ย้อนรอย 2 เหตุสลด นักบินฆ่าตัวตาย นำเครื่องพร้อมผู้โดยสารโหม่งโลก

germanwings
Photo by INA FASSBENDER / AFP

ข่าวรั่ว ถ้าไม่มั่วจะเรื่องใหญ่มาก ย้อนรอย 2 เหตุสลด นักบินจงใจนำเครื่องตก หลังข้อมูลกล่องดำชี้ 737 ไชน่าอีสเทิร์นถูกบังคับทิ้งดิ่ง

วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 กลายเป็นข่าวรั่วที่หากได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจะถือเป็น “เรื่องใหญ่” ที่สะเทือนแวดวงการบินของโลก และของจีน จากกรณีที่เว็บไซต์เดอะวอลล์สตรีต เจอร์นัล อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดในทีมสอบสวนเหตุการณ์ตกของ เครื่องบินโบอิ้งแบบ 737 ของสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MU5735 เส้นทางคุนหมิง-กว่างโจว ที่ประสบเหตุตกลงในพื้นที่ภูเขาเมืองอู๋โจว เขตปกครองตนเองมณฑลกว่างซีจ้วง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

ซึ่งทีมสอบสวนพบข้อมูลบันทึกการบินจากกล่องดำที่ ระบุว่า มีบางคนในห้องนักบินควบคุมให้เครื่องโบอิ้ง 737-800 ลำดังกล่าวตกสู่พื้นในลักษณะตั้งฉาก โดยพบการสูญเสียระดับความสูงแบบฉับพลัน เครื่องบินเสียอัตราความสูงหลายพันฟิตในเวลาไม่กี่วินาที

แหล่งข่าวของเดอะวอลล์สตรีต เจอร์นัลยังระบุด้วยว่า ด้วยข้อมูลจากกล่องดำดังกล่าว ทำให้ขณะนี้ทีมสอบสวนต่างมุ่งเป้าการสอบสวนไปที่อาจเป็นเหตุการตกที่เกิดจาก “การกระทำโดยเจตนา” รายงานข่าวของเดอะวอลล์สตรีต เจอร์นัล ยังสอดคล้องกับแหล่งข่าวของรอยเตอร์สที่ระบุตรงกันว่า ช่วงเวลาระหว่างเกิดเหตุ นักบินไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องซ้ำ ๆ จากผู้ควบคุมการจราจรทางอากาศและเครื่องบินใกล้เคียง แม้แต่ช่วงที่เครื่องบินสูญเสียระดับความสูงอย่างรวดเร็ว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังไม่อาจสรุปได้ชัดเจนว่าการชนดังกล่าวเป็นการกระทำ “โดยตั้งใจ” หรือไม่ แม้ว่าข้อมูลด้านสุขภาพและสถานะการเงินของนักบินจีนอยู่ในเกณฑ์ตามรายงานเบื้องต้นของหน่วยความปลอดภัยทางอากาศจีน หรือเหตุนี้อาจเป็นกรณีที่มีบุคคลที่สามบุกเข้าไปในห้องนักบินและทำให้เกิดอุบัติเหตุสลด ซึ่งหลังมีรายงานข่าวจากสื่อตะวันตก หน่วยงานจีนยังไม่มีท่าทีใดต่อรายงานข่าวดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ข้อสันนิษฐานที่รั่วจากวงในทีมสอบสวนนั่น หากท้ายที่สุดข่าวรั่วเกิดมีมูลความจริงขึ้นมา จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่สะเทือนวงการบินและทำให้จีนอาจต้องออกมาตรการเข้มยกเครื่องความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด เนื่องจากหลายปีก่อนเคยมีเหตุการณ์สุดสลดลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้ว

germanwings

เยอรมันวิงส์ ไฟล์ท 9525

ย้อนไป 24 มีนาคม 2015 เกิดเหตุการณ์สายการบินเยอรมันวิงส์ (German Wings) สายการบินต้นทุนต่ำในเครือลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบิน 9525 จากนครบาร์เซโลนา ของสเปน มุ่งหน้าไปยังเมืองดึสเซลดอล์ฟ ของเยอรมนี ทว่าระหว่างเครื่องทำการบินมาได้ครึ่งทาง ผ่านไปยังบริเวณเทือกเขาแอลป์ในเขตน่านฟ้าประเทศฝรั่งเศส จู่ ๆ เครื่องบินก็ค่อย ๆ ลดระดับลง จนต่ำกว่าแนวของเทือกเขาแอลป์ กระทั่งเที่ยวบิน 9525 พร้อมผู้โดยสาร 144 คน และลูกเรือ 6 คน เสียชีวิตทั้งลำ 150 ชีวิต

ด้วยสภาพแวดล้อมของจุดเกิดเหตุในเขต Prads-Haute-Bléone ของภูมิภาคแคว้นพรอว็องซาลป์โกตดาซูร์ บริเวณกลางเทือกเขาแอลป์ ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ทำให้ทีมสอบสวนของฝรั่งเศสเผชิญความยากลำบากในการค้นหากล่องดำของเครื่องแอร์บัส A320 กระทั่งทีมกู้ภัยพบกล่องดำทั้งสองที่บันทึกข้อมูลการบิน และข้อมูลการสื่อสารภายในห้องนักบิน ต้องพบกับเรื่องสุดช็อก

germanwings
Photo by INA FASSBENDER / AFP

เนื่องจากหลังออกเดินทางราว 52 นาที จู่ ๆ เครื่องบินก็ลดระดับลงอย่างรวดเร็วจากความสูง 38,000 ฟุต ลงเหลือ 5,000 ฟุต ภายในระยะเวลาเพียง 8 นาที โดยไม่ทราบสาเหตุ จนกระทั่งเครื่องบินดิ่งลงชนเทือกเขาแอลป์ในที่สุด ขณะที่หอบังคับการบินในเมืองมาร์กเซย์พยายามติดต่อกับนักบิน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ

