รัสเซียโต้กลับมาตรการแซงก์ชั่น ห้ามส่งออกชาติอริ ยึดกิจการที่ปิดสาขา

มาตรการแซงก์ชั่น
FILE - Small number of visitors walk inside the GUM department store in Moscow. (AP Photo, File)

หลังจากถูกนานาประเทศรุมใช้ มาตรการแซงก์ชั่น อย่างหนัก รัฐบาลรัสเซียงัดแผนตอบโต้ด้วยการห้ามส่งออกสินค้าสำคัญไปยังประเทศที่พิพาทกันอยู่ในศึกยูเครน รวมถึงยึดกิจการสาขาของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้วย

วันที่ 11 มีนาคม 2565 บีบีซี รายงานว่า รัสเซียเริ่มตอบโต้ชาติตะวันตกที่ใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ หรือแซงก์ชั่นต่อรัสเซีย จากการยกทัพบุกยูเครน ด้วยการห้ามส่งออกสินค้าไปยังประเทศเหล่านี้ จนถึงสิ้นปี 2565 อีกทั้งยังจำกัดเรือต่างชาติที่เข้ามาเทียบท่าของรัสเซียอย่างเข้มงวด

“มาตรการเหล่านี้เป็นการตอบโต้อย่างสมควรแล้วกับประเทศที่แซงก์ชั่นรัสเซีย” กระทรวงเศรษฐกิจรัสเซียแถลง พร้อมให้รายละเอียดเพิ่มว่า ประเทศที่ถูกแบนครั้งนี้มีพฤติกรรมที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย ดังนั้นรัสเซียต้องไม่ให้กลไกสำคัญทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก

มาตรการแซงก์ชั่น
FILE – บรรยากาศเงียบเหงาในห้างสรรพสินค้ากุม (GUM) กลางกรุงมอสโก (AP Photo, File)

สินค้าส่งออกที่สำคัญของรัสเซีย ได้แก่ เทเลคอม ยา พาหนะ สินค้าเกษตร อุปกรณ์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์จากป่า รวมถึงไม้สัก

สำหรับประเทศที่ถูกรัสเซียขึ้นบัญชีว่าไม่เป็นมิตรมีอย่างน้อย 48 ประเทศ* รวมถึงสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป หรืออียูที่ใช้มาตรการแซงก์ชั่น ด้วยวิธีระงับการซื้อน้ำมันรัสเซียและอายัดทรัพย์มหาเศรษฐีที่ใกล้ชิด ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย

นายมิกฮาอิล มีชุสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า มาตรการห้ามส่งออกสินค้า มุ่งใช้กับบริษัทต่างชาติที่มีกิจการในรัสเซีย รวมถึงรถยนต์ ตู้รถไฟ และคอนเทนเนอร์

มาตรการแซงก์ชั่น
FILE – ชาวรัสเซียเข้าคิวถอนเงิน ที่ธนาคารอัลฟา กรุงมอสโก   (AP Photo/Victor Berzkin, File Photo)

ส่วนนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศ กล่าวในการแถลงข่าวที่ตุรกีว่า ประธานาธิบดีปูตินดูแลเศรษฐกิจอยู่ และจะนำพาให้ประเทศก้าวข้ามไปได้

“เราจะรับมือเรื่องนี้ เราเคยรับมือกับปัญหาความยากลำบากในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อมาหมดแล้วในประวัติศาสตร์ของเรา รัสเซียจะก้าวออกจากวิกฤตด้วยจิตใจและสติสัมปชัญญะที่ดีขึ้น”

“เราไม่ได้มีภาพลวงตาว่า ชาติตะวันตกเป็นหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้ พวกนั้นทรยศใครก็ได้ แม้แต่อุดมการณ์ของตัวเอง ผมบอกคุณให้มั่นใจได้เลยว่าเราจะรับมือได้ และจะทำทุกสิ่งที่ไม่ต้องขึ้นกับชาติตะวันตกไปตลอด ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดในชีวิตของเรา” 

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศรัสเซีย แถลงข่าวที่อันตัลยา ประเทศตุรกี เมื่อ 10 มี.ค. (AP Photo)

