สตาร์ตอัพเอเชีย ทยอยปลดพนักงาน คนวงในประเมินเพิ่งเริ่มต้น

สตาร์ตอัพในเอเชียเริ่มไล่พนักงานออก
ภาพจาก Freepik

สตาร์ตอัพเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปลดพนักงานต่อเนื่อง คนในอุตสาหกรรมประเมิน นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น

วันที่ 23 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเว็บไซต์ ซีเอ็นบีซี กล่าวถึงกรณีพนักงานจำนวนกว่า 100 รายจากบริษัทสตาร์ตอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกไล่ออกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมที่โตเร็วแบบนี้ก็ยังไม่รอดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มีบริษัทด้านเทคโนโลยีอย่างต่ำ 6 แห่งที่เลิกจ้างพนักงาน รวมทั้ง ซี ลิมิเต็ด เจ้าของช้อปปี้ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจากสิงคโปร์

นักลงทุนด้านเทคโนโลยีกล่าวว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการเลิกจ้างพนักงานในสายงานนี้ เช่นเดียวกับอัตราการเติบโตที่น่าสนใจ และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น

เจสสิก้า หวาง พูเลอร์ หุ้นส่วนของบริษัทร่วมทุนโอเพนสเปซ (Openspace) กล่าวว่า บริษัทต่าง ๆ ตอนนี้กำลังมุ่งเน้นไปที่การทำกำไร แทนการขยายการเติบโตของบริษัท โดยปีที่แล้ว มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากมายโดยเกิดจากต้นทุนที่ถูกในตลาดที่ใหญ่ หลายบริษัทเติบโตมาก ไม่ว่าจะลงทุนแค่ไหน

“สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือมีการจ้างงานเยอะมาก หากคุณเกิดปัญหาตรงไหน คุณแค่โยนคนไปตรงนั้น และฉันก็คิดว่า ฉันจะเห็นสิ่งเหล่านี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” หวาง พูเลอร์กล่าวโดยอ้างจากสถานการณ์การเลิกจ้างในธุรกิจเทคโนโลยี

งานหดหาย

ช้อปปี้เลิกจ้างพนักงานในส่วนของ ช้อปปี้ฟู้ด และช้อปปี้เพย์ อย่างที่เกิดขึ้นที่อาร์เจนตินา ชิลี และแม็กซิโก โดยการเลิกจ้างนั้น แจ้งให้ทราบผ่านอีเมล์จาก คริส เฟิง ผู้บริหารสูงสุด บางส่วนของอีเมล์ระบุว่า “จากความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง เราเชื่อว่าควรระมัดระวังในการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ที่ยากแต่สำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและมุ่งเน้นทรัพยากรของเรา”

สแตช อเวย์ (StashAway) แพลตฟอร์มบริการการลงทุนดิจิทัล บริหารพอร์ตการลงทุนตามข้อมูลทางเศรษฐกิจ จากสิงคโปร์ เลิกจ้างพนักงาน 31 คน หรือ 14% ของจำนวนพนักงานในปลายเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน

อีกทั้ง ไอไพร์ซ (iPrice) แพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ของมาเลเซียปลดพนักงาน 1 ใน 5 เมื่อเดือนมิถุนายน ในขณะเดียวกัน บริษัทเทคโนโลยีการศึกษาของชาวอินโดนีเซียที่ชื่อ ซีเนียส ( Zenius) ได้ปลดพนักงานกว่า 200 คนแล้ว

การเปิดรับสมัครงานในภาคธุรกิจเทคโนโลยีของสิงคโปร์ลดลงจากปีที่แล้ว ตามข้อมูลของพอร์ทัลงานเทคโนโลยีโนเดแฟร์ (Nodeflair) ตำแหน่งรับสมัครงานในสิงคโปร์ลดลงจากประมาณ 9,200 ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 2564 เป็น 8,850 ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2565 สตาร์ตอัพมีความระมัดระวังมากขึ้นในการปรับขยายทีม ในช่วงที่อนาคตไม่แน่นอน

เจฟรีย์ โจ หุ้นส่วนผู้จัดการของบริษัทร่วมทุน อัลฟ่า เจดับเบิ้ลยูซี กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเป็นปัญหาสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจ ต้นทุนของเงินทุน และความคาดหวังของผลตอบแทน โดยอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น จะทำให้กำไรน้อยลง

“เราจึงต้องเลิกจ้างเพิ่มไหม ผมว่าใช่”  โจกล่าว

ส่วนเจมส์ ตัน หุ้นส่วนผู้จัดการของบริษัทร่วมทุน เควส เวนเจอร์ กล่าวว่า ในขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นและเศรษฐกิจเผชิญกับความไม่แน่นอน

“ไม่ใช่เรื่องแปลกที่บริษัทต่าง ๆ จะทำการเลิกจ้าง” เจมส์ ตัน กล่าว