จากการสอบสวน พบว่าเหตุการณ์นี้เป็นเจตนาทำให้เครื่องบินตกโดยนักบินผู้ช่วย นาย อันเดรียส ลูบิตซ์ ที่ตั้งใจปรับโหมดออโต้ไพลอตลดระดับการบินจนอยู่ต่ำกว่าระดับแนวเขา เป็นผลให้เครื่องบินประสบเหตุตก โดยเหตุการณ์นี้นายลูบิตซ์อาศัยช่วงจังหวะที่กัปตันออกไปเข้าห้องน้ำภายนอก

germanwings
Photo by NAMIBIAN POLICE / AFP

โดยเขาล็อกประตูห้องนักบินไม่ยอมให้กับตันที่อยู่ภายนอกเขามา เสียงบันทึกในห้องโดยสารจากกล่องดำ ได้เสียงเสียงพยายามกระแทกเพื่อพังประตูของกัปตัน ขณะที่ผู้ช่วยนักบินไม่ปริปากพูดแม้แต่คำเดียวกระทั่งเครื่องบินชนเทือกเขาแอลป์

เมื่อทีมสอบสวนย้อนประวัติด้านสุขภาพพบว่า นายลูบิตซ์เคยเข้ารับการรักษาอาการซึมเศร้าช่วงปลายปี 2008 เป็นเหตุให้ต้องหยุดการฝึกบินลงชั่วคราว แต่ต่อมาจิตแพทย์ได้ลงความเห็นว่าเขาหายจากอาการดังกล่าวแล้ว นายลูบิตซ์จึงได้รับอนุญาตให้กับมาฝึกบินได้อีกครั้งเดือน สิงหาคม 2009 จนสำเร็จหลักสูตรนักบินและได้ร่วมงานกับสารบินเยอรมันวิงส์ในฐานะพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน กระทั่งสามารถสอบใบอนุญาตนักบินพาณิชย์และเริ่มเป็นนักบินในปี 2014

โมซัมบิกแอร์ไลน์ เที่ยวบิน 470

อีกเหตุการณ์ที่น่าสลดเช่นกันคือกรณี สายการบิน แลม โมซัมบิกแอร์ไลน์ เที่ยวบิน 470 ซึ่งประสบเหตุตกกลางอุทยานแห่งชาติ Bwabwata ในนามิเบีย เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2013 เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 33 คนเสียชีวิตทั้งลำ

สำหรับเที่ยวบิน 470 เป็นเครื่องบินแบบ Embraer E190 เดินทางจากโมซัมบิก ไปยังประเทศแองโกลา โดยหลังเครื่องบินเดินทางออกจากสนามบินโมซัมบิกได้ราวครึ่งทาง ระหว่างอยู่เหนือน่านฟ้าบอตสวานบนความสูง 38,000 ฟุต จู่ ๆ เครื่องบินก็ค่อย ๆ ลดระดับลง หอบังคับการบินพยายามติดต่อนักบิน แต่ก็ไร้การตอบกลับ กระทั่งหายจากจอเรดาห์ตกลงในเขตอุทยานแห่งชาติของนามิเบีย

ผลการสอบสวนพบว่า เหตุสลดนี้เป็นฝีมือของกัปตัน เฮอร์มินิโอ ดอส ซังตูช เฟอร์นานเดส เป็นผู้ควบคุมเครื่องให้ค่อย ๆ ลดระดับจนตกกระแทกพื้น ทีมสอบสวนพบข้อมูลด้านครอบครัวที่พบว่า กับตันเฟอร์นานเดส แม้จะมีประวัติการทำงานในฐานะนักบินทีดีมาโดยตลอด

แต่ที่ก่อเหตุสลดนี้มาจากปัญหาส่วนตัวในครอบครัว ลูกชายเขาเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในเดือนเดียวกันนี้เมื่อปีก่อน ขณะที่ลูกสาวยังคงอยู่ในโรงพยาบาลเนื่องจากต้องผ่าตัดหัวใจ ขณะที่คดีการฟ้องหย่ากับอดีตภรรยาไม่มีความคืบหน้า โดยวันที่ก่อเหตุนั้น ใกล้วันครบรอบ 1 ปีที่ลูกชายของเขาจากไป

ทีมสอบสวนซึ่งมีนักจิตวิทยาร่วมด้วย ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ในช่วงไม่กี่นาทีสุดท้าย กัปตันเฟอร์นานเดสเหมือน “ลังเล” และ “ใคร่ครวญทบทวน” การกระทำของตนเอง เนื่องจากมีการปรับระดับความสูงของเครื่องบินในหลายครั้ง และเช่นเดียวกับกรณีเยอรมันวิงส์ กัปตันได้อาศัยจังหวะที่ผู้ช่วยนักบินออกไปเข้าห้องน้ำ ล็อกประตูห้องนักบินก่อนก่อเหตุสลดดังกล่าว

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11 เครื่องบินทุกรุ่นที่ผลิตหลังจากนั้นล้วนได้รับการอัพเกรดประตูห้องนักบินที่มีความแข็งแรงมากเพื่อป้องกันเหตุจี้เครื่องบิน จากทั้งสองกรณีจึงเป็นคำอธิบายว่าเหตุใดจึงไม่สามารถทำลายประตูห้องนักบินได้