ด้าน บลูมเบิร์ก สื่อธุรกิจชั้นนำของสหรัฐรายงานว่า รัฐบาลรัสเซียจะยังยึดกิจการของประเทศตะวันตกและพันธมิตรชาติตะวันตกอื่นๆ ที่ปิดสาขากิจการ ร้านค้าต่างๆ ในรัสเซียไว้ชั่วคราว

หากเป็นไปตามนี้ จะตรงกับที่นายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียเตือนว่า ทรัพย์สินของบริษัทชาติตะวันตกที่ถอนออกไปจากรัสเซียจะถูกยึดไว้เป็นของรัฐ

สำหรับบริษัทที่ถอนการลงทุนและระงับกิจการสาขาต่างๆ ในรัสเซีย มีทั้งภาคอุตสาหกรรมเหมืองรายยักษ์ใหญ่ อย่าง เคเทอร์พิลลาร์ และริโอ ทินโต ไปจนถึงบริษัทที่มีสาขาแพร่หลายทั่วโลก อย่าง สตาร์บัคส์ แมคโดนัลด์ โซนี่ ยูนิลีเวอร์ โกลด์แมนแซกส์

People have a lunch a McDonald’s restaurant next to the Kremlin in Moscow on March 10, 2022. (Photo by AFP)

เมื่อวันพุธที่ 9 มี.ค. รัฐบาลรัสเซียอนุมัติการใช้กฎหมายที่จะนำไปสู่การยึดทรัพย์สินของบริษัทที่ถอนตัวจากรัสเซีย และมีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของอยู่เกิน 25% ตามนโยบายที่รัฐบาลจะเข้าควบคุมแทน

“รัฐบาลรัสเซียพร้อมจะดำเนินมาตรการ ที่มีทั้งการประกาศให้บริษัทเหล่านี้ล้มละลาย และยึดกิจการของต่างชาติมาเป็นของรัฐ”

“บริษัทต่างชาติต้องเข้าใจด้วยว่าการกลับเข้ามาตลาดของเราอีกจะเป็นเรื่องยาก หลังจากบรรดานักลงทุนสร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวรัสเซียที่ตอนนี้อาจสูญเสียการดำรงชีวิต” นายเมดเวเดฟกล่าวและว่า “บรรดาเจ้าของธุรกิจเหล่านี้มีเวลา 5 วันที่จะกลับมาเปิดกิจการ หรือต้องไปทางหนทางอื่น เช่น ขายหุ้น”

FILE – Women look at a screen displaying exchange rate at a currency exchange office in St. Petersburg, Russia, Tuesday, March 1, 2022. (AP Photo/Dmitri Lovetsky, File)

ตามแผนการนี้ ศาลกรุงมอสโกจะพิจารณาคำร้องของสมาชิกบอร์ดและอื่นๆ ที่จะนำผู้จัดการนอกบริษัทเข้ามาจัดการ ในที่นี้รวมถึงธนาคารเพื่อการพัฒนา VEB.RF และจากนั้นจะยึดหุ้นของบริษัทเหล่านี้ไว้เพื่อรักษาอสังหาริมทรัพย์และพนักงานไว้

“มาตรการเหล่านี้มุ่งขายสินทรัพย์มากกว่ายึดเข้าเป็นของรัฐ เพราะต้องการกระตุ้นให้กิจการที่อยู่ภายใต้การควบคุมของต่างชาติอย่าละทิ้งกิจกรรมต่างๆ ที่อยู่ในพรมแดนของรัสเซีย” กระทรวงเศรษฐกิจรัสเซียระบุ

…..

หมายเหตุ รายชื่อ 48 ประเทศ/ดินแดน ที่รัสเซียระบุว่า มีพฤติกรรมไม่เป็นมิตร ได้แก่ แอลเบเนีย อันดอร์รา ออสเตรเลีย แคนาดา สหภาพยุโรป (27 ประเทศ) ไอซ์แลนด์ ญี่ปุ่น ลิกเตนสไตน์ ไมโครนีเซีย โมนาโก มอนเตเนโกร นิวซีแลนด์ มาซิโดเนียเหนือ นอร์เวย์ ซานมารีโน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สวิตเซอร์แลนด์ ไต้หวัน ยูเครน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

……