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือ หรือกัดดาฟี แห่งลิเบีย ซึ่งเป็นเผด็จการผู้ครอบครองทุกอย่าง