เฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์

เฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนียร์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์
REUTERS/Eloisa Lopez

ลูกชายอดีตผู้นำเผด็จการที่ล่วงลับ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โดยมีคะแนนนำคู่แข่งมากกว่าสองเท่า

วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 เดอะการ์เดียนรายงานว่า “เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์” ลูกชายของ “เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส” อดีตผู้นำเผด็จการที่ล่วงลับ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์อย่างถล่มทลาย ซึ่งเป็นสัญญาณการกลับมาของหนึ่งในตระกูลการเมืองที่ฉาวโฉ่ที่สุดตระกูลหนึ่งของประเทศ

จากการนับคะแนนเบื้องต้นกว่า 90% ผลปรากฏว่า มาร์กอส จูเนียร์ ได้รับคะแนนเสียงเกือบ 30 ล้านเสียง ซึ่งมากกว่าคู่แข่งอย่าง “เลนี โรเบรโด” อดีตทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ได้รับ

ผู้สนับสนุนมาร์กอส จูเนียร์ พากันสวมชุดสีแดง ซึ่งเป็นสีประจำแคมเปญของเขา รวมตัวกันด้านหน้าสำนักงานใหญ่ในเมืองมันดาลูยองเมื่อคืนวันจันทร์ พร้อมโบกธงชาติฟิลิปปินส์

มาร์กอส จูเนียร์ กล่าวขอบคุณอาสาสมัครและผู้นำทางการเมืองที่ร่วมโหวตให้กับเขา แต่ระบุว่า ต้องรอจนกว่าจะชัดเจน จนกว่าจำนวนจะถึง 100% จึงจะสามารถเฉลิมฉลองได้

“ผมหวังว่าคุณจะไม่เบื่อที่จะไว้วางใจเรา” มาร์กอสกล่าวกับผู้สนับสนุนการสตรีมมิ่งบนเฟซบุ๊ก พร้อมเสริมว่า “เรามีสิ่งที่ต้องทำมากมาย” เขายังกล่าวด้วยว่า “ความพยายามที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคลเพียงคนเดียว”

มาร์กอส จูเนียร์ อายุ 64 ปี เอาชนะคู่แข่งด้วยสโลแกน “เราจะกลับมารวมกันอีกครั้ง” ซึ่งชวนให้คิดถึงระบอบเผด็จการของบิดา

นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ตระกูลมาร์กอสถูกขับไล่เมื่อปี 2529 ภายหลังการลุกฮือของประชาชนหลายล้านคน ที่รวมตัวกันต่อต้านการล่วงละเมิดที่ร้ายแรงและการทุจริต ซึ่งสูบเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากคลังเข้าสู่บัญชีส่วนตัวของครอบครัวมาร์กอส

แต่ 5 ปีต่อมา มาร์กอส จูเนียร์ และมารดาของเขา ได้เดินทางกลับฟิลิปปินส์ เขาเริ่มทำงานเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงครอบครัวกลับมา และวางแผนเพื่อก้าวขึ้นสู่ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง โดยได้รับตำแหน่งผู้นำที่สำคัญในระดับรัฐ ก่อนเข้าสู่การเมืองระดับชาติในฐานะสมาชิกวุฒิสภาในปี 2553

มาร์กอส กล่าวว่า เขาพยายามจะปกป้อง “ดูเตอร์เต” จากการดำเนินคดีในศาลระหว่างประเทศ ขณะที่หลายคนคาดว่ามาร์กอสจะรื้อถอนการสอบสวนและการดำเนินคดีที่ยังคงเป็นปัญหาต่อครอบครัวของเขา